สาระขององค์กรอายุ 68 ปีที่บอกว่า ‘ความสุขคือทุกอย่าง’ มาตลอด 15 ปี โดยสาระ ล่ำซำ

สาระ ล่ำซำเล่าให้เราฟังว่าตอนนี้เขากำลังฝึกว่ายน้ำอยู่

เร็วๆนี้ ในสนามการแข่งขันไตรกีฬา กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเมืองไทยประกันชีวิต จะกลายเป็นหนึ่งในผู้แข่งขันท่ามกลางคนอีกหลายพันคน เขาเล่าให้เราฟังต่อว่าตัวเองไม่ค่อยกังวลเรื่องวิ่งกับปั่นจักรยานเท่าไหร่ แต่กับการว่ายน้ำ เขากำลังซ้อมเพื่อทำเวลาให้ดียิ่งขึ้น

“มันเป็นอีกหนึ่งแพสชั่นของชีวิตที่เรามีความสุข” สาระบอกเราแบบนั้น

กับบทบาทการทำงาน สาระเป็นผู้นำของเมืองไทยประกันชีวิตมาหลายปี เขาพาองค์กรเติบโตในธุรกิจประกันชีวิตและฝ่าการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยมาหลายระลอก รวมถึงในยุคนี้ที่เมืองไทยประกันชีวิต รีแบรนด์อีกครั้งเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่หลากหลายมากขึ้น แต่การรีแบรนด์ครั้งนี้ พวกเขายังคงใช้เมสเสจเดิมที่ตั้งใจสื่อสารมาตลอด 15 ปี คือ “ความสุข” โดยในครั้งนี้ขยายความว่า

  “Happiness Means Everything – ความสุขคือทุกอย่าง”

กับองค์กรที่เก่าแก่ ไม่แปลกที่พวกเขาจะต้องค่อยๆ ปรับตัวเปลี่ยนผ่านตามกาลเวลา บางอย่างยังจะคงอยู่ บางอย่างจะปรับตัว และบางอย่างต้องเปลี่ยนแปลง แต่คำถามสำคัญของเมืองไทยประกันชีวิตคือพวกเขาทำอะไรบ้างกับโลกที่หมุนไปในปัจจุบัน ทำไมความสุขถึงเป็นแกนหลักที่ยังคงอยู่มาตลอดสิบกว่าปี

ฟังคำตอบที่มีสาระจากชีวิตการทำงานของสาระกันได้เลย

เมืองไทยประกันชีวิตถึงเลือกสื่อสารคำว่า ‘ความสุข’ มา 15 ปีแล้ว คุณสนใจอะไรในคำคำนี้

ถึงเราทำธุรกิจประกัน แต่ผมมองไปไกลกว่านั้นว่าเราสามารถที่จะเติมเต็มชีวิตคนให้มีความสุขได้โดยการป้องกันทั้งเชิงความเสี่ยงหรือสุขภาพ ผมเชื่อว่าถ้าเราทำแบบนี้ รอยยิ้มของคนจะเกิดขึ้น และนั่นคือความสุข ไม่ว่าจะเป็นคนช่วงวัยไหน ความสุขก็ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนมองหา ดังนั้นถึงเราจะเดินหน้ามาตลอด 15 ปี เราอาจจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรืออะไรหลายๆ อย่างแต่กับคำนี้ เรายังเชื่อเหมือนเดิม นั่นเป็นเหตุผลที่เราเปลี่ยนสีแบรนด์เป็นสีบานเย็นด้วยในตอนนั้น มันเป็นสีที่มาจากแสงอาทิตย์ตอนเช้าและสื่อถึงการเริ่มต้นวันใหม่

ความสุขที่ว่าหมายถึงของลูกค้า

คนทำงานด้วยนะครับ ยิ่งเด็กรุ่นใหม่ ผมสัมผัสได้ว่างานกับความสุขในตัวเขาสอดคล้องกัน อย่างครั้งหนึ่งผมให้น้องๆ ในทีมทำโปรเจคท์ e-commerce จนปล่อยออกมาใช้ได้จริง ผมเห็นเลยว่าเขามีความสุข มันอาจเป็นงานที่ไม่ได้ทำกำไรสูงสุด แต่เขาก็ได้ประสบการณ์ ทีมอื่นที่เห็นก็อยากทำ เขาเริ่มแชร์กัน นี่คือเซนส์ของความสุขในการทำงานที่ส่งต่อกันได้

ในฐานะผู้นำ เราเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างเพื่อให้คนในองค์กรมีความคิดแบบนี้

ผมคิดว่ามันคือการจัดองค์ประกอบอื่นๆ ที่ต้องเอื้อให้เขาเป็นแบบนี้ได้อย่างสบายใจ ทั้งสถานที่ องค์กร หรือแพลตฟอร์มต่างๆ เราต้องตอบโจทย์เขา แรงจูงใจคือเรื่องสำคัญ เราต้องสร้างองค์กรของเราให้ตอบโจทย์เขาให้ได้ เขาจะได้ไม่รู้สึกติดขัดอะไรและใช้ชีวิตง่ายขึ้น เขาสามารถพูดกับเราได้ทั้งแบบตัวต่อตัวและออนไลน์ น้องบางคนยังไลน์ไอเดียที่เขาคิดมาให้ผมตอนเที่ยงคืนเลย ผมโอเคนะที่เขาสามารถแชร์ไอเดียกับเราได้ทุกเมื่อ

จากที่สังเกตุ คนทำงานทุกวันนี้ต้องการอะไร

สิ่งที่ต่างจากเมื่อก่อนมากๆ คือเขาต้องการการเติบโตในแนวนอนมากขึ้น แน่นอนว่าการเติบโตในเชิงเส้นทางอาชีพในแนวตั้งยังคงสำคัญ แต่ผมคิดว่าในยุคนี้ คนเราจำเป็นต้องมีมัลติสกิล ความโชคดีอันหนึ่งคือองค์กรของเรามีหลายโอกาส น้องๆ เลยสามารถหมุนเวียนไปทำนู่นทำนี่ตามที่เขาชอบและอยากทำได้ เขาจะมองภาพกว้างขึ้น เห็นอะไรเยอะขึ้น ทำงานได้หลากหลายมากขึ้น ซึ่งเจ๋งมากเลย ผมดีใจที่ทุกคนมีความรู้และแพสชั่นกับเรื่องนี้

แล้วสำหรับตัวคุณเอง ความสุขในการทำงานคืออะไร

ผมยังเอนจอยเหมือนเดิมนะ ผมยังอยากทำให้เมืองไทยประกันชีวิตเป็นองค์กรที่ตอบโจทย์คนไทย ในแง่งาน ผมยังคงคิดว่าประกันชีวิตมีเสน่ห์

เสน่ห์ที่ว่าคืออะไร

ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่อง market share อะไรเลย แต่มันคือเรื่องความรับผิดชอบต่อผู้ประกันภัยในระยะยาว ถ้าเราทำได้ดีก็จะมีการบอกแบบปากต่อปาก ยิ่งโลกของดิจิทัลยิ่งแล้วใหญ่ เพราะฉะนั้นความยั่งยืนจึงเป็นหัวใจสำคัญ ผมไม่ต้องการทำอะไรมากเกินไป เราถนัดเรื่องประกันชีวิต เราก็ทำเรื่องนี้ ทำในสิ่งที่เราเข้าใจและโฟกัสได้ ผมได้เจอและติดต่อกับคนเยอะมากจากงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือแพสชั่นตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ผมว่าการมีแพสชั่นกับงานมันสำคัญนะ ผมอยากจะทำให้องค์กรรู้สึกแบบนี้ ถามว่างานเหนื่อยไหม ก็เหนื่อย แต่การมีแพสชั่นทำให้เราเต็มร้อยกับงานได้ ยิ่งความท้าทายของยุคสมัยที่หลายธุรกิจถูก disrupt ถ้าเรามองมันเป็นปัญหาก็คงรู้สึกแย่กันไปหมด แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันช่างน่าตื่นเต้น ถ้าก้าวข้ามไปได้คงจะเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก

จำเป็นไหมที่ทุกคนในองค์กรต้องมีแพสชั่น

แล้วแต่คนนะครับ ถ้ามีก็ดี ไม่มีก็ได้ แค่เราต้องไม่ไปเอารัดเอาเปรียบใคร ทำในสิ่งที่รักแบบพอเพียงแบบไม่ลำบาก ช่วยใครได้ก็ช่วย รับผิดชอบในงานตัวเองและมีความสุข สุดท้ายจะมีหรือไม่มีแพสชั่นก็ได้ขอแค่ในตอนจบคุณมีผลลัพธ์ที่ดี ผมเองมีความสุขกับองค์กรและคนในองค์กรนี้ เราเป็นทีมเดียวกันที่มีความสุขร่วมกันได้ อะไรที่มีปัญหาก็แก้กันไป อย่ายอมแพ้ เพราะไม่มีใครมีความสุขได้ตลอดหรอก

อะไรคือสิ่งที่ยากในการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้

ในบางครั้งคนที่อยู่มานาน เราก็ต้องเข้าใจว่าเขามีประสบการณ์เยอะ แต่บางทีก็ทำให้เขาเป็นน้ำเต็มแก้ว ไม่รับอะไรใหม่ ผมเองก็เคยเป็นอย่างนั้น  เราเคยยึดติดกับสิ่งที่ทำว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้นผมก็ต้องเบรคตัวเองเหมือนกัน ผมต้องเรียนรู้ว่าเราไม่มีวันจะรู้ทุกเรื่อง ในโลกใหม่ บางครั้งเราก็ต้องให้น้องๆ สอนเรา เขาเกิดมากับเทคโนโลยีและวิธีคิดแบบใหม่ ดังนั้นเขารู้มากกว่าเราในหลายๆ เรื่องอยู่แล้ว

สลายความยึดติดเหล่านี้ของคนเก่าคนแก่ในองค์กรได้อย่างไร

หนึ่งคือเสริมสร้างการสื่อสารกันและกันในองค์กร สองคือถ้าเป็นในระดับผู้บริหาร ผมจะเข้าไปพูดเพื่อให้เข้าใจเอง สามคือระบบในองค์กรที่ถูกจัดสรรใหม่ให้เอื้อต่อการทำงานแบบนี้ได้ สี่คือตัวผมเองที่ต้องไม่ใช้อำนาจทุบโต๊ะในทุกเรื่อง ห้าคือการสร้างสภาพแวดล้อมในองค์กรให้รีแลกซ์ ยกตัวอย่างเช่นการเปิดเวทีชื่อ Cap Off ในวันศุกร์ เพื่อให้คนจากทุกฝ่ายสามารถมาเสนอความคิดเห็นกันได้ ตั้งแต่เรื่องงานประกันชีวิตไปจนถึงความคิดสร้างสรรค์

คุณมองการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันและอนาคตไว้ว่าอย่างไรบ้าง จะมีวิธีรับมือกับมันอย่างไร

ผมยังคงมองว่ามันเป็นเรื่องท้าทายนะ แต่ก็ไม่ประมาท ในมุมหนึ่งผมคิดว่าเรากลัวอนาคตไว้ก็ดีแล้ว ความกลัวจะทำให้เราอยากพัฒนา  กลัวแล้วต้องไม่สติแตก แต่ต้องเผชิญหน้าและพัฒนา เพราะเอาจริงๆ เราไม่รู้หรอกครับว่าองค์กรในโลกนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ถึงต่อให้มั่นคงก็อาจจะไม่แน่นอน  สำคัญคือเราต้องรู้ว่าตัวเองทำอะไรและหวังจะให้ผลสุดท้ายออกมาอย่างไร ปรับแต่งมันไปเรื่อยๆ โดยไม่ยึดกับรูปแบบตายตัว

สุดท้ายแล้วในมุมของเมืองไทยประกันชีวิต เรามองเห็นอะไรในอนาคตบ้าง

มันอาจจะมีกฎเกณฑ์หรือกฎหมายใหม่ๆ ออกมามีผลกระทบกับเรา บางครั้งเราไม่มีทางจะเดาได้ เรามีหน้าที่แค่รับมือมันให้ได้ มีสติและโฟกัส เพราะสุดท้ายมันก็ย้อนกลับมาที่เรื่องเดิมว่าเราพยายามทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด เพียงแค่ในแต่ละช่วง โจทย์มันจะต่างออกไปเท่านั้นเอง

 

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

ปฏิพล รัชตอาภา

ช่างภาพอิสระที่สนใจอาหาร วัฒนธรรม และศิลปะร่วมสมัย มีความฝันว่าอยากทำงานศิลปะเล็กๆ ไปเรื่อย รวบรวมผลงานไว้ที่ pathipolr.myportfolio.com