TODAY
D-DAY
TOTAL TIME
TIMETABLE
วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม
ส่งงานปลายเดือนนี้
วันนี้ต้องทำเวลาให้ได้!
เครื่องบินออกจากสนามบินตอนตี 2
ถึงโซลตอน 10 โมงเช้า
เช็คอิน
ออกตะลุยเกาหลี!!
ฉันอ่านทวนตารางเวลาและสิ่งที่ต้องทำวันนี้อีกครั้ง ก่อนจะเก็บสมุดแพลนเนอร์ใส่ลงในกระเป๋า
วันนี้ต้องทำเวลาให้ได้!!
ฉันบอกตัวเองอีกครั้ง!!!
การบริหารเวลาเป็นอีกปัญหาหนึ่งของเราๆ ในตอนนี้ ด้วยความที่ชีวิตมีแต่ความเร่งรีบ รายละเอียดยุ่บยั่บ แล้วแทบทุกอย่างยังมีกำหนดเส้นตายเต็มไปหมด
วันนี้ พรุ่งนี้ บ่ายนี้ เย็นนี้
ตอนนี้!!
ไม่ว่าจะบริหารเวลาเท่าไร ก็รู้สึกเหมือนกำลังอยู่บนลู่วิ่งตลอดเวลา…
แต่ตั้งแต่ค้นพบสมุด “แพลนเนอร์” ของเกาหลี ชีวิตก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ!!! ความรู้สึกว่าต้องรีบทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เสร็จตลอดเวลา เริ่มหายไป กลายเป็นสติเข้ามาแทนที่..
สมุดแพลนเนอร์เป็นของคู่กายของคนทำงาน และนักเรียน นักศึกษาชาวเกาหลี เพื่อจัดการตารางชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและลงตัว สำหรับคนทำงานส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องการประชุม การนำเสนองาน กำหนดส่งงาน และเส้นเวลาของโปรเจกต์ต่างๆ สำหรับนักเรียน นักศึกษา ก็เป็นเรื่องการเตรียมสอบ อ่านหนังสือสอบ ทำการบ้าน ส่งงาน และกิจกรรมอีกมากมาย
แพลนเนอร์ของเกาหลี 1 เล่ม สามารถใช้จดรายละเอียดที่กล่าวมาลงไปได้ทั้งหมด โดยมักแบ่งออกเป็นแบบ 100 วัน (ประมาณ 1 ภาคเรียน) แบบ 4 เดือน (1 ไตรภาค) ครึ่งปี และ1 ปีเต็ม ภายในเล่มมักเปิดด้วยพื้นที่สำหรับเขียนเส้นเวลา เพื่อให้เห็นภาพรวม ก่อนที่จะแบ่งออกส่วนๆ ตามเดือน สัปดาห์ หรือว่าตามวันเวลา
แล้วขนาดและน้ำหนักของสมุดแพลนเนอร์เกาหลี ยังได้รับการออกแบบตามพฤติกรรมการใช้งานของเราๆ อีกด้วย
สำหรับคนที่ชอบพกของเยอะๆ ไปทุกที่ สมุดแพลนเนอร์จะมีขนาดไม่ใหญ่เกินไป มีน้ำหนักไม่มาก พกใส่กระเป๋าได้สบายๆ แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบเขียนหรือจดอย่างละเอียดยิบ สมุดแพลนเนอร์เล่มหนาหลายร้อยหน้าก็เป็นคำตอบที่ตรงใจที่สุด
เท่านี้ไม่พอ ยังมีแพลนเนอร์แบบดิจิทัลให้เลือก ส่วนใหญ่จะใช้กับแอพพลิเคชั่นขวัญใจวัยเรียนอย่าง Goodnote ข้อดีของแพลนเนอร์แบบนี้คือ เขียนใส่ใน i-pad ได้เลย ไม่ต้องใส่กระเป๋าเพิ่มน้ำหนัก แล้วยังสามารถซื้อสติ๊กเกอร์ดิจิทัลแปะเพิ่มในแอพได้ด้วย
ราคาสมุดแพลนเนอร์ส่วนใหญ่เริ่มที่ 5,000 – 10,000 วอน (ประมาณ 140 – 280 บาท) ส่วนแบบดิจิทัลเองก็มีราคาเท่าๆ กัน ถ้าซื้อสติ๊กเกอร์แปะเพิ่มก็ประมาณแผ่นละ 2,500 วอน (65 บาท) ทั้งแบบกระดาษและแบบดิจิทัล
นอกจากจะช่วยบริหารเวลาและตารางชีวิตได้แล้ว สิ่งที่ต้องยกนิ้วให้คือ การแทรกพื้นที่ให้เขียน “เป้าหมาย” อยู่ตลอดทั้งเล่ม เพื่อเป็นการย้ำเตือนความสำคัญของสิ่งที่มุ่งมั่นตั้งใจ
ทั้งเป้าหมายประจำวันนี้ เดือนนี้ และของ 3 เดือนนี้ เพื่อให้เรารู้ว่าตอนนี้เรากำลังทำอะไร เพื่ออะไร และอยากที่จะมุ่งไปที่ใด
หลังจากที่ลองใช้แพลนเนอร์ของเกาหลีมาเป็นเวลา 1 เดือนกว่าๆ ก็พบว่าสามารถจัดการชีวิตได้ดีกว่าเดิม เห็นภาพรวมมากขึ้น รู้สึกรีบเร่งน้อยลง มีเวลาหายใจมากขึ้น แล้วก็วางแผนอนาคตระยะสั้น (3 เดือน) ได้เป็นรูปธรรมมากกว่าที่เคยเป็นมา
ส่วนตัวมองว่าแพลนเนอร์ของเกาหลีออกแบบตามหลักการมีผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง (User-centered design) เพื่อช่วยแก้ปัญหา ตอบโจทย์ความต้องการและ pain point ของคนทำงานและนักเรียน นักศึกษาได้อย่างแท้จริง
เท่านั้นยังไม่พอ! นอกเหนือไปจากประสิทธิภาพในการเป็นผู้ช่วยบริหารเวลาให้กับเราแล้ว การเขียนสิ่งต่างๆ ลงไปในแพลนเนอร์ เป็นเหมือนกับการให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าจะต้องทำสิ่งนั้นให้สำเร็จด้วย
แพลนเนอร์เกาหลี 1 เล่มจึงเป็นมากกว่าสมุดจดหรือสมุดบันทึก
แต่เป็นการบริหารเวลาอย่างชาญฉลาด และช่วยให้เราลงมือตั้งเป้าหมายชีวิตกันอย่างจริงจังเสียที
แต่จะเป็นระยะสั้น หรือระยะยาว
คนที่กำหนดและลงมือทำก็คือ ตัวของเราเอง
หนึ่งเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา…
จึงรู้สึกขอบคุณที่การงานดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น ด้วยแพลนเนอร์เกาหลีเพียงเล่มเดียว!
เครดิตภาพ