ส่องเทรนด์สายมูในเกาหลี จากตำหนัก สู่คาเฟ่ เต็นท์ และแอพฯ ดูดวงในยุค social distancing

ดูดวงเกาหลี ภาพจำของเกาหลีใต้ในความคิดใครหลายคนคงหนีไม่พ้นอุตสาหกรรมบันเทิง กระแส K-pop เทคโนโลยีล้ำสมัย และการขนส่งสาธารณะที่ทั่วถึง แต่ในอีกมุมหนึ่งเกาหลีใต้ก็ยังมีวัฒนธรรมความเชื่อที่ขัดกับภาพลักษณ์ดังกล่าว อย่างการดูดวงที่ยังได้รับความนิยมอยู่และดูเหมือนจะมากขึ้นในปัจจุบัน

สำหรับคอซีรีส์หรือคอหนังเกาหลีส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยกับวัฒนธรรมเหล่านี้อยู่บ้าง อย่างการดูดวงนั้นก็ปรากฏอยู่หลายฉาก เช่น ซีรีส์เรื่อง Reply 1988 (2015) ที่แม่ๆ ทั้งสามคนชวนกันไปตำหนักเทพธิดาพยากรณ์เพื่อดูดวงชะตาของลูกว่าจะได้เข้ามหาวิทยาลัยดีๆ หรือไม่ แม่ของท็อกซอน (แสดงโดย ฮเยรี) ถึงกับต้องทำตามคำแนะนำของหมอดูว่าต้องเปลี่ยนชื่อท็อกซอนเป็นซูยอนจนกว่าจะได้เข้ามหาวิทยาลัย

ดูดวงเกาหลี
ดูดวงเกาหลี

หรือซีรีส์แนวโรแมนติกคอเมดี้เรื่อง Lucky Romance (2016) ก็มีตัวละครชิมโบนี (แสดงโดย ฮวังจ็องอึม) ที่เชื่อคำทำนายของหมอดูว่าเธอจะต้องตายหากไม่ได้หลับนอนกับชายหนุ่มเวอร์จิ้นที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ จนกลายเป็นเรื่องราวต่างๆ ตามมา

หรือแม้แต่ซีรีส์ที่ว่าด้วยธุรกิจของคนรุ่นใหม่อย่าง Start-Up (2020) ก็ยังมีฉากที่ซอดัลมี (รับบทโดย แพซูจี) นอนกระวนกระวายว่าจะเข้าร่วมการประมูลแพลตฟอร์มรถขับเคลื่อนอัตโนมัติดีหรือไม่ จนสุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเปิดแอพฯ ดูดวง ‘เชื่อหรือไม่ไพ่ทาโรต์’ ขึ้นมาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ (แม้สุดท้ายเธอจะตัดสินใจอีกแบบก็ตาม)

ดูดวงเกาหลี
ดูดวงเกาหลี

แต่นอกจากในสื่อบันเทิงแล้ว ในชีวิตจริงของคนเกาหลีก็ใกล้ชิดกับการดูดวงไม่แพ้กัน ยืนยันด้วยจำนวนสถานที่ดูดวงในย่านต่างๆ ที่มีเยอะชนิดที่ต่อให้ไม่สนใจหรือไม่เชื่อเรื่องดวงก็ต้องเคยเห็นผ่านตาแน่นอน

สถานที่ดูดวงที่ว่าล้วนมีจุดเด่นที่น่าสนใจ ทั้งประเภทที่อยู่ในและนอกอาคาร ภาพที่คุ้นตาที่สุดในสื่อบันเทิงคือสำนักดูดวงซึ่งตั้งอยู่ภายในอาคาร เป็นห้องที่มีลักษณะคล้ายตำหนักดูดวงของไทย ซึ่งประกอบไปด้วยเทียน เครื่องบูชา และรูปภาพเทพยดาทั้งหลาย ให้บรรยากาศที่ขลังและน่าเกรงขาม

ถัดมาในยุคหลังๆ ก็เริ่มมีสถานที่ดูดวงที่เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น ซึ่งเรียกว่า ‘ซาจูคาเพ่’ (사주카페) หรือคาเฟ่ดูดวงนั่นเอง บรรยากาศจะเหมือนร้านกาแฟ มีการขายเครื่องดื่มต่างๆ และดูดวงไปด้วย ส่วนค่าดูดวงในคาเฟ่ก็ถือว่าย่อมเยามากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่มีรายได้ เช่น นักเรียน นักศึกษา 

ดูดวงเกาหลี

หากสังเกตดีๆ เราจะเห็นคาเฟ่ดูดวงอยู่มากมายหลายที่ แม้กระทั่งย่านที่วัยรุ่นนิยมไปรวมตัวกัน เช่น แถวหน้ามหาวิทยาลัยฮงอิก (หรือที่เรียกกันว่าฮงแด) ย่านยอนนัมดง และแทฮังโน เป็นต้น ส่วนย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องการดูดวงโดยเฉพาะเลยก็มีเช่นกัน อย่างชั้น 1 ของตลาดซอ-มย็อน เมืองปูซาน จะมีตรอกหนึ่งที่เต็มไปด้วยสำนักดูดวงหลายสำนัก นิยมใช้ชื่อว่า ‘ชอลฮักกวัน’ (철학관) หรือ ‘ชอลฮักวอน’ (철학원) หากแปลตรงตัวจะหมายถึง ‘สำนักปรัชญา’ แต่จริงๆ ก็คือตำหนักรับดูดวงนั่นเอง

ภาพจาก m.blog.naver.com/PostView.naver?isHttpsRedirect=true&blogId=jay32&logNo=220991031051

อย่างที่เกริ่นไปว่าสถานที่ดูดวงแบบเอาต์ดอร์ของคนเกาหลีก็มีอยู่ไม่น้อย นั่นคือเต็นท์ดูดวงริมทางเดิน มองจากภายนอกจะคล้ายเต็นท์แดงที่เป็นร้านขายอาหารและเหล้าโซจูแบบที่ปรากฏในหนังเกาหลีอยู่บ่อยๆ แต่จะมีขนาดเล็กกว่า และมักจะมีป้ายระบุชัดเจนว่ารับดูดวงชะตา ดวงเนื้อคู่ หรือดูไพ่ทาโรต์

ดูดวงเกาหลี
ภาพจาก 0168265.tistory.com/689

เมื่อสถานที่ดูดวงเข้าถึงได้ง่ายขนาดนี้ เป็นไปได้ว่าคนเกาหลีจำนวนมากคงจะมีประสบการณ์ในการดูดวง จากผลสำรวจในปี 2018 พบว่า วัยรุ่นอายุสิบกว่าไปจนถึงคนวัยสามสิบปลายๆ นิยมดูดวงกันเป็นจำนวนมาก ในกลุ่มคนที่อายุ 10-39 ปี คนที่เคยมีประสบการณ์ดูดวงมีจำนวน 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนที่ดูดวงอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้งขึ้นไปนั้นมีจำนวน 24 เปอร์เซ็นต์ และคนที่ดูดวงทุกวันมีจำนวน 11 เปอร์เซ็นต์ ดูดวงเกาหลี

เหตุผลที่ทำให้คนเกาหลีดูดวงมากที่สุดก็คือ เพราะสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง ส่วนเหตุผลรองลงมาคือดูดวงเพื่อเป็นการปลอบขวัญและกำลังใจให้กับตัวเอง และเหตุผลอันดับที่สามคือ ดูดวงเพื่อคลายเครียดและคลายความกังวลใจ

ดูดวงเกาหลี
ภาพจาก m.blog.naver.com/PostView.naver?isHttpsRedirect=true&blogId=dh11188&logNo=221588004262

นอกจากนี้ผลสำรวจในปี 2020 พบว่า ในบรรดาคนที่กำลังหางานทำอยู่จำนวนกว่า 300 คน มีคนที่ดูดวงเกี่ยวกับเรื่องการงานมาแล้วหรือมีแผนว่าจะไปดูดวงนั้นมีจำนวนถึง 65.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเหตุผลในการดูดวงสามอันดับแรกคือ เพื่อการปลอบใจตัวเอง รู้สึกอึดอัดใจเกี่ยวกับการหางาน และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเกี่ยวกับเส้นทางชีวิตของตัวเอง

จากตัวเลขที่ว่ามาทั้งหมดสามารถยืนยันได้ว่าคนเกาหลีนิยมดูดวงกันเป็นจำนวนมาก แต่พวกเขาจะเชื่อคำทำนายหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ที่น่าสนใจคือ มีคนที่เชื่อการทำนายว่าน่าจะตรงทั้งหมดอยู่เพียง 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และคนเกาหลีจำนวน 49.4 เปอร์เซ็นต์เชื่อเฉพาะการทำนายที่มีความหมายดี ส่วนคนที่ไม่เชื่อเรื่องดวงเลยมีอยู่ 22.3 เปอร์เซ็นต์

มีคนเกาหลีได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ถ้าคำทำนายออกมาดีก็จะเชื่อตามนั้น แต่ถ้าคำนายออกมาไม่ดีก็จะลืมมันเสีย” ซึ่งสอดคล้องกับที่บางคนกล่าวว่า “ไม่ได้เชื่อเรื่องดวงร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าคำทำนายออกมาดีก็ว่าดี แต่ถ้าออกมาไม่ดีก็คิดเสียว่าต้องระมัดระวังให้มากขึ้น”

อีกผลสำรวจหนึ่งในปี 2019 ระบุว่า ในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,000 คนในช่วงอายุ 19-59 ปี มีคนที่มีความเห็นว่าสาเหตุที่คนนิยมดูดวงกันมากขึ้นนั้นมาจากความไม่สบายใจต่อสถานการณ์ในปัจจุบันอยู่ถึง 73.9 เปอร์เซ็นต์

Nowadays text and longer text then longer text also longer text Longer text and longer text. Last but not least longer text also longer text. ในช่วงปี 2020-2021 คนเกาหลียิ่งนิยมดูดวงกันมากขึ้นเพราะความรู้สึกไม่สบายใจ อัดอั้นตันใจ รู้สึกต้องการปลอบประโลมใจ และด้วยสถานการณ์โควิดจึงนิยมดูดวงผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ กันมากขึ้นเป็นประวัติการณ์

ไม่ใช่แค่การดูดวงเท่านั้นที่ใช้ระบบออนไลน์ คนเกาหลียังสั่งซื้อยันต์เพื่อเสริมดวงอีกด้วย บริษัทที่เปิดแพลตฟอร์มไว้สำหรับบริการรับดูดวงที่มีชื่อเสียงในเกาหลีแห่งหนึ่งได้เริ่มขายยันต์เสริมดวง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก การงาน สุขภาพ โชคลาภ และเรื่องอื่นๆ ราว 20 เรื่อง ปรากฏว่ามีคนสั่งซื้อยันต์ต่างๆ เป็นจำนวนมากจนขายหมดเกลี้ยงภายในหนึ่งเดือน จึงต้องทำออกมาใหม่ตามความต้องการของลูกค้าLonger text and longer text then longer text. However longer text Longer text and longer text then longer text also longer text.

ในสถานการณ์โควิดเช่นนี้ สิ่งที่พอจะเป็นที่พึ่งทางใจสำหรับคนเกาหลี นอกจากการหวนระลึกถึงวันวานแล้ว การดูดวงก็ดูจะเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาและปลอบประโลมใจคนเกาหลีอีกทางหนึ่ง


อ้างอิง

ajunews.com

chosun.com

datasom.co.kr

mhdata.or.kr

news.mt.co.kr

openads.co.kr

AUTHOR

ILLUSTRATOR

JARB

นักวาดภาพประกอบเจ้าของเพจ JARB ผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่าสไตล์ตัวเองจริงๆ คืออะไร แต่ก็ยังรู้สึกสนุกกับการทำงานหลากหลายสไตล์ โดยหวังว่าสักวันจะเจอสไตล์ที่ชอบจริงๆ สักที