เซตภาพถ่ายนอกแลนด์มาร์กสิงคโปร์ ผ่านมุมกล้องและมุมมองของ ‘พิชัย แก้ววิชิต’

พิชัย แก้ววิชิต เซตภาพถ่าย

ถ้าใครได้ดูสารคดี a doc ตอน พิชัย แก้ววิชิต ไปแล้ว คงรู้ว่าเร็วๆ นี้ เราเพิ่งมีโอกาสได้ติดตามเอกไปถ่ายรูปที่ประเทศสิงคโปร์ถึง 4 วัน 3 คืน โดยพิเศษตรงที่นี่คือครั้งแรกของเขาในสิงคโปร์ และเป็นครั้งแรกที่เขาตั้งใจไปต่างประเทศเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ

เช่นเดียวกับการมาสิงคโปร์ครั้งแรกของหลายคน ตารางเดินทางของเราปรากฏทั้งชื่อแลนด์มาร์กอย่างเมอร์ไลออน, มาริน่า เบย์, ห้าง Jewel Changi หรือ Gardens by the Bay แต่ทุกครั้งที่แวะไปยังที่เหล่านี้ เอกกลับใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินสำรวจพื้นที่รอบๆ ถ้าเวลาน้อยหน่อยก็ในรัศมีใกล้ๆ วันไหนพอมีเวลา ระยะทางก็จะไกลออกไปเรื่อยๆ กระทั่งครั้งหนึ่งที่พวกเราเดินออกห่างจากจุดเริ่มต้นไปหลายกิโลฯ

หลังคาสวยๆ เสาตอม่อล้อแสงแดด ซอกตึกยามเย็น หรือฟุตพาทข้างทาง จึงเป็นสิ่งที่เราได้เห็นเยอะพอๆ กับสถานที่ที่ยอดฮิตในหนังสือนำเที่ยว

พิชัย แก้ววิชิต เซตภาพถ่าย

“สารภาพเลยว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่เขาถ่ายกันเยอะๆ อยู่แล้ว เราจะไม่ค่อยถ่าย ไม่ค่อยรู้สึก เพราะฉะนั้นเราจะถ่ายในมุมเหมือนที่เราถ่ายที่กรุงเทพฯ คือถ่ายไปเรื่อยตามถนนหนทาง ไปถ่ายสถานที่ที่คนไม่ได้สนใจว่าจริงๆ มันมีความงามซ่อนอยู่ เพราะฉะนั้นมาสิงคโปร์ครั้งนี้ก็จะพยายามหาสิ่งเหล่านี้ให้เจอเหมือนกัน” เอกเปรยให้เราฟังเย็นวันหนึ่ง

“จริงๆ แลนด์มาร์กเราก็ไปเที่ยวได้ แต่สิ่งที่เราชอบไม่แพ้แลนด์มาร์กก็คือการที่เราได้ออกไปเดินนอกลู่นอกทาง อย่างเราสนใจถนนที่อยู่ข้างหลังเมอร์ไลออนมากกว่า เพราะมันจะมีสะพานข้ามแม่น้ำ ใต้สะพานก็จะมีแสง มีเงามีตอม่อ สำหรับเรา มุมนี้น่าสนใจมากกว่า

“เราคิดว่าจริงๆ ชีวิตควรจะออกนอกลู่นอกทางบ้าง อันนี้ไม่ได้หมายถึงทำอะไรที่มันไม่ดีนะ แต่เพื่อที่จะได้เรียนรู้สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเราที่เราไม่คุ้นเคย พอเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เราไม่คุ้นชิน เราจะเห็นตัวเราเองชัดเจนมากขึ้น เหมือนถ้าเราอยู่ที่เดิมๆ คิดแต่เรื่องเดิมๆ เราก็จะไม่รู้คาแร็กเตอร์ว่าเราเป็นคนยังไง เราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อะไรที่เหมาะกับเรา แต่พอเราไปมาหลายที่ เราก็จะรู้ว่าเราชอบที่แบบนี้แหละ มันจะเติมเต็มให้เราเป็นตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น”

และรูปภาพต่อไปนี้คือบันทึกการเดินทางแถวๆ แลนด์มาร์กและนอกแลนด์มาร์กของสิงคโปร์ ผ่านสายตาและมุมกล้องของเอก ที่ทำให้เราหยุดมองสิ่งรอบๆ ตัวด้วยมุมมองใหม่อีกครั้ง

พิชัย แก้ววิชิต สิงคโปร์

พิชัย แก้ววิชิต สิงคโปร์

พิชัย แก้ววิชิต สิงคโปร์

พิชัย แก้ววิชิต สิงคโปร์

พิชัย แก้ววิชิต สิงคโปร์

พิชัย แก้ววิชิต สิงคโปร์

พิชัย แก้ววิชิต สิงคโปร์

ขอขอบคุณ Singapore Tourism Board

ขับวินฯ เพื่อเลี้ยงชีพ ถ่ายรูปเพื่อเลี้ยงจิตวิญญาณ

ถ้าใครได้ดูสารคดี a doc ตอน พิชัย แก้ววิชิต ไปแล้ว คงรู้ว่าเร็วๆ นี้ เราเพิ่งมีโอกาสได้ติดตามเอกไปถ่ายรูปที่ประเทศสิงคโปร์ถึง 4 วัน 3 คืน โดยพิเศษตรงที่นี่คือครั้งแรกของเขาในสิงคโปร์ และเป็นครั้งแรกที่เขาตั้งใจไปต่างประเทศเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับการมาสิงคโปร์ครั้งแรกของหลายคน ตารางเดินทางของเราปรากฏทั้งชื่อแลนด์มาร์กอย่างเมอร์ไลออน, มาริน่า เบย์, ห้าง Jewel Changi หรือ Gardens by the Bay แต่ทุกครั้งที่แวะไปยังที่เหล่านี้ เอกกลับใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินสำรวจพื้นที่รอบๆ ถ้าเวลาน้อยหน่อยก็ในรัศมีใกล้ๆ วันไหนพอมีเวลา ระยะทางก็จะไกลออกไปเรื่อยๆ กระทั่งครั้งหนึ่งที่พวกเราเดินออกห่างจากจุดเริ่มต้นไปหลายกิโลฯ หลังคาสวยๆ เสาตอม่อล้อแสงแดด ซอกตึกยามเย็น หรือฟุตพาทข้างทาง จึงเป็นสิ่งที่เราได้เห็นเยอะพอๆ กับสถานที่ที่ยอดฮิตในหนังสือนำเที่ยว
“สารภาพเลยว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่เขาถ่ายกันเยอะๆ อยู่แล้ว เราจะไม่ค่อยถ่าย ไม่ค่อยรู้สึก เพราะฉะนั้นเราจะถ่ายในมุมเหมือนที่เราถ่ายที่กรุงเทพฯ คือถ่ายไปเรื่อยตามถนนหนทาง ไปถ่ายสถานที่ที่คนไม่ได้สนใจว่าจริงๆ มันมีความงามซ่อนอยู่ เพราะฉะนั้นมาสิงคโปร์ครั้งนี้ก็จะพยายามหาสิ่งเหล่านี้ให้เจอเหมือนกัน” เอกเปรยให้เราฟังเย็นวันหนึ่ง “จริงๆ แลนด์มาร์กเราก็ไปเที่ยวได้ แต่สิ่งที่เราชอบไม่แพ้แลนด์มาร์กก็คือการที่เราได้ออกไปเดินนอกลู่นอกทาง อย่างเราสนใจถนนที่อยู่ข้างหลังเมอร์ไลออนมากกว่า เพราะมันจะมีสะพานข้ามแม่น้ำ ใต้สะพานก็จะมีแสง มีเงามีตอม่อ สำหรับเรา มุมนี้น่าสนใจมากกว่า
“เราคิดว่าจริงๆ ชีวิตควรจะออกนอกลู่นอกทางบ้าง อันนี้ไม่ได้หมายถึงทำอะไรที่มันไม่ดีนะ แต่เพื่อที่จะได้เรียนรู้สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเราที่เราไม่คุ้นเคย พอเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เราไม่คุ้นชิน เราจะเห็นตัวเราเองชัดเจนมากขึ้น เหมือนถ้าเราอยู่ที่เดิมๆ คิดแต่เรื่องเดิมๆ เราก็จะไม่รู้คาแร็กเตอร์ว่าเราเป็นคนยังไง เราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อะไรที่เหมาะกับเรา แต่พอเราไปมาหลายที่ เราก็จะรู้ว่าเราชอบที่แบบนี้แหละ มันจะเติมเต็มให้เราเป็นตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น” และรูปภาพต่อไปนี้คือบันทึกการเดินทางแถวๆ แลนด์มาร์กและนอกแลนด์มาร์กของสิงคโปร์ ผ่านสายตาและมุมกล้องของเอก ที่ทำให้เราหยุดมองสิ่งรอบๆ ตัวด้วยมุมมองใหม่อีกครั้ง
ถ้าใครได้ดูสารคดี a doc ตอน พิชัย แก้ววิชิต ไปแล้ว คงรู้ว่าเร็วๆ นี้ เราเพิ่งมีโอกาสได้ติดตามเอกไปถ่ายรูปที่ประเทศสิงคโปร์ถึง 4 วัน 3 คืน โดยพิเศษตรงที่นี่คือครั้งแรกของเขาในสิงคโปร์ และเป็นครั้งแรกที่เขาตั้งใจไปต่างประเทศเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับการมาสิงคโปร์ครั้งแรกของหลายคน ตารางเดินทางของเราปรากฏทั้งชื่อแลนด์มาร์กอย่างเมอร์ไลออน, มาริน่า เบย์, ห้าง Jewel Changi หรือ Gardens by the Bay แต่ทุกครั้งที่แวะไปยังที่เหล่านี้ เอกกลับใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินสำรวจพื้นที่รอบๆ ถ้าเวลาน้อยหน่อยก็ในรัศมีใกล้ๆ วันไหนพอมีเวลา ระยะทางก็จะไกลออกไปเรื่อยๆ กระทั่งครั้งหนึ่งที่พวกเราเดินออกห่างจากจุดเริ่มต้นไปหลายกิโลฯ หลังคาสวยๆ เสาตอม่อล้อแสงแดด ซอกตึกยามเย็น หรือฟุตพาทข้างทาง จึงเป็นสิ่งที่เราได้เห็นเยอะพอๆ กับสถานที่ที่ยอดฮิตในหนังสือนำเที่ยว
“สารภาพเลยว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่เขาถ่ายกันเยอะๆ อยู่แล้ว เราจะไม่ค่อยถ่าย ไม่ค่อยรู้สึก เพราะฉะนั้นเราจะถ่ายในมุมเหมือนที่เราถ่ายที่กรุงเทพฯ คือถ่ายไปเรื่อยตามถนนหนทาง ไปถ่ายสถานที่ที่คนไม่ได้สนใจว่าจริงๆ มันมีความงามซ่อนอยู่ เพราะฉะนั้นมาสิงคโปร์ครั้งนี้ก็จะพยายามหาสิ่งเหล่านี้ให้เจอเหมือนกัน” เอกเปรยให้เราฟังเย็นวันหนึ่ง “จริงๆ แลนด์มาร์กเราก็ไปเที่ยวได้ แต่สิ่งที่เราชอบไม่แพ้แลนด์มาร์กก็คือการที่เราได้ออกไปเดินนอกลู่นอกทาง อย่างเราสนใจถนนที่อยู่ข้างหลังเมอร์ไลออนมากกว่า เพราะมันจะมีสะพานข้ามแม่น้ำ ใต้สะพานก็จะมีแสง มีเงามีตอม่อ สำหรับเรา มุมนี้น่าสนใจมากกว่า
“เราคิดว่าจริงๆ ชีวิตควรจะออกนอกลู่นอกทางบ้าง อันนี้ไม่ได้หมายถึงทำอะไรที่มันไม่ดีนะ แต่เพื่อที่จะได้เรียนรู้สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเราที่เราไม่คุ้นเคย พอเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เราไม่คุ้นชิน เราจะเห็นตัวเราเองชัดเจนมากขึ้น เหมือนถ้าเราอยู่ที่เดิมๆ คิดแต่เรื่องเดิมๆ เราก็จะไม่รู้คาแร็กเตอร์ว่าเราเป็นคนยังไง เราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อะไรที่เหมาะกับเรา แต่พอเราไปมาหลายที่ เราก็จะรู้ว่าเราชอบที่แบบนี้แหละ มันจะเติมเต็มให้เราเป็นตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น” และรูปภาพต่อไปนี้คือบันทึกการเดินทางแถวๆ แลนด์มาร์กและนอกแลนด์มาร์กของสิงคโปร์ ผ่านสายตาและมุมกล้องของเอก ที่ทำให้เราหยุดมองสิ่งรอบๆ ตัวด้วยมุมมองใหม่อีกครั้ง

AUTHOR