เคยมั้ย? การเห็นรูปของสถานที่แห่งหนึ่งบ่อยๆ จนรู้สึกชินตา
แล้ววันหนึ่งเราก็ได้ไปเห็นสถานที่นั้นด้วยตาตัวเอง
สำหรับเราสถานที่นั้นคือ Yosemite National Park หรืออุทยานแห่งชาติโยเซมิตี ที่เราเคยสะดุดตากับภาพทิวทัศน์หนึ่ง เป็นป่าที่ห้อมล้อมด้วยหุบเขาน้อยใหญ่
ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา นั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้รู้จักและเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้
เราเริ่มการเดินทางตั้งแต่ 6 โมงเช้าที่เมืองซานฟรานซิสโก รถบัสออกเดินทางจากเมืองที่วุ่นวายสู่ดินแดนแห่งธรรมชาติโดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
ระหว่างทางเรารู้สึกว่าทุกอย่างดูสวยแปลกตาไปหมด สารภาพว่าตอนนั้นไม่คาดคิดเลยว่าสิ่งที่มหัศจรรย์จริงๆ คือสิ่งที่รออยู่ข้างหน้า
บริเวณที่เราจะไปเรียกว่า Yosemite Valley เป็นส่วนที่เห็นวิวทิวทัศน์ได้ชัดเจน หากจะสำรวจให้ครบทุกพื้นที่คงไม่ไหวเพราะพื้นที่ของอุทยานทั้งหมดมีขนาดใหญ่ถึง
3,027 ตารางกิโลเมตร
และแล้วเราก็มาถึง
ความรู้สึกแรกที่ได้ลงจากรถคือทุกอย่างดูน่าเหลือเชื่อมาก สิ่งที่เคยเห็นในรูปไม่น่าเชื่อว่าของจริงจะสวยงามได้ขนาดนี้
เหมือนเราหลุดมาอยู่ในดินแดนที่เคยเห็นแต่ในภาพยนตร์
ป่าเรียงรายและมีลำธารตัดผ่านเป็นบางช่วง ห้อมล้อมด้วยหน้าผาและภูเขาขนาดใหญ่ ลมเย็นกำลังดีที่
14 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวหลายคนหยิบกล้องและโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูป แต่เรายังยืนอึ้งกับสิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้า
ความรู้สึกง่วงที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อเช้าหายไปในทันที เหลือเพียงความรู้สึกว่าอยากจะนั่งเสพความงดงามนี้ไปเรื่อยๆ นี่แหละคือสถานที่ในฝันของเรา
เราเดินทางตามแผนที่ไปยังแลนด์มาร์กที่น่าสนใจ
โดยเริ่มจาก Yosemite Falls น้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดของอุทยาน การเดินทางในอุทยานจะเลือกขึ้น shuttle bus ก็ได้
แต่เราเลือกที่จะเดินเพราะอยากดื่มด่ำกับบรรยากาศและอากาศที่สดชื่น
ระหว่างทางเราได้เดินผ่านป่าที่มีต้นไม้สูงใหญ่มากมาย
แสงแดดอ่อนๆ สาดทะลุต้นไม้เข้ามาทำให้อุณหภูมิอุ่นขึ้นมานิดหน่อย เราเดินตามเส้นทางเข้าไปเรื่อยๆ จนเริ่มเห็นวิวน้ำตกส่วนบนของ
Yosemite Falls อากาศเริ่มเย็นลง ลมก็แรงขึ้น ยิ่งพอเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เราสัมผัสได้เลยว่าน้ำตกอยู่ไม่ไกลจากที่นี่
ในที่สุด เราก็มาถึงน้ำตก ยังไม่ทันจะเริ่มทำอะไร
ละอองน้ำก็สาดเข้ามาที่ตัวเราเต็มไปหมด เรามองไปรอบๆ บริเวณนั้น
ละอองน้ำกระจายทั่วพื้นที่คล้ายว่ามีหมอกลง เสียงน้ำตกดังจนแทบไม่ได้ยินเสียงตัวเองพูด ในรูปภาพอาจจะดูไม่ใหญ่โตหรือน่าทึ่งขนาดนั้น
แต่เราบอกได้เลยว่าของจริงตระการตามาก ทุกคนในบริเวณนั้นตื่นเต้นสนุกสนานกันมากจนลืมความความหนาวและเปียกแฉะไปเลย ยิ่งเราเข้าไปใกล้เท่าไหร่ เรายิ่งรู้สึกถึงความทรงพลังของน้ำตก
เราใช้เวลายืนมองน้ำตกและเก็บภาพบรรยากาศตรงนั้นระยะหนึ่ง แต่อยู่ได้ไม่นานมากก็ต้องเดินออกมาก่อนที่จะเป็นหวัดไปเสียก่อน
เราเดินมาทางทิศตะวันตกของ Yosemite Falls ในสภาพที่เปียกปอนสู่เป้าหมายต่อไป คือหน้าผา El Capitan สถานที่สุดท้าทายสำหรับผู้ชอบปีนเขาทั้งหลายเนื่องจากมีความสูงถึง
3,000 ฟุต จุดที่เราเดินมามีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าโล่งที่เห็นหน้าผา
El Capitan ได้ชัดมากๆ โดยแทบไม่ต้องเงยหน้า
วิวตรงนี้ถือเป็นอีกจุดที่สวยงามมากๆ
หน้าผาขนาดสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางหุบเขาในรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ หากเพ่งดีๆ
จะเห็นนักปีนเขาเป็นจุดสีเล็กๆ ห้อยตัวอยู่บนนั้น
ด้วยความที่เดิมทีเป็นคนกลัวความสูง แค่นึกภาพตัวเองขึ้นไปไต่หน้าผาก็รู้สึกหวาดเสียวขึ้นมาแล้ว
บรรยากาศตรงนั้นให้ความรู้สึกประทับใจจริงๆ นี่แหละคือความอัศจรรย์ของธรรมชาติ
พอเริ่มตกเย็น
เราก็เดินกลับไปยังจุดนัดพบเพื่อรอขึ้นรถบัส ถึงแม้จะเป็นเวลาเย็นแล้วแต่ท้องฟ้าก็ยังสว่างเหมือนตอนที่มาถึง
เวลาผ่านไปเร็วเสมอเวลาที่เราตื่นเต้นกับอะไรมากๆ
หลังจากนั่งรถออกมาจากอุทยาน อยู่ๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวเราว่า ‘ในชีวิตนี้เราจะต้องไปเที่ยวให้ทั่วบริเวณอุทยานโยเซมิตีให้ได้’
แล้วเจอกันใหม่นะ Yosemite
Yosemite National Park
address: รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
operating hours: เปิด 24 ชั่วโมง
ตลอดทั้งปี (แต่ละฤดูกาลจะให้บรรยากาศและทิวทัศน์ที่แตกต่างกัน)
how to get there: จองรถบัสผ่านศูนย์ท่องเที่ยวในเมืองที่ใกล้ที่สุด
เช่น ซานฟรานซิสโก (ใช้เวลาเดินทาง
4 ชั่วโมง) หรือเมืองแซคราเมนโต
(ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง)
map
ใครอยากส่งเรื่องที่น่าเที่ยวมาลงเว็บไซต์ a day online คลิกที่นี่เลย