LINE MOBILE : ผู้ให้บริการมือถือยุคดิจิทัลที่ควบคุมทุกอย่างด้วยแอพพลิเคชัน

มีคนพูดว่ามือถือจะกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของคนเรา เพราะเราต้องมีไว้เพื่อการติดต่อกับคนอื่น
และใช้เพื่อความบันเทิงด้านอื่นๆ แต่ทุกอย่างไม่ได้หยุดแค่นั้น
พัฒนาการด้านเครือข่ายมือถือถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งแง่สัญญาณและการบริการความสะดวกสบายด้านอื่นๆ

ทุกวันนี้
การใช้บริการเครือข่ายมือถือมีข้อเสียที่พบกันบ่อยหลายข้อ เช่น การควบคุมวงเงินแสนลำบาก
บิลค่าบริการสูงจนแทบช็อก
วันดีคืนดีเครือข่ายมือถือที่ใช้มานานยังเปลี่ยนโปรโมชันให้เองอัตโนมัติ
บางครั้งบางคราว เมื่อโทรเกินวงเงินก็ตัดการบริการโดยไม่บอกล่วงหน้า
อีกทั้งยังต้องใช้เวลาไปติดต่อ เพื่อแก้ปัญหาครั้งละนานๆ แน่นอนว่ามันไม่แฟร์
และหลายครั้งมีคำถามว่าเมื่อไหร่จะมีบริการดีๆ มาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้

ถัดจากนี้
เรากำลังจะพูดถึงนวัตกรรมใหม่ของบริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ
นวัตกรรมที่คิดขึ้นมาจากการเก็บข้อมูลทุกปัญหาที่ผู้ใช้บริการมือถือแบบรายเดือนต้องเจอ
เพื่อให้การใช้บริการง่ายดายและประหยัดค่าเสียเวลา

ไม่นานนี้ Line Mobile ประเทศไทย เปิดให้ทดลองบริการแก่คนกลุ่มหนึ่งเพื่อทดสอบการใช้งาน
เรียกว่า Beta Version ด้วยคอนเซปต์การให้บริการ ‘ง่ายและสะดวก’ โดยชูโรงจุดเด่นของ Line Mobile ด้วยการผูกการใช้งานเข้ากับบริการ LINE เพราะฉะนั้นทีเด็ดของผู้ให้บริการ เจ้านี้จึงอยู่ที่การใช้แอพพลิชัน LINE กันแบบฟรีๆ
เป็นหลัก

เมื่อสบโอกาส 2 สัปดาห์ที่แล้ว Line Mobile ก็ได้ชักชวนให้เรา
เข้าร่วมทดสอบบริการช่วง Beta เราไม่รอช้า ตกปากรับคำ
เพื่อเอามาบอกต่อว่าบริการนี้ดียังไง
ทีแรกสงสัยว่าผู้ให้บริการมือถือดิจิทัลนี้จะมีดีกว่าผู้ให้บริการรายอื่นในท้องตลาดที่คุ้นเคยยังไง
ไม่ใช่แค่นั้น
เรายังจับตาว่าในสนามการแข่งขันเครือข่ายมือถือที่ฟาดฟันกันแบบไม่มีใครยอมใคร
เขามีดีอะไรถึงกล้าก้าวเท้าเข้าลงทุน แต่จะรู้ได้เราต้องใช้จริง
และคราวนี้เราจะเล่าให้ฟังตั้งแต่ต้น

รูปลักษณ์และการใช้งาน

ซิมของ
Line Mobile บรรจุในแพ็กเกจสีเขียวสดขนาดมาตรฐาน
เมื่อแกะออกมาเรียบร้อย ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนสามารถเลือกแกะซิมการ์ดสีขาวตามรอยปะได้
3 ขนาด คือ Nano SIM, Micro SIM และ
Normal SIM เพราะฉะนั้นซิมการ์ดจึงใช้ได้กับมือถือทุกรุ่นที่รองรับการดาวโหลดแอพพลิเคชันของ LINE

กุญแจสำคัญคือแอพพลิเคชัน Line Mobile

เมื่อใส่ซิมการ์ดเรียบร้อย
ขั้นตอนถัดไปคือการดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Line Mobile ซึ่งใช้เฟซบุ๊กเพื่อเข้าสู่ระบบและลงทะเบียนได้ทันที
หลังจากนั้นจะได้รับข้อความยืนยันการเปิดใช้งานเรียบร้อย
ทีนี้ผู้ใช้อย่างเราก็สามารถเอนจอยกับการใช้งานต่างๆ ได้ง่ายดาย อย่าลืมว่าต้องมีแอพฯ นี้ก่อนการใช้งานเพราะมันคือกุญแจสำคัญของการจัดการใช้งานด้วยตัวผู้ใช้เองแบบจบ
ครบ เสร็จ ซึ่งถือเป็นบริการที่ไม่ง้อหน้าร้านและศูนย์บริการอีกต่อไป


ชวนมาดูผลการทดลองใช้
2 สัปดาห์

เปิดใช้งานง่าย

ปกติ เวลาเปิดใช้งานบริการโทรศัพท์มือถือ เราต้องเดินทางจากบ้านเพื่อไปสมัครใช้บริการที่เคาน์เตอร์ให้บริการต่างๆ
แต่ถ้าเป็น Line Mobile เรากรอกข้อมูลบนเว็บไซต์
https://th.linemobile.com แล้วกดสมัครและสั่งซื้อจากที่บ้านได้จบในขั้นตอนเดียว
จากนั้นมีบริการจัดส่งมาถึงบ้านภายในเวลาไม่นาน ฉะนั้นถ้าทำงานหนักจนไม่มีเวลา
แค่สละเวลากรอกข้อมูลนิดหน่อยก็เรียบร้อย อ่อ ที่สำคัญไม่มีข้อผูกมัดเรื่องสัญญาเลยสักนิด
แถมถ้าไม่สะดวก ยังยกเลิกบริการได้ทุกเวลา

อินเทอร์เฟซแบบมินิมอล

ภาพลักษณ์ของแบรนด์เป็นเรื่องสำคัญ
ซิมนี้เน้นการออกแบบไอคอนแบบเรียบๆ ไม่หวือหวา ไม่รกหูรกตา
มีอินเทอร์เฟซโทนสีเขียวและสีขาว ทำให้มองสบาย และเป็นมิตรต่อความรู้สึกของคนใช้
ยกตัวอย่างเช่น แดชบอร์ดที่ออกแบบน้อยๆ แต่ให้ข้อมูลครบและชัดเจน
คลิกเดียวเข้าถึงบริการได้สะดวก

เลือกโปรเหมือนเลือกไซส์เสื้อผ้า

ตอนแรกไม่แน่ใจว่าแพ็กเกจจะดีไปกว่าค่ายอื่นๆ
ยังไง แต่ Line Mobile เน้นเรื่องการเลือกได้หลายตัวเลือก
ให้ยืดหยุ่นตามพฤติกรรมการใช้งาน ปกติเราต้องโทรไปเปลี่ยนโปรกับ Call
Center ต้องกดตัวเลขและรอสายหลายขั้นตอน
แต่แอพพลิเคชันของ Line Mobile ทำให้เลือกแพ็กเกจได้เหมือนไซส์เสื้อผ้าตั้งแต่ไซส์ XS
จนถึงไซส์ XXL ความน่าสนใจอีกอย่างคือกดเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ก็ได้
และจะมีผลในรอบบิลถัดไป (แอบกระซิบว่างช่วงทดลอง BETA
เขาให้ส่วนลดถึง 75 เปอร์เซ็นต์จนถึงปลายปีนี้)
แถมถ้าใช้เน็ตหมด บริการ LINE Messenger และ LINE TV จะสามารถใช้ได้ที่ 512 kbps ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานเล่น ได้แบบไม่สะดุดใช้ LINE ได้ในรูปแบบที่ไม่ต้องร้อนใจส่วนเล่นอินเทอร์เน็ตทั่วไปยังคงอัตราต่ำสุดไว้ที่
256 kbps แต่ถ้าไม่เต็มอิ่มกดแพ็กเกจเพิ่มเน็ตเสริมทางแอพพลิเคชันได้ตามใจต้องการ

ใช้แอพพลิเคชัน LINE ฟรี

ก่อนเล่าถึงการใช้แอพพลิเคชันไลน์แบบฟรีๆ
รู้ไหมว่า LINE มีบทบาทกับชีวิตประจำวันคนไทยแค่ไหน

ข้อมูลเมื่อต้นปี 2560 จากไลน์ประเทศไทยระบุว่า

● ตลาด LINE บ้านเราเป็นอันดับ
2 ของโลก
มีคนไทยที่ใช้งานกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
จากจำนวนผู้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตทั้งหมด

● คนไทยใช้ LINE เป็นหนึ่งในสามของเวลาที่ใช้สมาร์ทโฟนทั้งหมด

● คนไทยดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์ LINE มากกว่า
500 ล้านครั้ง!

● คนไทยดาวน์โหลด
LINE TV กว่า 14 ล้านครั้ง

นี่เป็นแค่ข้อมูลเบื้องต้น
ถ้าลองหันกลับไปมองมือถือตัวเอง จะรู้ว่าชีวิตของเราเชื่อมโยงกับแอพพลิเคชันนี้มาก
ในเมื่อคนไทยใช้งานถี่ขนาดนี้
ผู้บริการรายนี้เลยผูกบริการเข้ากับแอพพลิเคชันของ LINE ให้ใช้ได้ฟรีๆ แบบไม่กินความเร็วให้กังวลว่าอินเทอร์เน็ตจะหมด
เลยติดต่อผ่านไลน์เพราะมีบริการ LINE Call, LINE
Video Call และดูรายการโปรดใน LINE TV ได้เท่าที่ต้องการ
เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนทำสื่อแบบเรา ที่ต้องใช้ไลน์แชตส่งข้อมูลทุกวัน

แฟนคลับแอพ LINE โดยเฉพาะคุณพ่อและคุณแม่ที่ชอบส่งภาพสวัสดีประจำวัน พร้อมพื้นหลังลายดอกไม้
จะใช้งานกันได้อย่างเพลิดเพลิน จนอาจเผลอติดใจใช้ LINE
Call แทนการต่อสายจริงไปเลย

ตรวจสอบทุกอย่างได้

ถ้าเราใช้เครือข่ายมือถือทั่วไป
การสอบถามยอดเงินที่ใช้บริการ คงยุ่งยากมีหลายขั้น อาจต้องต่อสายไปที่ Call Center บ้างล่ะ
ตรงเข้าไปที่ศูนย์ให้บริการบ้างล่ะ แต่สำหรับผู้ให้บริการราย

นี้
เราเปิดดูแดชบอร์ดอัพเดตข้อมูลได้ตลอดเลยว่าใช้เงินไปเท่าไหร่
ชำระค่าบริการหรือยัง วัดกันได้แบบนาทีต่อนาที
ตรวจสอบได้ว่ามีนาทีที่เหลือใช้ตามแพ็กเกจแค่ไหน แถมเช็กได้อีกว่าความเร็วของอินเทอร์เน็ตใช้ไปถึงไหนแล้ว
ผ่านการแสดงผลเป็นแท่งพลังงานเหมือนตอนเล่มเกมยังไงยังงั้น

นอกจากนี้
ควบคุมได้แม้กระทั่งความเร็วของอินเทอร์เน็ตเพื่อประหยัดความแรงได้แบบยืดหยุ่น

จ่ายค่าบริการได้ทุกที่

นอกจากไม่ต้องกังวลเรื่องค่าบริการแอบแฝง
ไม่ต้องกลัวภาวะบิลช็อกตอนสิ้นเดือน และควบคุมวงเงินและอินเทอร์เน็ตได้ในคลิกเดียว
เรายังไม่ต้องลุกออกไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ เพราะอยู่ที่ไหนก็จ่ายได้ผ่าน 3 ช่องทาง ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต และ Rabbit LINE Pay เพียงกรอกข้อมูลการชำระเงินให้เรียบร้อยตั้งแต่การสั่งซื้อซิมในเว็บไซต์ตอนต้น

ให้คำปรึกษารวดเร็วมาก

ปกติถ้าเรามีปัญหาต้องโทรไป Call Center หรือเข้าไปถึงศูนย์ที่เปิดให้บริการเสมอ
แต่สำหรับ Line Mobile มีตัวเลือกให้ ‘ขอความช่วยเหลือ’
เพียงคลิก จะมีตัวเลือกให้ใช้งานได้ 3 รูปแบบ
รูปแบบแรกเป็นคู่มือสำเร็จรูปที่ตอบคำถามพื้นฐานง่ายๆ เบื้องต้น
รูปแบบถัดมาคือการแชตตอบกลับทันที บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ตัวเลือกสุดท้ายคือการโทร ที่กล้ารับประกันว่าใช้เวลาไม่เกิน 3 นาที ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00
น. ว่าแล้วก็ลองแชตดูหน่อย ปรากฏว่าตอบทันทีเลยเหมือนกัน

ข้อด้อย

● เราพบว่าคนบางกลุ่มอาจรู้สึกว่าการกรอกข้อมูลสมัครแบบออนไลน์ยุ่งยาก
ต้องแนบไฟล์สำเนาบัตรประชาชนและภาพถ่ายใบหน้าพร้อมบัตรประชาชนหลายขั้นตอน

● ผู้ให้บริการรายนี้ค่อนข้างเหมาะกับคนเมือง
เพราะเน้นการใช้งานผ่านช่องทางออนไลน์ ช่องทางการจ่ายเงินยังไม่หลากหลาย
ถ้าไม่มีบัตรเดบิตกับบัตรเครดิตก็อดไป อ่อ แต่ยังมี LINE Pay ให้ใช้ โดยการเติมเงินแล้วกดชำระ ถึงแม้ตอนนี้มีช่องทางจ่ายเงินไม่เยอะ แต่ทาง Line Mobile บอกว่ากำลังอยู่ในระหว่างการเพิ่มช่องทางอื่นๆ เช่น mobile banking ภายในปีนี้

● ถึงอินเทอร์เฟซจะดูเรียบ
แต่พอใช้งานนานๆ ก็แอบเบื่อ
ถ้ามีรูปแบบให้ผู้ใช้เลือกหรือกำหนดแดชบอร์ดและการแสดงผลต่างๆ ได้เอง
คงจะเอนจอยการใช้งานได้มากกว่านี้

● สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการย้ายค่ายแต่ใช้เบอร์เดิม
คงจะต้องรอไปก่อนเพราะยังไม่เปิดให้บริการ

สรุป

ข้อด้อยพวกนี้เป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ
เพราะถ้าเน้นการใช้งานแอพพลิเคชันไลน์ เราบอกเลยว่าคุ้มมาก
แล้วไม่ต้องกังวลใจไปเพราะตอนไปเวิร์กช็อปใช้ซิม
เราสอบถามเรื่องจุดด้วยพวกนี้ไปหมดแล้ว เขาบอกเราว่ากำลังพยายามพัฒนาและอุดช่องโหว่ต่างๆ
อยู่เรื่อยๆ ในอนาคตจะมีเบอร์มงคลให้เลือกใช้กันด้วย

AUTHOR