บุคลิกภาพลักษณะของชาวญี่ปุ่นในภาพจำของใครหลายคน ภายนอกดูเก็บซ่อนความรู้สึก จนหลายครั้งคาดเดาไม่ออกว่าคิดอะไร แต่ถ้าจำเป็นต้องแสดงออกเมื่อไรละก็… พวกเขาก็มีความสนุกสนานเกินร้อยเลยทีเดียว!
มักเป็นที่รู้กันดีในบรรดาชาวโลก เรื่องบุคลิกภาพลักษณะของชาวญี่ปุ่น จนเป็นที่มาของการแสดงความรู้สึกเกินความเป็นจริงที่พบเห็นบ่อยในหนังสือการ์ตูนแอนิเมชัน ไปจนถึงรายการวาไรตี้ญี่ปุ่น เช่น
อร่อย!!!
สุดยอด!!
โอ้โฮ!!!
เป็นไปได้ยังไง!!!!
และยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบโลโก้ของแบรนด์ ‘Human Made’ จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อบอกเราอย่างเป็นนัยๆ ว่า ‘แล้วจะตกใจกับแบรนด์ๆ นี้!!!’
โลโก้มินิมอลที่ตะโกนออกมาซึ่งความว้าว
Human Made เป็นแบรนด์เสื้อผ้าแนวสตรีตที่แรปเปอร์ทั่วทั้งปฐพีตกหลุมรักแบบถอนตัวไม่ขึ้น เรามักพบเห็นเสื้อผ้าจาก Human Made บนเวทีคอนเสิร์ตใหญ่ๆ เสมอ ตั้งแต่ศิลปิน ไปจนถึงผู้ชมคอนเสิร์ต
แบรนด์ที่เต็มไปด้วยหัวใจดนตรีแรปและฮิปฮอปแบรนด์นี้ ออกแบบโลโก้เป็นรูปหัวใจสีแดง ชื่อแบรนด์พิมพ์ด้วยตัวอักษรสีขาว และมีขีดเล็กๆ 3 ขีดอยู่ด้านข้าง องค์ประกอบ 3 อย่างนี้ถ่ายทอดดีเอ็นเอความเป็น Human Made ได้อย่างตรงใจ
สาเหตุมาจากการที่นิโกะผู้ก่อตั้งแบรนด์ Human Made และครีเอเตอร์แถวหน้าของโลก มีความเชื่อมั่นในศักยภาพการสร้างสรรค์ของมนุษย์
นิโกะมองว่าไม่มีสิ่งใดสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ให้เกิดขึ้นได้เหมือนอย่างมนุษย์อีกแล้ว และแนวคิดนี้เองที่เป็นที่มาของชื่อแบรนด์ ‘Human Made” หรือว่า ‘สร้างขึ้นโดยมนุษย์’
รูปหัวใจที่เป็นโลโก้ของแบรนด์ ก็เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของการที่มนุษย์ใช้ ‘ใจ’ ในการทำงานและสร้างสรรค์ เพราะหากไร้ซึ่ง ‘หัวใจ’ ทุกสิ่งทุกอย่างก็หมดความหมาย นอกไปจากนี้ หัวใจยังเป็นไอคอนที่ใช้บ่อย เพื่อสื่อถึงความ ‘น่ารักน่าเอ็นดู’ ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วย
ส่วนคำว่า ‘Human Made’ บนโลโก้รูปหัวใจ ออกแบบด้วยฟอนต์อักษรพิมพ์ดีด แต่ปรับให้มีเหลี่ยมคม เพื่อให้เข้ากับปัจจุบันมากยิ่งขึ้น จะได้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความวินเทจ ย้อนยุค แต่ทันสมัย ซึ่งเป็นหัวใจในการออกแบบของแบรนด์
แล้วขีดเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างล่ะ.. หมายถึงอะไร?
ใครที่อ่านการ์ตูนญี่ปุ่นบ่อยๆ คงคุ้นตากับสัญลักษณ์นี้ดี
เวลาที่ตัวละครแสดงออกถึงความรู้สึกตกใจ ตกตะลึง อึ้งไปชั่วขณะ หรือต้องการเน้นความรู้สึกให้เกินความเป็นจริง ผู้เขียนจะเลือกใช้สัญลักษณ์นี้เสมอ
แนวคิดนี้มาจากธรรมเนียมปฏิบัติของชาวญี่ปุ่น ซึ่งให้ความสำคัญกับการเก็บซ่อนความรู้สึก และไม่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งจนเกินไป เวลาที่อ่านการ์ตูนหรือชมรายการวาไรตี้ของญี่ปุ่น ซึ่งมีความจำเป็นต้องแสดงออกมากเกินกว่าชีวิตประจำวัน เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้คน เราจึงพบเห็นการแสดงซึ่งอารมณ์ความรู้สึกให้ล้นหรือมากเกินไปอยู่ตลอดเวลา
อีกทั้งขีดสามขีดด้านข้างวัตถุ ยังมักใช้ในการเน้นสิ่งที่เป็นส่องแสงหรือเป็นประกาย เพื่อบอกเป็นนัย ๆ ว่าสิ่งนั้นมีความพิเศษกว่าสิ่งอื่นใด
การใช้สัญลักษณ์นี้ในโลโก้ของแบรนด์ Human Made จึงมองได้หลายความหมาย แต่ทั้งหมดคล้ายจะบอกกับเราว่า การสร้างสรรค์ด้วยใจของ Human Made ทำให้ร้องว้าวได้นะ!!!
นิโกะ กับวิสัยทัศน์ที่นำสู่อนาคต
ย้อนเวลากลับไปในช่วงปี 2006 นิโกะเริ่มเป็นที่ยอมรับในวงกว้างทั่วประเทศญี่ปุ่น และในวงการเพลงแรประดับนานาชาติ แล้วช่วงเวลานั้นเองที่มิตรภาพของ นิโกะ และเพื่อนรักอย่าง ฟาร์เรลล์ (Pharrell) ได้เริ่มต้นขึ้น
นิโกะและวงดนตรี Teriyaki Boys ของเขา ร่วมทำเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Fast & the Furious 2: Tokyo Drift ซึ่งภาคนี้ประสบความสำเร็จ จนกลายเป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์ทำรายได้ติดอันดับต้นๆ ของโลก
หนึ่งในสองเพลงของ Teriyaki Boys ที่อยู่ในอัลบั้มคือ เพลง ‘Tokyo Drift (Fast & Furious)’ ที่มีกลิ่นไอความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งหลายคนคุ้นหูกันดี ส่วนอีกเพลงก็มาจากมิตรภาพของ นิโกะกับฟาร์เรลล์ที่เหนียวแน่นมาเป็นเวลาหลายปี
หลังจากที่ดนตรีแรป ฮิปฮอปและสตรีตแฟชั่นกลายเป็นกระแสหลักของโลกมาได้ระยะหนึ่ง เส้นทางการทำงานของนิโกะก็ขึ้นสู่จุดสูงสุด และดูท่าว่าจะไม่มีใครหยุดความแรงได้
นิโกะก่อตั้ง ‘Human Made’ ขึ้นมา โดยมีเพื่อนรักอย่างฟาร์เรลล์ มาร่วมแจมเป็นระยะๆ และในเวลาเพียงไม่กี่ปี Human Made ก็ขึ้นสู่แบรนด์สตรีตแวร์อันดับหนึ่งได้อย่างสง่างาม
ส่วนตัวแล้วนิโกะมีมุมมองที่ว่า ‘อนาคตอยู่ในอดีตที่ผ่านมา’
โปรดักต์ของ Human Made จึงมักหยอดลูกเล่นและกลิ่นไอวินเทจลงไปในรายละเอียดต่างๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ของเสื้อผ้า ทั้งเสื้อแจ็คเกตเบสบอลแบบ old school ทรงกางเกงยีนส์แนววินเทจ ไปจนถึงวิธีการสไตล์ลิ่งของ lookbook ในแต่ละเล่ม
ถึงแม้ว่าจะให้ความสำคัญกับอดีต แต่นิโกะรู้ดีว่าผู้ที่จะนำโลกไปสู่อนาคตไม่ใช่ใคร นอกไปจากคนรุ่นใหม่ นิโกะจึงตั้งใจที่จะให้ Human Made เป็นศูนย์รวมความคิดสร้างสรรค์ และเป็นศูนย์กลางที่อยู่ในฝันของนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ และทุกๆ รุ่นจากทุกมุมโลก
โปรดักต์จาก Human Made จากการสร้างสรรค์ของนิโกะจึงมีความเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความน่ารักแบบญี่ปุ่น ซึ่งสื่อสารกับผู้คนจากทุกวัฒนธรรมได้และใช้งานได้จริง จนทำให้ Human Made เข้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ได้อย่างไม่ติดขัด ไม่จำกัดแค่แฟนเพลงฮิปฮอปหรือสตรีตแวร์เท่านั้น
พูดได้ว่านิโกะนำรสนิยมและความชอบในดนตรีแรปและเสื้อผ้าแนวสตรีตย้อนยุค มาบวกเข้ากับวิธีการคิดแบบสมัยใหม่ ทำให้เสื้อผ้าของ Human Made มีความน่ารัก น่าใช้ ในแบบที่ไม่เชยเลยแม้แต่น้อย
ความแข็งแกร่งของ Human Made ในเชิงแบรนด์ดิ้ง
Human Made มีความพร้อมในทุกๆ ด้านสำหรับการเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ นอกจากวิชวลจะเลิศ คอนเทนต์จะปังแล้ว Human Made ยังมี ‘ความกล้า’ ในการลงมือทำอีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้น่าจะมาจากจิตวิญญานความเป็นฮิปฮอปซึ่งกล้าที่จะแตกต่าง
Human Made ไม่ออกสินค้าใหม่เป็นฤดูกาลตามวิถีปฏิบัติของแบรนด์แฟชั่น ไม่จัดงานแฟชั่นโชว์ยิ่งใหญ่อลังการ แต่มีสินค้าใหม่ให้เลือกซื้อแทบทุกวัน ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รองเท้า เครื่องประดับ ไปจนถึงของใช้ในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น อย่างกล่องข้าวเบ็นโตและแก้วสาเกที่ทำจากไม้สน
Human Made ไม่ใช้นางแบบหรือนายแบบดังถ่ายเซ็ตแฟชั่น
ไม่ทุ่มโปรดักชันพันล้านในการจัดอิเวนต์
แต่ใช้จิตวิญญานความเป็นฮิปฮอปในการสร้างความยั่งยืนให้กับแบรนด์ ขนาดที่เรียกได้ว่านิโกะและ Human Made ค่อยๆ แทรกซึมเข้าสู่ทุกชีวิตของผู้คนทั่วโลกแบบไม่รู้ตัว
กว่าจะรู้ตัว ก็นั่งเฝ้าหน้าจอ รอกดไอเท็มใหม่ ก่อนที่จะ sold out จนกลายเป็นตำนานไปอีกชิ้น…..
————
เครดิตภาพ
————
