จากความหลากหลายในเพศและความรัก สู่การคราฟต์ไอศครีมรสชาติใหม่ของ Guss Damn Good

Highlights

  • Guss Damn Good คือแบรนด์ไอศครีมไทยสไตล์บอสตัน ที่ออกรสชาติใหม่อย่าง Equality และ Love is Love เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความหลากหลายทางเพศออกมาต้อนรับ pride month
  • ไอเดียตั้งต้นของการคิดค้นไอศครีมรสชาติใหม่เกิดขึ้นมาจากการที่ นที จรัสสุริยงค์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์พบเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่เป็นธรรมต่อคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ
  • ในแง่กระบวนการทำ Guss Damn Good ไม่ได้คิดรสชาติไอศครีมด้วยตัวเอง แต่พวกเขาระดมไอเดียจากผู้ที่สนใจในประเด็นนี้ด้วยการจัดเวิร์กช็อปจนเกิดเป็นไอศครีมสองรสใหม่ขึ้นมา

อากาศร้อนๆ แบบบ้านเรา หลายๆ หน เราหลายคนคงนึกถึงไอศครีม มันช่วยดับร้อนได้ดีนัก ฉันมักกินไอศครีมอยู่บ่อยครั้งในอากาศเช่นนี้

ในท้องตลาดตอนนี้มีไอศครีมหลากหลายยี่ห้อให้เราเลือก Guss Damn Good เป็นแบรนด์ไอศครีมหนึ่งที่เมื่อมองแบบผิวเผินก็ดูเป็นร้านไอศครีมที่ตกแต่งร้านด้วยดีไซน์ทันสมัย มีไอศครีมชื่อแปลกๆ หลากหลายรสชาติ มีพนักงานที่ดูเป็นกันเอง บริการดี และมีจุดขายเป็นไอศครีมเกรดพรีเมียมในแบบฉบับของตัวเองเหมือนร้านไอศครีมทั่วๆ ไป

แต่หากมองลึกลงไป ทุกองค์ประกอบของ Guss Damn Good ล้วนมาจากแก่นความคิดเบื้องหลังที่เรียกว่า ‘Story to Flavor’ ไอเดียที่ว่าไอศครีมเป็นเครื่องเตือนความทรงจำดีๆ หรือสิ่งที่เล่าเรื่องราวดีๆ มากกว่าการเป็นแค่ขนมที่กินเพื่อความอร่อย จุดที่ทำให้ฉันประทับใจจึงเป็นกระบวนการทำไอศครีมของที่นี่

กว่าจะเป็นไอศครีมรสชาติหนึ่งต้องคิดก่อนว่า มีเรื่องราวอะไรที่อยากให้คนรับรู้ในขณะตักกิน แล้วค่อยตีความไอเดียและความรู้สึกเหล่านั้น ถอดออกมาเป็น element ของไอศครีมอีกที

guss damn good

และล่าสุด Guss Damn Good ก็ทำเอาฉันคาดไม่ถึง เพราะแบรนด์ได้หยิบเอาประเด็นทางสังคมอย่างเรื่องความหลากหลายทางเพศมาเล่าผ่านไอศครีม ถือเป็นการฉลอง pride month และน่าสนใจว่ารสชาติของความหลากหลายทางเพศที่ว่าจะเป็นยังไง

ฉันจึงนัดคุยกับ ระริน ธรรมวัฒนะ และ นที จรัสสุริยงค์ สองผู้ก่อตั้งแบรนด์ Guss Damn Good ถึงเบื้องหลังและจุดเริ่มต้นของโปรเจกต์การคราฟต์ไอศครีมสองรสชาติใหม่อย่าง ‘Love is Love’ และ ‘Equality’

guss damn good

ความหลากหลายทางเพศในพื้นที่ที่ไม่หลากหลายพอ

นที : “ผมเชื่อมานานแล้วว่า สังคมไทยค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องความหลากหลายทางเพศ และน่าจะเป็นประเทศที่เปิดรับเรื่องความหลากหลายทางเพศเป็นที่แรกๆ เลย จนได้เจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้ผมตั้งคำถามกับความเปิดกว้างนี้

“อีกงานหนึ่งที่ผมทำนอกจาก Guss Damn Good คือธุรกิจที่บ้านด้านเซลล์มาร์เก็ตติ้ง วันหนึ่งเซลล์ของผมจะไปออกบูทหาลูกค้า ผมเลยจัดเตรียมพนักงานไปให้ แต่หลังจากนั้นเขากลับโทรมาปฏิเสธผมว่าไม่อยากรับพนักงานคนนี้มาช่วยทำงานเพราะเป็นกะเทย ซึ่งเขาอายและคิดว่าอาจจะกระทบต่อบริษัท ผมตกใจมาก ทั้งๆ ที่เขาเป็นเซลล์มือหนึ่งของบริษัทและเป็นคนระมัดระวังคำพูดมาก แต่ยังมองกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างแปลกแยกอยู่ บวกกับอีกหลายๆ อย่างที่เจอ อย่างเพื่อนของผมที่เป็นผู้หญิงทั้งคู่ พวกเขายังต้องคบกันอย่างหลบๆ ซ่อนๆ จากครอบครัวอยู่เลย นั่นทำให้ผมเริ่มฉุกคิดว่าประเทศไทยเปิดรับเรื่องนี้จริงๆ หรือเปิดเพียงแค่เปลือกนอกกันแน่ มีเพียงธุรกิจบันเทิงเหรอที่มีพื้นที่ให้คนที่มีความหลากหลายทางเพศแสดงออก

“ผมเลยบอกกับระรินว่าอยากทำเรื่องนี้จริงจัง ซึ่งสุดท้ายเราเห็นตรงกันว่าจะทำโปรเจกต์ไอศครีมรสชาติใหม่ที่เล่าปัญหานี้ออกมา อย่างน้อย ด้วยแบรนด์ Guss Damn Good ที่เรามีอยู่ในมือจะเป็นกระบอกเสียงหนึ่งที่บอกได้ว่า ความหลากหลายทางเพศเป็นเรื่องธรรมดา และความต่างนี่แหละที่เป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนโลกตลอดมา”

guss damn good

เวิร์กช็อปคิดค้นไอศครีมรสชาติใหม่

นที : “เราคิดว่าถ้าเริ่มวิเคราะห์ปัญหานี้กันแค่สองคนอาจมองเห็นภาพได้ไม่ชัด เราเลยตัดสินใจจัดเวิร์กช็อปเพื่อระดมไอเดียจากผู้ที่สนใจประเด็นนี้ เริ่มจากการโพสต์เชิญชวนเข้าไปในแฟนเพจของเรา และปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เราจัดงานที่ The Commons เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เอง กระบวนการคิดเริ่มที่การให้ผู้เข้าร่วมทุกคนช่วยกันระดมไอเดียว่าปัญหาของเรื่องนี้คืออะไร จากนั้นค่อยมาคิดว่าเมสเซจหลักที่อยากสื่อสารถึงปัญหานั้นๆ ผ่านไอศครีมคืออะไร

“เมื่อสรุปออกมาได้ 5 เมสเซจหลัก เราเลยแบ่งผู้เข้าร่วมออกเป็น 5 กลุ่มเพื่อนำไอเดียไปคิดต่อให้ละเอียดยิ่งขึ้นว่าจะถ่ายทอดออกมาเป็นไอศครีมที่มีรสชาติแบบไหน มีส่วนประกอบอะไร เมื่อกินไอศครีมแล้วจะรู้สึกอย่างไร ซึ่งในตอนท้ายได้มีการจัดการนำเสนอทั้ง 5 ไอเดียและโหวตคัดเลือกจนได้ 2 รสชาติที่ได้รับความนิยมและตอบโจทย์ที่สุด”

guss damn good

รสชาติที่แตกต่าง กลมกล่อม และอร่อยอย่างเป็นธรรมชาติ

ระริน : “รสชาติแรกคือ Equality มีเมสเซจหลักคือความอดทนอดกลั้น หรือ perseverance ในการต่อสู้ของคนผู้มีความหลากหลายทางเพศเพื่อความเท่าเทียมและเสมอภาคของการใช้ชีวิตในสังคม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากคนรุ่นก่อนหน้าที่ช่วยขับเคลื่อนกันมา รสชาตินี้เลยมี toffee crack และ sprinkle รูปร่างกลมๆ หลากสีที่ต้องเคี้ยวอยู่ในเนื้อไอศครีม ซึ่งหมายถึงความหลากหลายและความแตกต่างในมนุษย์ทุกคน ผสมกับเบสไอศครีมรสนมฟาร์มมิลค์สีขาว ที่สื่อถึงกฎระเบียบที่ทุกคนปฏิบัติตามร่วมกันบนโลก ทั้งหมดนี้ถูกเล่าออกมาในเชิงบวกว่าเราต้องช่วยกันและเดินหน้าต่อไป แม้ว่าในขั้นตอนการพัฒนารสชาติก่อนหน้านี้เราเคยคิดจะทำเบสไอศครีมเป็นสีเทาที่สื่อว่า เรื่องนี้ยังมีความเป็นสีเทาอยู่ก็ตาม

guss damn good

“ส่วนรสชาติที่สองได้รับแรงบันดาลใจมาจากประโยคหนึ่งคือ ‘Love is beautiful.’ ที่มองว่าความรักนั้นเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ต่อยอดไปถึงอีกคำพูดหนึ่งของผู้เข้าร่วมเวิร์กช็อปที่กล่าวว่า ‘ก่อนที่เราจะไปรักใครเราต้องรักตัวเองก่อน’ ผลลัพธ์เลยออกมาเป็นไอศครีมรสมะนาวที่ไม่ได้เป็นสีขาวหรือเขียวตามแบบฉบับปกติ แต่เป็นสีชมพูธรรมชาติจากการใช้บีทรูทที่ทำให้ภายนอกดูหวานแต่ภายในมีความเปรี้ยว ความ คอนทราสต์นี้เองที่บอกว่าความรักไม่ได้เป็นไปตามกฎเกณฑ์เสมอไป รวมถึงความกรุบของไส้ lemon curd และ butter crumb ยังสื่อด้วยว่าในความรักนั้นมีความตื่นเต้นเหมือนกัน”

guss damn good

From Damn Good Stories to Damn Good Business Provider

นที : “สองรสชาติใหม่นี้อาจเป็นครั้งแรกที่เราพูดถึงประเด็นทางสังคมมากกว่ารสชาติอื่นๆ ที่ผ่านมาที่เป็นเรื่องราวจากชีวิตประจำวันของเรา เป็นเพราะเราชัดเจนในแก่นการคิดรสชาติแบบ story to flavor ดังนั้นถ้าเราเห็นว่าเรื่องราวอะไรเป็นประโยชน์ต่อสังคม เราพร้อมจะเล่ามันผ่านไอศครีม

“เรายังมองไปอีกว่า อยากทำให้ไอศครีมและเรื่องราวดีๆ เหล่านี้เข้าถึงคนได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยการทำระบบเดลิเวอรีที่คงคุณภาพไอศครีมให้นิ่งที่สุดแบบครอบคลุมทั่วประเทศ แต่ทั้งนี้ในเป้าหมายอันไกล เราอยากจะเป็น Damn Good Business Provider หรือจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ทำให้คนรู้สึกดีด้วย positive energy ซึ่งมีไอศครีม Guss Damn Good ในปัจจุบันเป็นเพียงธุรกิจเริ่มต้นเท่านั้นเอง”

guss damn good

Guss Damn Good อาจไม่ใช่แบรนด์แรกที่หยิบจับประเด็นทางสังคมมาพูด พวกเขาทำมากกว่าการประดับร้านตามเทศกาลเพื่อมีส่วนร่วมในการรณรงค์เรื่องความหลากหลายทางเพศ แต่พวกเขากลับไปเริ่มต้นตั้งแต่แก่นของแบรนด์ด้วยความละเอียดลออในการคิดไอศครีม ซึ่งนี่ทำให้พวกเขาสื่อสารเมสเซจออกมาได้อย่างจริงใจ

หลังฟังพวกเขา ฉันตักไอศครีมใส่ปาก และรู้สึกอิ่มเอมกับรสชาติของไอศครีมขึ้นมาอย่างประหลาด

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

พิชย์ สุนทโรสถ์

ช่างภาพหน้าหมี ผู้ชอบเพลงแจ๊สเป็นชีวิตจิตใจ