ตามไปชิมและเรียนรู้การกินอยู่อย่างยั่งยืนผ่านมื้ออาหารดีๆ ที่งาน Wonderfruit

ขึ้นชื่อว่าเป็นไลฟ์สไตล์เฟสติวัลที่ชูปรัชญา
‘ความยั่งยืน
(Sustainability)’ ผ่านการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและโลกไปพร้อมกัน
นอกจากการแสดงดนตรีของศิลปินนานาชาติบนเวทีที่สร้างจากวัสดุธรรมชาติ
งานศิลปะจัดวางที่พร้อมให้ผู้คนกระโจนเข้าไปร่วมสนุกและกระตุ้นจิตสำนึกที่ดีต่อโลกแล้ว
อีกไฮไลต์หนึ่งของเทศกาล Wonderfruit ที่ชวนเชิญให้ผู้คนเข้าใจวิถีชีวิตที่ใกล้ชิดใส่ใจธรรมชาติและการเป็นอยู่ได้ดี
ก็คืออาหารหลากหลายที่คัดสรรมาให้ลองชิมและมีประสบการณ์ไปพร้อมกันใน ‘Farm
to Feast’ หนึ่งใน 6 เสาหลักของงานที่สำคัญไม่แพ้หัวข้ออื่นๆ

ความแตกต่างและใส่ใจผ่านการคัดสรรเชฟจากร้านอาหารระดับโลกเข้ามาปรุงอาหารออร์แกนิกอร่อยๆ
การผนวกงานศิลปะเข้ากับอาหารได้อย่างกลมกลืนน่าสนใจ
และการเปิดโอกาสให้ผู้คนได้กลับไปมองที่มาของอาหารจากธรรมชาติ
ทำให้เราสงสัยว่าทำไมเรื่องอาหารถึงสำคัญในสายตาของทีมงาน
แชมป์-ศิรเดช โทณะวณิก ไดเรกเตอร์หนุ่มของ
Wonderfruit มีคำอธิบายที่แค่ได้ฟัง
เราก็แทบจะกลืนน้ำลายรอลิ้มรสชาติและประสบการณ์แปลกใหม่ที่พร้อมเสิร์ฟมาในจานอาหารนี้ไม่ไหวแล้ว

ใครทำและทำอะไร

6 เสาของ Wonderfruit ถูกคิดจากองค์ประกอบที่ช่วยให้ชีวิตดีสมบูรณ์
อาหารเลยเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ชีวิตเรามีความสุขขึ้นจากการได้กินของอร่อยๆ
วัตถุดิบคุณภาพ แถมยังได้สุขภาพดีตอบแทน ยิ่งถ้าเรารู้ว่าอาหารที่กินมาจากไหน
ปลอดสารพิษไหม ปรุงด้วยกรรมวิธีแบบใด ก็น่าจะชวนให้เข้าใจเรื่อง ‘ความยั่งยืน’ ซึ่งเป็นปรัชญาหลักของเทศกาลได้ชัดขึ้น

Farm to Feast มีกิจกรรม 3 ส่วนย่อยๆ
รอให้เราเข้าไปชิมความสนุกได้ทั่วทั้งงาน

01 Farm

ข้อดีของ Wonderfruit คือเป็นเทศกาลที่จัดงานในพื้นที่ของตัวเองคือ Siam Country Club เมืองพัทยา เลยมีคนดูแลฟาร์มเกษตรเล็กๆ ที่ปลูกผัก สมุนไพรได้ตลอดทั้งปี มีทะเลสาบไว้เลี้ยงปลาให้นำไปปรุงอาหารในงานได้ทันที รับประกันว่าเป็นอาหารออร์แกนิกปลอดสารพิษจริงๆ และยังทำงานร่วมกับ Thailand Young Farmers กลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนภาพจำในการทำเกษตรกรรมแบบเดิมๆ ให้ทันสมัยและผนวกเข้ากับงานศิลปะ พวกเขาจะชวนให้เราไปเดินทัวร์ฟาร์ม ชิมน้ำผึ้ง เรียนรู้วิธีทำหุ่นไล่กา หรือดูโชว์ทำอาหารกันสดๆ

คลิปวิดีโอกิจกรรมของ Thailand Young Farmers ในงาน Wonderfruit 2015

02 Food & Drink
ร้านอาหารอร่อยๆ
ที่คัดสรรมาในงานก็ไม่ใช่ร้านธรรมดาๆ แต่มีทั้งพิซซ่าต้นตำรับอิตาเลียนจาก Peppina ซูชิและอาหารญี่ปุ่นเกรดคุณภาพของ
Morimoto Bangkok ส่วนใครเป็นสายมังวิรัติ ปีนี้เขาชวนเชฟสาวสวย
Daphne Cheng มาสร้างสรรค์เมนูจากผักสดๆ
ให้มีหน้าตาสวยงาม ตบท้ายด้วยเบเกอรี่โฮมเมดแบบสแกนดิเนเวียของ Rocketfruit
แต่ถ้าใครไม่ถนัดอาหารนานาชาติ
เมนูสตรีทฟู้ดจุดขายของไทยเราแบบง่ายๆ ก็มีไว้ให้อิ่มท้องเช่นกัน

03 Wonder Feasts
อีกโปรแกรมที่อยากชวนให้ลองเปิดประสบการณ์กันคืองานเลี้ยงบรรยากาศสบายๆ
ชิมอาหารของเชฟระดับโลกพร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างกันบนโต๊ะอาหาร
ปีนี้มีตั้งแต่โปรแกรมมื้อกลางวันแบบ Farm to Table ของร้านอาหาร Cocotte
ที่นำวัตถุดิบคุณภาพดีจากโครงการหลวงมาสรรสร้างอาหารสุดพิเศษ
ส่วนถ้าใครอยากทานดินเนอร์ดีๆ ควบคู่ไปกับเรียนรู้เรื่องศิลปะและวัฒนธรรม
ปาร์ตี้ในแบบฉบับ F.A.C.T. Collective ก็เป็นตัวเลือกน่าสนใจเพราะเขาหยิบเอารสกลมกล่อมอาหารเหนือกับความจัดจ้านแบบอาหารใต้บ้านเรามาปะทะกัน
จะเป็นยังไงก็ต้องไปลอง เซกชันนี้เปิดรับจองไม่กี่ที่นั่งเพื่อความลิมิเต็ดแบบสุดๆ

กินไปทำไม

อยากให้คนรับรู้และเข้าใจเรื่องอาหารออร์แกนิกกว้างขวางขึ้น
เป็นเป้าหมายของการลงแรงและใส่ใจให้ Farm to Feast พิเศษมากไปกว่าแค่นำร้านอาหารฟู้ดทรักมาขายในงาน
มากไปกว่านั้น การเปิดให้คนเข้าไปทำกิจกรรมในฟาร์มเกษตรน่าจะทำให้คนรุ่นใหม่ วัยรุ่นที่อาจไม่เคยสนใจเรื่องการปลูกพืชปลูกผักเห็นว่ามันทำได้ไม่ยากและไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ใหญ่โต

“จะเพาะเห็ด
ปลูกหน่อไม้ทะเลง่ายๆ หรือสมุนไพรต่างๆ ก็ได้
อยากให้คนเห็นว่าถ้าจะปลูกพืชพวกนี้แบบออร์แกนิกต้องทำยังไง คนกรุงเทพฯ หรือใครที่อยู่ในเมืองใหญ่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน
มันก็ย้อนกลับไปว่าเราอยากให้เขาเข้าใจที่มาของอาหารที่ว่ามันเกี่ยวข้องกับการเป็นอยู่ของชีวิตยังไง”

“เราอยากสร้าง Creative Community จากคนที่เชื่อในปรัชญาคล้ายๆ
กัน คนที่รักการใช้ชีวิต มีไลฟ์สไตล์คล้ายกันมาเจอกัน แต่อยากให้หลากหลาย
ไม่เฉพาะคนที่ชอบเสพความบันเทิงเพียงอย่างเดียว คนนี้ชอบฟังเพลง คนนี้ชอบดื่มไวน์
ได้คุยกันมันก็เกิดบทสนทนาที่ดีระหว่างกันขึ้นได้
เรามองว่าอาหารเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่จะดึงคนออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง
มานอนเต็นท์ แคมปิ้ง สัมผัสธรรมชาติ ลองเก็บผักมาทำสลัดกินเอง ลองกินอาหารแปลกๆ
ใหม่ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ ระยะเวลางาน 3 – 4 วัน
เขาอาจไม่ได้เปลี่ยนตัวเองมากินอาหารออร์แกนิกต่อจากนี้ทันทีเพราะมันก็ยังหากินยากในเมือง
แต่ถ้าเขามาแล้วได้เห็น ได้รู้ว่าประสบการณ์พวกนี้มันสนุก
เขาอาจสนใจทำมันต่อไปก็ได้” แชมป์บอกเราถึงความตั้งใจที่พร้อมจะมอบให้คนที่มางานได้รับกลับไปอย่างเต็มอิ่ม

แนะนำให้ตามไปชิม

ประสบการณ์เฉลิมฉลองกับมื้ออาหารพร้อมงานศิลปะคับคั่งเต็มงานอย่างนี้หาได้ที่
Wonderfruit เท่านั้น ไปเจอกันที่ The Field at Siam Country Club เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี 16 – 19 กุมภาพันธ์นี้
ใครยังไม่มีบัตรรีบไปซื้อกันได้ที่
wonderfruitfestival.com (ใครอยากร่วมโปรแกรมงานเลี้ยงสุดพิเศษ Wonder Feast ก็เข้าไปจองที่นั่งได้ในลิงก์เดียวกันนะ)

ภาพ Wonderfruit

AUTHOR