BUILK : พลิกวงการรับเหมาก่อสร้างด้วยซอฟต์แวร์บริหารสุดไฮเทค

สองสัปดาห์ก่อน
หน้าไทม์ไลน์เฟซบุ๊กของเราเต็มไปด้วยรูปสุภาพสตรีสูงวัยทำหน้านิ่งพร้อมโควตคำพูดขายวัสดุก่อสร้างแบบฮาๆ
ของเพจ I-JU วัสดุก่อสร้าง ที่สุดท้ายก็เฉลยออกมาว่าเป็นส่วนหนึ่งในไวรัลแคมเปญของ BUILK Asia สตาร์ทอัพครบวงจรสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีทั้งโปรแกรมช่วยควบคุมต้นทุนไม่ให้บานปลาย
สร้าง Company Profile บนโลกออนไลน์ให้เสิร์ชเจอได้ง่าย
รวมไปถึงเช็กราคาวัสดุก่อสร้างแบบเรียลไทม์และซื้อขายได้ผ่านผู้ผลิตโดยตรง เปลี่ยนภาพจำผู้รับเหมาจากเถ้าแก่โหดๆ
เป็นชายหนุ่มใส่สูทสั่งงานลูกน้องผ่านสมาร์ทโฟนกันเลย

ถึงจะเสียดายนิดหน่อยที่ร้านเจ๊จูไม่มีอยู่จริง
แต่คนหนุ่มอย่าง โบ๊ท-ไผท ผดุงถิ่น ผู้มองเห็นโอกาสที่สตาร์ทอัพน่าจะลงไปเล่นในสนามของวงการก่อสร้างได้ก็น่าสนใจอยู่ดี
นี่เลยเป็นเหตุผลที่เรามาพูดคุยกับเขาในวันที่บิลค์กำลังจะก้าวสู่สเตจใหม่ซึ่งท้าทายกว่าเดิม

เริ่มต้นใหม่จากความผิดพลาด

“ผมเห็นวงการก่อสร้างมาตั้งแต่เด็กๆ
ตั้งใจว่าเรียนจบก็ไม่อยากรับช่วงต่อธุรกิจจากพ่อหรอกเพราะเราเห็นแล้วว่ามันไม่สนุก
แต่พอมีโอกาสมันก็หนีไม่พ้น คนเอางานก่อสร้างมาให้ เรายังเด็ก ไฟแรงอยู่ก็ลาออกจากบริษัทมาทำรับเหมากับเพื่อนๆ
แต่พอทำเองมันยากกว่าที่คิดเยอะเลย วันๆ มีแต่จ่ายเงิน เราไม่รู้เลยว่าได้กำไรขาดทุนไปเท่าไหร่ ทำไมเราเหนื่อยแต่เงินไม่เหลือวะ
เราเป็นผู้รับเหมาที่ไม่ประสบความสำเร็จเลย”

“เราไม่ควรทำงานแบบไม่มีข้อมูล และควรจะหาระบบมาช่วยเรา
แต่ซอฟต์แวร์ที่มีขายในท้องตลาดตอนนั้นมันตอบโจทย์แค่นักบัญชี ปิดงบ ส่งสรรพากรได้
แต่ที่บอกว่าปัญหาของงานโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรมอย่างที่เราต้องการมันไม่มี
หาไม่ได้ก็เขียนเองเลย ชวนเพื่อนที่เรียนวิศวะคอมฯ มาเขียนจนเริ่มขายตอนปี 2548”

ลุยไปบนทางที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง

“ตอนแรกเราคิดแบบ SMEs คือส่งเซลส์ไปขาย แต่มันก็ไม่โต
พอศึกษาว่าสตาร์ทอัพคืออะไร เราก็รู้ว่ามีวิธีทำซอฟต์แวร์โดยที่ไม่ต้องขายแบบเดิมก็ได้นี่นา
เลยเริ่มโปรเจกต์ BUILK ปล่อยในปี 2553
เป็นฟรีซอฟต์แวร์ที่ควบคุมงบและบันทึกค่าใช้จ่ายให้ผู้รับเหมาชื่อ ‘BUILK
Cost Control’ เราคิดแบบลูกค้าว่าคงไม่มีใครอยากเสียค่าบริการเดือนละสามพัน
ก็โอเค งั้นเรามีหน้าที่ไปหาโฆษณามาลงในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งกว่าค่าโฆษณารายแรกจะเข้าก็ผ่านไป
2 ปีเลยนะ มันเป็นโมเดลที่ยากและไม่มีคนอื่นทำกัน
แต่ผมว่ามันอาจจะเหมาะกับประเทศไทยที่กำลังพัฒนา มีงานก่อสร้างเยอะๆ
และต้องการจะเปลี่ยนแปลง ถ้าเก็บตังค์ก็อาจมีคนใช้แค่ 20 – 30 คน
และคงเปลี่ยนธุรกิจนี้ไม่ได้”

“เรารู้ว่ารายได้แค่จากโฆษณาไม่รอดหรอก
เลยขยับไปสู่การให้บริการเรื่องข้อมูลหรือ Big Data พอเริ่มมีคนใช้เยอะๆ เป็นพันบริษัท เราก็วิเคราะห์ได้ว่าผู้รับเหมาต้องการอะไร
ทำงานร่วมกับแบรนด์ส่งข้อมูลให้เขารู้ว่าหลังคายี่ห้อไหนขายดีกว่ากันในภาคอีสาน
มาร์เก็ตแชร์ของบริษัทต่างๆ เป็นเท่าไหร่ ขั้นถัดมาคือการเปิด ‘YELLO Smart
Purchase’ เป็นระบบอีคอมเมิร์ซซึ่งขายสินค้าให้สมาชิกได้ในราคาถูก
เพราะไม่มีหน้าร้าน ตัดค่าขนส่งออกไป แถมเรายังรู้ดีมานด์ว่าเฮียต้องการของอะไรเพราะมีข้อมูลในระบบอยู่แล้ว”

สังคมคุณภาพของวงการผู้รับเหมา

“เราพูดจาใกล้เคียงกับเขาอยู่แล้วเพราะเราก็เป็นผู้รับเหมาเหมือนกัน
แค่ช่วงแรกพวกเขายังไม่เปิดใจ กลัวว่าถ้าเว็บเราเจ๊งแล้วข้อมูลเขาจะไปไหน
เราต้องค่อยๆ สร้างความน่าเชื่อถือและพิสูจน์ให้เห็นว่าทำได้จริง พอเริ่มมีผู้รับเหมาที่ประสบความสำเร็จ
ก็ให้เขาเล่าแล้วบอกต่อ วิธีนี้เรียกว่า Pier Influencers เพราะเขาจะเชื่อผู้รับเหมาด้วยกันเองมากกว่า”

“ถึงเป็นธุรกิจไอทีแต่เราทำงานออฟไลน์เยอะมาก
จัดสัมมนาให้ผู้รับเหมามาเรียนใช้โปรแกรมปีละกว่า 50 ครั้ง งานของเราต้องลงไปเจอคน เพราะเรากำลังดิจิไทซ์วงการก่อสร้างที่ดูโลว์เทค
อัพเกรดเขาขึ้นมา ธุรกิจนี้มันสีเทาๆ แค่ผมบอกว่าเป็นผู้รับเหมา คนก็คิดไว้ก่อนแล้วว่าโกงแน่
แต่ผู้รับเหมารุ่นใหม่เขาเป็นมืออาชีพได้โดยใช้อินเทอร์เน็ตช่วย สมมติคุณอยากหาผู้รับเหมาแถวบางบัวทอง
เรามีส่วน ‘BUILK Connect’ ในเว็บไว้ให้เสิร์ชหาคอนแทกต์ผู้รับเหมา
มีแนะนำเลยว่าเจ้าไหนน่าเชื่อถือ เราส่งต่องานให้คนดีๆ ทำงานดีๆ กลับไปให้เจ้าของบ้าน
วันนี้เราไม่ได้เป็นแค่ซอฟต์แวร์ แต่เป็น Community Builder ที่จะเปลี่ยนธุรกิจก่อสร้างให้ดีขึ้น
ช่วยลดต้นทุนและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ต้องเจ๊ง แล้วเราก็จะมีสิ่งปลูกสร้างที่ดีตามมาตรฐาน”

เจ๊จูคือผู้ปูทางต่อ

“สเตจต่อไปเราตั้งใจจะเป็น Market Place
ดึงเอาร้านวัสดุก่อสร้างเล็กๆ ที่เป็นอีกธุรกิจที่กำลัง sun set ลูกหลานไม่อยากสานต่อ ให้มาอยู่ในแพลตฟอร์มของเรา ส่งขายออนไลน์ได้
เพราะเขาถือเป็นจุดกระจายสินค้าย่อยๆ ในธุรกิจ เราจะใช้ข้อมูลที่เชื่อมโยงผู้รับเหมาให้เข้าถึงร้านค้าพวกนี้ได้
ผมเชื่อว่าทั้งเจ้าของโครงการ ร้านโมเดิร์นเทรด และร้านวัสดุก่อสร้างรายย่อยอยู่ด้วยกันได้
ไม่มีใครฆ่าใครเด็ดขาดหรอก ทีแรกวางแพลนไว้ว่าจะปล่อยช่วงปลายปี
แต่ไวรัลเจ๊จูดันดังมากจนอาจต้องปรับแผนกันหน่อย (หัวเราะ)”

“ผมว่ากฎหมื่นชั่วโมงมีจริงนะ ผมพูดจาแบบเดียวกัน ทำเรื่องเดียวกันเป็นหมื่นชั่วโมง
เราทำเหมือนวันแรกที่ตั้งใจแต่พูดชัดขึ้น ให้เวลากับการสอนซ้ำๆ ขลุกอยู่กับผู้รับเหมาจนปั้นเขาขึ้นมาได้”

www.builk.com

facebook | Builk Thailand

ภาพ ชนพัฒน์ เศรษฐโสรัถ และ BUILK

AUTHOR