เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินเพลง Mei Hua (เหมยฮวา) ของเติ้ง ลี่จวิน ผ่านหูกันมาบ้าง แม้จะไม่รู้ว่ามันมีความหมายว่ายังไง แต่ได้ยินเพลงขึ้นเมื่อไหร่ก็ฮัม “เหมยฮวา เหมยฮวา หมานเทียนเซี่ย” คลอไปกับเสียงเพลงกันได้ตลอด
พอเข้าช่วงตรุษจีน ไต้หวันก็เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ทั่วเกาะมีดอกไม้แข่งกันผลิดอกเต็มไปหมด อย่างซากุระ (ภาษาจีนเรียกว่าอิงฮวา) ดอกสาลี่ (หลีฮวา) หรือดอกอาซาเลีย (ตู้เจวียนฮวา) รวมถึงดอกบ๊วยหรือ ‘เหมยฮวา’ ด้วยเช่นกัน
เหมยฮวานี่เองที่ดูจะเป็นดอกไม้ที่มีเครดิตสูงที่สุดในฐานะดอกไม้ประจำชาติของไต้หวัน (ดอกที่อยู่บนธงชาติไต้หวันนั่นก็ใช่) แม้คนไต้หวันหลายคนอาจจะยี้เพราะตราดอกเหมยนั้นมีที่มาจากตราสัญลักษณ์ของพรรคก๊กมินตั๋ง แต่ตราดอกเหมยในฐานะดอกไม้ประจำชาติก็ยังคงอยู่เรื่อยมา
ดอกเหมยนั้นเวลาบานพร้อมกันก็สวยไม่แพ้ดอกซากุระ แถมบางพันธุ์ยังส่งกลิ่นหอมอีก จนมีหลายครั้งที่เราสับสนระหว่างดอกไม้สองพันธุ์นี้ เพิ่งจะมาปีนี้เองที่ลองหาข้อมูลจริงจังแล้วพบว่าคนไต้หวันเองก็สับสนกับดอกไม้หน้าตาแบบนี้เหมือนกัน ที่สำคัญคือไม่ได้มีแค่สองพันธุ์ที่ชวนสับสน แต่ดอกบ๊วย (เหมยฮวา) ดอกซากุระ (อิงฮวา) ดอกสาลี่ (หลีฮวา) ดอกพลัม (หลี่ฮวา) และดอกพีช (เถาฮวา) 5 ดอกนี้หน้าตาคล้ายกันและชวนให้สับสนไปหมด
เมื่อเดือนที่ผ่านมา เราพร้อมกับพี่ๆ น้องๆ คนไทยที่มาเรียนต่อที่ไต้หวันหลายคนเช่ารถขับเพื่อออกไปตามหาดอกซากุระสีขาวกัน แต่หลังจากใช้เวลาขับรถอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง พอขึ้นเขาไปถึงจุดหมายกลับพบว่าคนเยอะเกินไปจนจอดรถไม่ได้ แต่ระหว่างทางพวกเราเจอคาเฟ่เอาต์ดอร์ร้านหนึ่งที่มีซากุระสีขาวเยอะไปหมดเหมือนกัน เลยตัดสินใจวนรถกลับไปคาเฟ่ร้านนั้นแทน อย่างน้อยก็ได้ชมซากุระสีขาวเหมือนกัน
ปรากฏว่าพอไปถึงที่ร้าน เจ้าของร้านก็บอกกับเราว่านี่ไม่ใช่ซากุระ แต่เป็นดอกสาลี่ต่างหาก ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครในทริปที่ผิดหวังเลย เพราะดูเผินๆ มันก็สวยเหมือนกันอยู่ดี
จบจากทริปนั้นเรายังมีโอกาสได้ไปสถานที่หนึ่งในภาคกลางของไต้หวันซึ่งพิเศษมากเพราะขณะที่จุดชมดอกไม้ส่วนใหญ่ของไต้หวันอาจมีดอกไม้หน้าตาคล้ายๆ กันแค่ 1-2 ชนิดหรืออย่างมากก็ 3 ชนิด ที่ ‘เฉ่าผิงโถว (草坪頭)’ หรืออดีตพื้นที่ปลูกชาในเมืองหนานโถว เราสามารถชมดอกไม้ 4 ชนิดได้ในที่เดียว คือ ดอกซากุระ ดอกเหมย ดอกสาลี่ และดอกพีช
พอดอกไม้ทั้ง 4 มาอยู่ด้วยกัน อย่าว่าแต่เราที่เป็นคนไทย แม้แต่คนไต้หวันเองก็สับสนเหมือนกันว่าทางไหนเป็นดอกอะไร แต่จริงๆ แล้วก็พอจะมีวิธีแยกแยะอยู่บ้าง และเราก็ได้เรียนรู้มาจากทริปนี้เหมือนกัน ดังนั้นนอกจากจะเอาภาพดอกไม้มาฝากแล้ว เราเลยขอแถมวิธีแยกแยะดอกไม้สวยๆ เหล่านี้ด้วย
ถ้าใครได้มาไต้หวันรอบหน้า นอกจากจะได้ถ่ายรูปดอกไม้เพลินๆ แล้ว การได้สังเกตและแยกว่าต้นนี้เป็นต้นอะไรหรือเป็นดอกอะไรก็ทำให้เที่ยวได้สนุกขึ้นเยอะเลย
ดอกซากุระ
ดอกไม้ที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะอยากมาเห็นด้วยตาตัวเอง ในไทเปมีจุดชมดอกซากุระอยู่หลายจุด เช่น เขาหยางหมิงซานหรือวัดอู๋จี๋เทียนเหยียน (無極天元宮) ใกล้ๆ เขตตั้นสุ่ย ดอกซากุระเป็นดอกไม้ที่สามารถแยกออกจากดอกไม้ประเภทอื่นๆ ที่เรากำลังพูดถึงในบทความนี้ได้ง่ายที่สุด เพราะปลายกลีบดอกจะมีหยักและมีก้านดอกยาว โดยหนึ่งช่อจะมีหลายดอก
ดอกเหมย
ส่วนตัวเราเวลาจะแยกดอกเหมย ถ้าไม่คิดถึงรูปทรงดอกไม้บนธงชาติไต้หวันก็จะนึกถึงโลโก้ดอกไม้บนซองลูกอมรสบ๊วยที่ชอบกินสมัยเด็กๆ ดอกเหมยจะมีความกลมๆ สมมาตรเหมือนกับโลโก้แบบนั้นเลย อีกอย่างที่ช่วยให้เราสามารถแยกดอกเหมยได้คือดูที่ก้านดอก ดอกเหมยจะไม่มีก้านชูขึ้นมาทำให้รู้สึกเหมือนดอกไม้ติดอยู่กับกิ่งไปเลย
ดอกพีช
ลักษณะคล้ายดอกเหมย แต่กลีบจะยาวรีกว่า มีก้านสั้นๆ ที่ต้องสังเกตให้ดี และถ้าโชคดีหน่อยก็จะเจอผลพีชที่เริ่มปูดขึ้นมาเป็นผลเล็กๆ ปนอยู่กับดอกพีชที่ยังร่วงไม่หมด บอกให้เรารู้ว่านี่แหละคือต้นพีช
ดอกสาลี่
แม้ตอนแรกเราจะสับสนระหว่างดอกสาลี่กับดอกซากุระสีขาว แต่พอได้เห็นดอกสาลี่เป็นครั้งที่สองก็เจอจุดที่แตกต่างจากดอกซากุระอย่างเห็นได้ชัด คือถ้ามองไกลๆ ดอกของต้นสาลี่จะขึ้นเรียงตัวไปตามกิ่ง ไม่ฟูฟ่องและแผ่ออกเหมือนซากุระ ดอกมีกลีบเรียวและเกสรยาวเป็นพิเศษ
แนะนำสถานที่ชมดอกไม้ไปง่ายรอบไทเป
Yangmingshan Flower Clock (陽明山花鐘)
Yangmingshan National Park, Hushan Road, Section 2, Beitou District, Taipei City
นั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงลงที่สถานี Beitou ต่อรถเมล์สาย 129 หรือ S9 ลงที่ป้าย Hushan Rd. Sec. 2
Wuji Tianyuan Temple (淡水無極天元宮)
No. 36, Section 3, Beixin Road, Tamsui District, New Taipei City
นั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงลงที่สถานีปลายทาง Tamsui ต่อรถเมล์สาย 875 จากท่ารถด้านนอกสถานีรถไฟฟ้า ลงที่ป้าย Tianyuan Temple