‘My heart feels, my flower says.’ ให้ดอกไม้เอื้อนเอ่ยวาจาภาษารักในเทศกาลวาเลนไทน์กับแคมเปญ Flower Talk

ฤดูกาลแห่งความรักเวียนมาถึงอีกครั้ง แน่นอนว่าไอเทมแทนใจสุดคลาสสิกคงหนีไม่พ้น ‘ดอกไม้’ ที่เป็นเหมือนตัวกลางช่วยเอื้อนเอ่ยวาจาภาษารัก สื่อสารความปรารถนาดีและความระลึกถึงไปสู่ผู้รับ

ถ้าวาเลนไทน์นี้คุณกำลังมองหาดอกไม้สักช่อเพื่อบอกความในใจกับคนรัก หรือส่งต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีให้คนพิเศษในชีวิต แต่ไม่อยากได้ช่อดอกไม้ทรงเรขาคณิตแสนจำเจ หรือช่อที่พันห่อด้วยเทปกาวและพลาสติกหลายๆ ชั้น เราขอแนะนำให้ลองไปดูดอกไม้แทนใจที่ Emporium Department Store เพราะวาเลนไทน์ปีนี้มาในธีม ‘Flower Talk’ ที่เอ็มโพเรียมขนขบวนดอกไม้นานาชนิดมาช่วยสื่อความนัยและส่งความรักรูปแบบต่างๆ ส่วนการจัดดอกไม้ในปีนี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะไม่ใช้กระดาษหรือพลาสติกใดๆ ห่อหุ้ม แต่เป็นการจัดดอกไม้ลงกระเป๋าผ้าเพื่อให้นำกลับมาใช้ใหม่ได้ และหิ้วได้สะดวกไม่ต่างจากถุงช้อปปิ้ง

ที่พิเศษคือปีนี้เอ็มโพเรียมตั้งใจเนรมิตชั้น G ของห้างให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความปรารถนาดีที่มีดอกไม้สวยๆ ผลิบานให้ความสดชื่นไปทั่ว แน่นอนว่าดอกไม้แต่ละชนิดมีความหมายและสื่ออารมณ์แตกต่างกันออกไป เอ็มโพเรียมจึงร่วมกับศิลปินนักจัดดอกไม้คัดเลือกดอกไม้ 7 ชนิดที่เป็นตัวแทนของความสัมพันธ์ต่างๆ มาให้ลูกค้าจับคู่และเลือกจัดช่อได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะมอบให้คู่รัก ญาติผู้ใหญ่ที่รักเคารพ พี่น้อง เพื่อน หรือมอบให้ตัวเองก็ได้ทั้งนั้น ดอกไม้แต่ละชนิดที่คัดสรรมาล้วนมีความหมายดีๆ ที่ช่วยสื่อความในใจได้หลากหลาย เพราะเอ็มโพเรียมเชื่อว่าความรักไม่ได้จำกัดอยู่แค่คู่รักเท่านั้น ซึ่งดอกไม้นี่แหละที่เป็นเหมือนตัวแทนช่วยสื่อสารภาษารักในหลายๆ รูปแบบ โดยที่คุณแทบไม่ต้องเอื้อนเอ่ยอะไรมากมาย เพราะ My heart feels, my flower says. เรียบร้อยแล้ว

ตามไปดูกันว่านอกจากการพื้นที่พิเศษที่เกริ่นมา เอ็มโพเรียมเขามีเซอร์ไพรส์พิเศษอะไรรออยู่

ความรักบานสะพรั่งทั่วทั้ง Flower Bar

เอ็มโพเรียมจัดบาร์ดอกไม้ทั้งทีคงไม่ได้มีแค่ดอกไม้เรียงกันในตู้กระจกธรรมดาๆ แน่นอน เพราะปีนี้ Flower Bar มาในรูปแบบของรถเข็นดอกไม้ที่ให้บรรยากาศเหมือนร้านดอกไม้ในต่างประเทศ บนรถเข็นมีดอกไม้ 7 ชนิดที่บานแข่งกันแบบไม่มีใครยอมใคร ทั้งกุหลาบสีแดงเข้ม ทิวลิปสีม่วง คาร์เนชั่นหลากสี ทานตะวันเหลืองสดใส ดอกมัมขาว เยอร์บีร่าสีชมพูน่ารัก รวมถึงดอกไลซิแอนทัสสีแดงและม่วง ราวกับยกสวนดอกไม้ขนาดย่อมมาไว้ใจกลางห้างสรรพสินค้า

ตัวรถเข็นออกแบบให้เป็นสีโอลด์โรสเพื่อให้ดูไม่หวานเลี่ยนเกินหรือเข้มขรึมไป และตั้งใจไม่ใช้สีชมพูที่คนทั่วไปมักจะเห็นในช่วงวาเลนไทน์ เพราะต้องการจะสื่อว่าสีของความรักไม่ควรจำกัดอยู่แค่สีใดสีหนึ่ง หรือเป็นของเพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น แต่ความรักจะเป็นสีอะไรก็ได้ จะใช้ดอกไม้สีอะไรก็ได้ สายพันธุ์ใดก็ได้ ตามแต่คุณจะเลือกมาสื่อสารความในใจ

นอกจากนี้ฟังก์ชั่นของรถเข็นยังใช้เป็นโต๊ะสำหรับจัดดอกไม้และวางแจกันดอกไม้สำหรับเตรียมจัดเข้าช่อ ส่วนเรื่องการออกแบบมีการใส่ดีเทลหลังคาเล็กๆ ตรงกลางรถเข็นเพื่อเลียนแบบรถเข็นดอกไม้จริงๆ และใส่ล้อด้านล่างเพื่อความสมจริง คล้ายจะสื่อว่า Flower Bar แห่งนี้พร้อมเคลื่อนไปหาคุณเพื่อจัดส่งความรักและความสุขให้คนที่คุณรักในช่วงวาเลนไทน์นี้

ส่วนศิลปินสาวนักจัดดอกไม้ที่เอ็มโพเรียมชักชวนมาร่วมในงานนี้คือ เจ้าของร้าน 6188 Flowers bar ผู้โดดเด่นในการจัดดอกไม้แบบฟรีฟอร์ม ที่ใช้รูปแบบการผลิบานของดอกไม้ตามธรรมชาติมาเป็นแรงบันดาลใจ ในขณะเดียวกันก็มีการเสริมความโมเดิร์นและความเป็นสังคมเมืองเข้าไปเพื่อให้เข้ากับคาแร็กเตอร์ของเอ็มโพเรียม ดอกไม้ที่จัดจึงไม่ใช่ช่อกลมๆ แบบงานเลี้ยง แต่เป็นลักษณะของดอกไม้ที่ผลิบานอย่างอิสรเสรี แทรกแซมด้วยใบไม้เขียวและดอกไม้ใหญ่น้อยหลากขนาด หลายสีสัน สื่อถึงชีวิตคนเมืองที่สนุกสนาน สร้างสรรค์ และไม่จำเจติดกรอบ

ส่วนดอกไม้ทั้ง 7 ชนิดที่คัดเลือกมา ศิลปินตั้งใจใช้ดอกไม้ที่ปลูกโดยเกษตรกรไทยเป็นหลัก เพราะดอกไม้จะคงความสดได้ยาวนาน เนื่องจากเกษตรกรตัดมาขายวันต่อวัน ในขณะเดียวกันก็ได้ลดการนำเข้าดอกไม้จากต่างประเทศที่มักจะผ่านการแช่สารเคมีปริมาณมากก่อนส่งมายังประเทศไทย

นอกจากความใส่ใจในการคิดคอนเซปต์และความพิถีพิถันในการเลือกดอกไม้ เอ็มโพเรียมยังตั้งใจใช้ถุงผ้ามาเป็นช่อดอกไม้แทนการห่อด้วยพลาสติกหรือกระดาษ เพราะต้องการให้ผู้รับนำถุงผ้ากลับไปใช้ต่อได้เรื่อยๆ และการจัดดอกไม้รูปแบบนี้ยังได้กลิ่นอายของบรรยากาศสังคมเมือง เพราะคุณสามารถหอบหิ้วช่อดอกไม้ได้อย่างไม่เคอะเขิน ไม่ต่างจากถุงช้อปปิ้งอีกถุงหนึ่ง

นอกจากการจัดดอกไม้ที่เป็นไฮไลต์ เอ็มโพเรียมยังจับมือกับ Sorravis P. ศิลปิน calligraphy ที่จะมาช่วยออกแบบตัวอักษรสวยๆ สำหรับข้อความแทนใจและชื่อผู้รับในสไตล์ตัวอักษรสุดเท่ พร้อมทั้งเพนต์ลงบนกระเป๋าหรือการ์ดแท็ก เพื่อสร้างความรู้สึกพิเศษและความประทับใจไม่รู้ลืมแก่ผู้รับ นอกจากนี้ยังรีเควสต์ศิลปินให้วาดดอกไม้สุดโปรดลงบนกระเป๋าได้อีกด้วย

สื่อรักภาษาดอกไม้

ใน Flower Bar มีเมนูดอกไม้แทนใจให้คุณเลือกสั่งจัดช่อได้ตามความต้องการสำหรับความรักหลากหลายรูปแบบ

สำหรับคู่รักเราขอแนะนำช่อ ‘You are my special one’ ที่โดดเด่นด้วยดอกกุหลาบสีแดงเข้ม รายล้อมด้วยดอกคาร์เนชั่นขาว ให้ฟีลโรแมนติกของคู่รักที่เต็มไปด้วยเสน่หาร้อนแรงและความรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนม

สำหรับใครที่อยากมอบดอกไม้ให้เพื่อนรัก คนที่แอบปิ๊ง หรือแม้แต่ให้ตัวเอง เราขอแนะนำช่อ ‘You are my breath of fresh air’ ประกอบด้วยดอกเยอร์บีร่าสีชมพูน่ารักที่สื่อถึงความรักบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา แซมด้วยดอกคาร์เนชั่นขาวที่สื่อถึงความหลงใหล อยากใกล้ชิด รับรองว่าช่อนี้น่าจะช่วยกระชับความสัมพันธ์อันสดใสให้คุณและผู้รับได้ดีเชียวล่ะ

ส่วนคนที่อยากมอบดอกไม้ให้ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพหรือครอบครัวที่รัก เราแนะนำเป็นช่อ ‘You are the one I call HOME’ ที่สื่อถึงการให้เกียรติ ความสัตย์ซื่อ และความรักโดยไร้เงื่อนไข ช่อนี้ประกอบด้วยดอกทิวลิปซึ่งสื่อถึงรักที่สมบูรณ์แบบ ล้อมรอบด้วยดอกมัมที่สื่อถึงความเชื่อใจและความผ่อนคลาย แทรกด้วยดอกไลซิแอนทัสที่สื่อถึงความซาบซึ้งและความทรงจำที่ดีร่วมกัน ช่อดอกไม้นี้จึงสื่อถึงรักยิ่งใหญ่และไร้เงื่อนไข เหมาะที่สุดสำหรับมอบให้ผู้ใหญ่ที่เคารพรัก

ขอส่งท้ายความร่าเริงเบิกบานด้วยช่อ ‘You are my bright side’ ที่ประกอบด้วยดอกทานตะวันสีเหลืองสดใสที่สื่อถึงความรักชื่นชมและอบอวลไปด้วยความสุข ล้อมรอบด้วยดอกมัมและคาร์เนชั่นเพิ่มความอ่อนหวาน ช่อนี้เหมาะจะมอบให้เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนสนิท น่าจะช่วยเติมความสดใสให้วันทำงานได้ดีไม่น้อย

หากใครได้รับช่อดอกไม้ไปแล้วและอยากถนอมไว้ชื่นชมนานๆ ศิลปินนักจัดดอกไม้ฝากข้อแนะนำในการดูแลง่ายๆ โดยเริ่มจากการดึงดอกไม้ทั้งหมดออกจากโอเอซิส แล้วตัดปลายเฉียง จากนั้นปักใส่แจกันที่ใส่น้ำพอให้ท่วมปลายก้าน ถ้าอยากให้ดอกไม้ดูสดได้นานขึ้นไปอีก ก็แค่ต้องตัดก้านสม่ำเสมอเพื่อเปิดทางท่อน้ำให้ดอกไม้ได้รับน้ำเรื่อยๆ ส่วนใครที่อยากเก็บฟอร์มการจัดดอกไม้แบบดั้งเดิมของศิลปินไว้ก็แค่ตั้งไว้ให้กลายเป็นดอกไม้แห้ง เพราะไม่ว่าจะเป็นความสดชื่นของดอกไม้สดหรือความโรยราของดอกไม้แห้งก็ล้วนมีความสวยงามในตัวเอง ยิ่งเป็นดอกไม้แห้งก็ยิ่งได้เก็บความทรงจำไว้ในช่อดอกไม้นานแสนนาน

Blooming Surprise ดอกไม้ให้คุณในวันวาเลนไทน์

ใครที่อยากได้ช่อดอกไม้สุดพิเศษจากเอ็มโพเรียมไปมอบให้คนที่รักในช่วงวาเลนไทน์ เพียงแค่คุณซื้อสินค้าใดๆ ก็ได้ใน Emporium Department Store ครบ 8,000 บาท ในวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ 2563 สามารถนำใบเสร็จมาแลกรับช่อดอกไม้ได้ฟรี จำกัด 65 ช่อต่อวัน สำหรับ 1 คน/สิทธิ/วัน สำหรับ 1 คน/สิทธิ์/วัน และรับ Voucher มูลค่า 500 บาท จำกัด 1 คน/สิทธิ์/วัน หรือเมื่อซื้อสินค้าครบ 2,000 บาท สามารถนำใบเสร็จมาแลกรับ voucher มูลค่า 500 บาท จำกัด 1 คน/สิทธิ/วัน

ส่วน 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์นี้ เอ็มโพเรียมก็แอบกระซิบว่าจะมีเซอร์ไพรส์สำหรับลูกค้าทุกคนที่เข้ามาเดินใน Emporium Department Store ให้คุณได้มอบให้ตัวเองและคนพิเศษในวันแห่งความรักอีกด้วย

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

วริทธิ์ โพธิ์มา

รักหมูกรอบ และข้าวมันไก่