ฉันเป็นคนเห็นแก่กิน
บนพื้นฐานว่าใครๆ ก็ชอบกินของอร่อย แต่สิ่งที่จะอาการหนักกว่าชาวบ้านชาวช่องอยู่สักหน่อยคือ ฉันจริงจังกับการกินของอร่อยจนเข้าขั้นหมกมุ่น ฉันทำอาหารเช้ากินเองเพราะเลือกแต่ของที่ชอบได้ กินสตรีทฟู้ดร้านอร่อยเป็นอาหารกลางวันสม่ำเสมอเพราะออฟฟิศที่อยู่รายล้อมไปด้วยร้านอร่อย เย็นจบมื้อด้วยร้านโปรดทั่วกรุง ไม่ก็มื้อเย็นเต็มคราบที่แม่ทำ
พันธกิจประจำเวลาว่างคือการหาของอร่อยกิน มีความสุขก็เฉลิมฉลองส่วนตัวด้วยการกินของอร่อย ทุกข์ก็บำบัดได้ด้วยร้านอร่อย แต่ถ้ายุ่งจนไม่มีเวลาถ่อไปร้านไกลๆ ฉันก็มีคอมบิเนชั่นส่วนตัวที่รู้ว่าจะมิกซ์แอนด์แมตช์อาหารทั่วไปยังไงให้ยังอร่อยได้อยู่
แต่เมื่อจุดเปลี่ยนชีวิตมาถึง ฉันเลือกพิกัดออฟฟิศที่ตั้งอยู่ในซอยลึกที่มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น เครียดๆ เปิดประตูออกมาที่ระเบียงก็ได้ยินเสียงนกร้องและกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกปีบโชยมา แต่ข้อเสียของย่านที่ว่าคือมีร้านอร่อยระดับจอมยุทธ์น้อยมากจนเกือบขาดแคลน ฉันไม่สามารถบริหารจัดการมื้อกลางวันให้อร่อยอย่างหลากหลายในหนึ่งสัปดาห์ได้ อาหารเย็นก็ออกจะแล้งไร้เพราะมักเป็นร้านในห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก น้อยมากที่จะเดินดุ่มเข้าร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วผลลัพธ์อยู่ในแดนบวก ร้านอาหารตามสั่งที่ดีเด่นพอจะฝากท้องประจำก็ดันเปิดวันหยุดสองวันจนฝากความหวังไว้ไม่ได้
เพื่อความสะดวกสบายและไม่ต้องเดินตากแดดเที่ยงออกไปจาริกอาหารกลางวัน ฉันจึงเริ่มพกข้าวกล่องมาออฟฟิศบ่อยขึ้น วันไหนทำเองหรือแม่ทำให้ก็อร่อยดี แต่วันไหนแวะได้แค่ร้านข้าวแกงในปั๊มน้ำมันก็ต้องเป็นไปตามนั้น พอเห็นว่าการกินข้าวกล่องได้ของแถมเป็นเวลาเหลือในการจัดการงานยุ่งๆ ได้มากขึ้นเพราะไม่ต้องออกไปไหน ฉันก็ชักจะติดใจการกินเพื่ออยู่ มากกว่าการอยู่เพื่อกินที่ยึดถือตลอดมา
แต่ก็ตามประสาคนเยอะเรื่องแยะ ฉันก็ไม่อยากให้การกินแล้งไร้จิตวิญญาณของคนช่างกินจนเกินไป จึงออกกฎกับตัวเองและปฏิบัติอย่างเข้มข้น ชนิดที่ใส่ไว้ใน habit tracker ส่วนตัว เพื่อเช็กผลว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน และนี่คือกฎที่ทำให้การอยู่เพื่อกินอย่างตีฟูจิตใจ และกินเพื่ออยู่ไปอย่างมีฟังก์ชั่น
ข้อที่หนึ่ง ต้องว่างอยู่บ้านเพื่อกินอาหารที่แม่ทำอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ฟังก์ชั่นคือการได้กินของอร่อยและได้ใช้เวลากับแม่ที่ชักจะน้อยลงโดยไม่ได้ตั้งใจ สิ่งที่จับต้องได้เป็นรูปธรรมคือแม้แม่จะบ่นเวลาเราบอกว่าอยากกินอะไรก็ได้ที่แม่ทำ แต่ในที่สุดกับข้าวเต็มโต๊ะจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และแม่จะแอบยิ้มทุกทีที่เราเติมข้าวอีกจาน
ข้อที่สอง ต้องได้กินร้านอร่อยน่าพอใจอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็ยังดี ฟังก์ชั่นเติมเต็มจิตใจและรักษาแววตาระยิบระยับเวลาได้กินของอร่อยของตัวเองเอาไว้ ในขณะที่ผู้หญิงคนอื่นๆ อาจจะรู้สึกว่าตัวเองสวยเมื่อแต่งหน้า สวยเมื่อมีคนมาจีบ สวยเมื่อได้เป็นที่ยอมรับในความสามารถ ฉันมักรู้สึกว่าตัวเองสวยขึ้นเมื่อได้กินของอร่อย โดยเฉพาะของอร่อยมากๆ จนดีใจที่ได้กิน จะบอกว่าหลงตัวเองก็ได้ แต่ฉันเชื่อจริงจังว่าหน้าตาอิ่มยิ้มตอนนั้นต้องสวยมากแน่ๆ
ข้อที่สาม กินผักให้ถึงครึ่งจานทุกมื้อเพื่อสุขภาพ จริงๆ มีสูตรการกินเพื่อสุขภาพมากมายเต็มโลกไปหมด แต่สิ่งนี้ค่อนข้างเป็นรูปธรรมและไม่หนักหน่วงจนเกินไป เอาเข้าจริงๆ มันก็ยากเหมือนกันนะหากเราไม่ได้จะเปลี่ยนชีวิตกินคลีนหรือเข้าครัวสามมื้อ แต่พอตั้งเป็นกฎแล้วก็ท้าทายตัวเองดี รู้สึกว่าในแต่ละมื้ออาจน่าเบื่อเพราะไม่อร่อย ก็ยังมีมิชชั่นให้พิชิตเป็นการครีเอตหรือการสรรหาเมนูผักมาโปะจานแล้วกินให้หมดให้ได้ ซึ่งผลลัพธ์ที่น่าพอใจคือลำไส้สามัคคีกับร่างกายมากขึ้น
ข้อที่สี่ หากไม่ใช่มื้ออร่อย กินเพื่ออิ่มทั่วไป ให้สั่งแบบไม่ใส่เนื้อสัตว์ จริงๆ ไอเดียนี้มาจาก Meatless Monday แคมเปญน่าสนใจที่ชวนคนทั่วไปตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อม คล้ายๆ การพกแก้ว พกถุงผ้า หรือไม่ใช้หลอดพลาสติกครั้งเดียวทิ้งนั่นแหละ แต่เป็นการลดผลกระทบในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ แถมยังมีตัวเลขมายืนยันชัดเจนด้วยว่า หากเราลดการกินเนื้อสัตว์ทุกวันจันทร์พร้อมกันทั้งโลก จะเทียบเท่ากับการลดใช้รถยนต์ส่วนตัว 240 ล้านคันต่อปีเลยนะ นับเป็นเบอร์รองที่ประนีประนอมกว่าสายวีแกนหรือสายมังสวิรัติ แต่จากความพยายามที่ผ่านมา การหมดจดตลอดวันจันทร์เป็นเรื่องยากกว่าที่คิด เลยปลอบใจตัวเองว่า หากยังร่วม Meatless Monday ไม่ได้ เป็น ‘meatless บ้างดิ ก็ยังดี’ เพราะถ้ามื้อไหนมีคนกินด้วยก็ไม่อยากให้กฎของเราไปรบกวนใจจนไม่เอนจอยกับการกิน (ที่เรารู้ว่ามันสำคัญต่อจิตใจมากเลยนะ ฮ่า)
อันที่จริง ความไม่เป็นปึกแผ่นของพฤติกรรมก็อาจจะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมไม่ได้จริงเท่าไหร่ แต่พอสนใจเรื่องนี้และรับมาอยู่ในชีวิตมากขึ้น จากที่เคยซื้อของมาตุนแล้วต้องทิ้งเพราะหมดอายุบ่อยๆ กินบุฟเฟต์ตามใจคนรอบตัว หรือกินทิ้งกินขว้างกลายเป็นขยะกำจัดยากอยู่เสมอ เราก็ค่อยๆ ลด ละ เลิกพฤติกรรมเหล่านั้น ซึ่งก็ดูเหมือนจะดีกับโลกและกระเป๋าตังค์มากกว่าแต่ก่อน ที่แน่ๆ มันช่วยให้ฉันประนีประนอมกับมื้อกินเอาอิ่มได้ง่ายขึ้นด้วย
เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนของการกินเพื่ออยู่และอยู่เพื่อกินที่เหมาะกับคนที่หมกมุ่นแต่เรื่องกินดีเหมือนกัน