อาจมีหลายเหตุผลที่ทำให้เราติดซีรีส์ดังอย่าง Games of Thrones หรือ Westworld ด้วยความซับซ้อนของเนื้อเรื่อง โปรดักชันดีไซน์เนี้ยบละเอียด หรือตัวละครที่มีเสน่ห์จนคนดูตกหลุมรักได้ง่ายๆ ละครฝรั่งจากช่อง HBO เป็นงานคราฟต์ที่ลงทุนลงแรงมหาศาล จนเราตื่นเต้นไปกับอาณาจักรเวสเธอรอส ตามติดโลกคาวบอยในสวนสนุกเวสต์เวิลด์ พร้อมกับตั้งหน้าตั้งตารอซีซันใหม่อย่างใจจดใจจ่อ
แล้วถ้าซีรีส์ใหม่ของ HBO มาเริ่มต้นที่อินโดนีเซียหรือประเทศไทยล่ะ เราจะอยากดูกันรึเปล่า
HBO คงตั้งคำถามแบบเดียวกันนี้ ถึงได้สร้าง Halfworlds ซีรีส์ใหญ่เรื่องแรกในโลกตะวันออกโดยใช้ทีมงานและนักแสดงเอเชียแทบทั้งหมด
เรื่องราวของภูตผีปีศาจที่ซ่อนตัวและใช้ชีวิตปะปนกับมนุษย์เริ่มต้นที่จาการ์ตาในภาคแรก
และในภาค 2 โลกแฟนตาซีสุดดาร์กก็เคลื่อนมาถึงกรุงเทพมหานคร ก่อนไปดูลีลาบู๊แอ็กชันของนักแสดงไทย
อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน ในหน้าจอ เราขอเวลาสักครู่มานั่งพูดคุยกับผู้กำกับ
เอกชัย เอื้อครองธรรม ถึงเบื้องหลังการสร้างโลกทั้งใบของ Halfworlds
ละครเวที VS. ละครทีวี
ความแตกต่างทางเทคนิคระหว่างละครเวทีกับหนังมันมีเยอะ
เอาง่ายๆ คือถ้าเป็นละครเวที ผมจะหลับตาแล้วคิดว่า ‘ผมได้ยินอะไร’
เพราะมันพึ่งคำพูดเยอะ แต่หนังผมจะหลับตาแล้วคิดว่า ‘ผมเห็นอะไร’
เพราะผมจะคิดวิชวลก่อน เบสิกมันต่างกัน การคิดว่าเราได้ยินอะไรกับเห็นอะไรมันทำให้เราคิดต่างกัน
ในการทำหนังผมจะพยายามคิดว่า ถ้าอยู่ดีๆ
ฟิล์มมันตกลงในหมู่บ้านเอสกิโม เขาดูเขาควรจะรู้เรื่อง ภาพมันมีพลังในการสื่อสารได้ทุกเผ่า
ทุกประเทศ ผมชอบหนังที่สื่อด้วยวิชวลได้อย่างมีความหมายและมีประสิทธิภาพ
สำหรับผมมันคือหลักการทำหนัง ถ้าผมจับภาพนิ่งจากหนังสักสิบภาพออกมา
มันสมควรจะเล่าเรื่องได้
ผมได้งานนี้จากลอสแองเจลิส
เพื่อนติดต่อมาว่า เอกชัยอยากทำซีรีส์บ้างมั้ย จริงๆ เราก็เป็นแฟน
ชื่นชอบติดตามผลงาน HBO อยู่แล้ว
ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำมันก็มีความเป็นหนัง เรื่องนี้มันเหมือนหนังที่ยาวมากขนาด 7 เรื่องต่อกัน
ผมดูซีซัน 1 ก็ชอบ แล้วทาง HBO ก็บอกเลยว่าผมมีวิสัยทัศน์ทางครีเอทีฟอย่างไรก็สามารถปรับเปลี่ยนได้
ถ้า Halfworlds เป็นหนังสือ มันก็ไม่ใช่เรื่องราวคนละบท
มันอาจจะเป็นหนังสือชุดเดียวกันแต่เป็นคนละเล่ม เลยรู้สึกว่าเรามีอิสระในการคิด แล้วผมไม่ได้เป็นแค่ผู้กำกับ
เราร่วมอำนวยการผลิตด้วย มีส่วนร่วมพัฒนาบทตั้งแต่ต้น การคิดงานมาแต่ต้นๆ
ก็สนุกดี
เรื่องของภูตผี
เรื่องนี้ใช้เวลาพัฒนาบทนานมาก ราวๆ 6 เดือน คนเขียนบทเป็นคนเอเชียที่อยู่
LA เราสไกป์คุยกันทุกวัน
เขามีดราฟต์แรกๆ มาให้ แต่ผมก็ research เองจนกลัวผี
(หัวเราะ) สิ่งที่มันเหมือนภาคแรกอย่างนึงคือการใช้ความเชื่อเรื่องภูตผีปีศาจ ดังนั้นพอมาเมืองไทย
ผมก็เริ่มแกนจากผีปีศาจที่ไทยมีอยู่ ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการสร้างตัวละคร
ไม่ว่าจะเป็นผีตะเคียน ผีโพง เสือสมิง วันๆ นึงผมดูแต่ผีในจอ เช่น ตัวจีจ้า (ญาณิน
วิสมิตะนันทน์) เกิดจากผมไปเจอผีโพง
มันจะตัวเล็กๆ สไตล์การต่อสู้ของจีจ้าจะเป็นเหมือนกอลลั่ม คือจะอยู่ต่ำๆ ระดับพื้นแล้วตวัดขึ้นมา
หรือตัวภีม (ธนบดี ใจเย็น) เป็นเสือสมิง จะดุแบบนิ่งๆ แล้วมาตอนค่ำๆ
ผมสนใจเรื่องที่ดูแปลก ๆ ตั้งแต่หนังน้องตุ้ม (Beautiful Boxer) หรือ The
Coffin ที่เกี่ยวกับการนอนโลงสะเดาะเคราะห์
ผมชอบอะไรที่มันมีความผิดปกติแต่จริงๆ แล้วปกติ
อย่างเรื่องของน้องตุ้มเป็นเรื่องคนที่ต้องการเปลี่ยนร่างกายให้เป็นผู้หญิง
ใจกับร่างกายจะได้ตรงกัน ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่พิเศษมาก
คือมันมีน้อยคนที่จะรู้สึกอย่างนั้น แต่ธีมจริงๆ ที่ผมจะเล่นคือเรื่องการมีความกล้าหาญพอที่ทำความฝันให้เป็นจริง
แม้จะคนทั้งโลกจะไม่เห็นด้วยกับความฝันคุณ
ดังนั้นแม้ว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับปีศาจ แต่ว่าเรื่องที่ตัวละครดำเนินไปก็เหมือนมนุษย์เรา
เป็นตัวละครที่โหยหาการเชื่อมโยงกับผู้อื่น คือตัวละครทุกตัวเหงามากๆ ไปหมดเลย
เหงาโคตรๆ ความเหงามันเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยเฉพาะในยุคนี้
คนเราดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับมนุษย์คนอื่นได้มากมาย ไม่ว่าจะทาง social ทาง
digital แต่ความจริงเราเปล่าเปลี่ยวกว่าเดิมเยอะ
มันเหมือนกับเรามีไลน์ของทุกคนในโลกนี้ แต่ทำไมเรารู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวในบางครั้งแล้วความเป็นอมตะยิ่งทำให้พวกเขาเหงาขึ้น
ประโยคแรกที่ผมคุยกับพวกเขาคือความเป็นอมตะมันไม่มีความหมาย
ถ้าคุณไม่มีใครที่จะใช้ชีวิตด้วย ตัวละครพวกนี้มีความพิเศษ แต่ขณะเดียวกันก็เหมือนเรา
เรามีความรู้สึกบางครั้งว่าทำไมมันไม่มีใครสักคนในชีวิตที่เราสามารถเชื่อมโยงได้ตลอดไป
ซึ่งมันเป็นแกนที่ผมสนใจตั้งแต่ต้น ผมคิดว่า value ของมนุษย์เรามันถูกจำกัดความด้วยความรัก
จริงๆ เรื่องนี้มันโรแมนติกมาก พูดอยู่ 2
อย่างเท่านั้น คือ ครอบครัวกับมิตรภาพ ถึงจะมีฉากบู๊แอ็กชั่น
แต่สำหรับผมมันดราม่าทั้งเรื่อง คือบางทีมันถึงจุดที่พูดไม่พอแล้ว เลยต้องต่อยกัน
ความจำเป็นของปีศาจ
ตัวละครเรื่องนี้มันมีความ extreme มีการแสดงออกที่ extreme มาก อย่าง จีจ้ากับนิโคล (นิโคล เทริโอ)
ตัวละครสองตัวนี้จะไม่มีทางมี conflict สูงขนาดนี้
ถ้าคนใดคนหนึ่งไม่ใช่ปีศาจแล้วอีกคนเป็นมนุษย์ มันเป็น relationship ที่น่าสนใจสำหรับผม เหมือนแม่ลูกแต่สลับที่กัน
ถึงแม้จีจ้าจะดูเด็กแต่มีความเป็นแม่สูง เขาต้องการปกป้องดูแลนิโคลไปตลอดชีวิต
แต่ในใจเขารู้ว่าสักวันหนึ่งนิโคลจะต้องตาย ซึ่งจะทำให้เขาเหลือคนเดียวแล้วเปล่าเปลี่ยวที่สุด
หรืออย่างนางเอกคือเทีย (เทีย
ทวีพาณิชย์พันธุ์) กับภีม คนหนึ่งคือรักจนเลิกรักแล้ว เบื่อมาก
เพราะว่ารักใครคนนั้นก็หายไป
จนในที่สุดก็มาเจอคนที่ทำให้เขายอมเสี่ยงกับความเจ็บปวดเพื่อมีความรักอีกครั้ง
ซึ่งจริงๆ ในชีวิตเราก็เป็นแบบนี้ เราอยากจะมีความรักเราก็รู้ว่ามันเสี่ยง
แต่ก็ขอลอง (หัวเราะ) conflict มันแรงดี ความเป็นปีศาจมันทำให้เกิดอะไรแบบนี้ได้
ผมทำไม่ได้ถ้าตัวละครเป็นมนุษย์ธรรมดาปกติ
บรรจงสร้างโลก
ซีรีส์มันยาว เล่นได้หลาย layer มันสนุกตรงที่ว่ามันมีความลึกของตัวละคร
เราไม่ได้แค่แตะแล้วไป แต่ปล่อยเส้นเรื่องได้เหมือนสยายผมพร้อมกัน พอมีเส้นเรื่องหลายๆ
เส้นที่เกาะเกี่ยวพันกัน ก็เป็นจิ๊กซอว์ทางอารมณ์ที่น่าสนใจดี ตื่นเต้นดี ทำให้เราได้ลองทำอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ แล้วมันก็จะมีช็อตเยอะมาก เนื่องจากเรามาจากสายหนัง เราก็จะประดิษฐ์ อยากจะทำนู่นนี่
คิดว่าอาจจะถ่ายเร็วๆ ได้ พอมาทำจริงๆ ก็ไม่สามารถหยุดตัวเองได้ ต้องใส่รายละเอียดเยอะๆ
อยู่ดีเราพยายามทำให้มันเป็น
cinematic experience ผ่านทีวี
โปรดักชันดีไซน์นี่จัดเต็มยังกะทำหนัง อาจจะยิ่งกว่าด้วยซ้ำเพราะมันยาวเกือบ 8 ชั่วโมง
การเป็นผู้กำกับคือการเป็นผู้นำ
เราเป็นผู้นำที่ดีไม่ได้ถ้าเราไม่กล้าคิด
แต่เราจะกล้าก็ต่อเมื่อเราคิดยากแล้วทีมจะไม่มาบอกว่าถ่ายไม่ทันหรอก
แต่เขากลับบอกว่าเอาเลย เรามีทีมที่บ้าพอกับเรา แล้วเขาเก่ง ทำอะไรได้เร็ว
พอเป็นแบบนี้เราก็โยนอะไรยากๆ ให้เขาทำได้ เอาง่ายๆ ถ้าทางเทคนิค
เอาเร็วเราก็จัดไฟทีเดียวแล้วถ่ายทุกซีน แต่ไม่ได้ ซีนทุกซีนอุณหภูมิของอารมณ์ไม่เท่ากัน
ก็ต้องเปลี่ยนอยู่นั่นแหละ
หรือเวลาเซ็ตอัพน้อย แต่อยากจะเอาของดี production designer ก็คิดมาให้ได้ ผมอยากได้สถานที่ยิ่งใหญ่สมกับเป็นออฟฟิศของนิโคล
เขาก็เลยคิดให้เป็นสวน zen
ซึ่งใช้เวลาเซ็ตอัพน้อยแต่ดูดี โจทย์ทาง creative
มันต้องมีคนบ้าบิ่นช่วยกันคิดเยอะๆ
พวกอาวุธต่างๆ ก็ดีไซน์กันไม่รู้ตั้งกี่ร้อยเที่ยว มีที่มาที่ไปหมดเลย
คือคนดูไม่ต้องเห็นมันหรอก แต่ผมเชื่อว่าของมันจะดีมันต้องมีรากเหง้าที่ดี
คนไม่ต้องเห็นราก เห็นใบ เห็นดอกมันก็พอ แต่ถ้าข้างล่างไม่ดี ข้างบนมันไม่มีทางดี
คณะอมนุษย์
กว่าจะได้นักแสดงชุดนี้ก็ค้นหากันเยอะมาก
ออดิชันเยอะแยะไปหมด ดาราดังเราก็ต้องออดิชัน
เช่น เจค (เจค มาคาปากัล) ก็ดูเทปออดิชันจากฟิลิปปินส์ เพราะเราไม่รู้เล่นคู่กันแล้วมันจะออกมาเป็นยังไง
พระเอกนางเอกกว่าจะได้ก็จับคู่กันไม่รู้ตั้งกี่แบบ อย่างภีม พอดีผมก็อยู่แกรมมี่
แล้วผมเห็นภีมใน
ฮอร์โมนส์ กับ ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด
เขาเล่นเป็นน้องของนุ่น ผมโชคดีมากที่มีวันหนึ่งผมนั่งดูแล้วรู้สึกว่าไอ้นี่มันมี energy บางอย่าง ในฐานะผู้กำกับเราพยายามที่จะหาคนที่มีพลังอยู่ข้างใน
เพราะถ้าเขาไม่มีเราสร้างไม่ได้ แต่เขามีอยู่แล้ว ผมก็ดึงออกมา
อย่างเทีย นี่ทาง HBO ส่งรูปมาว่าคนนี้สวยดีนะ ผมเห็นเขาออกรายการโทรทัศน์
ผมชอบดูนักแสดงเวลาถูกสัมภาษณ์เพราะเขาเป็นตัวของตัวเอง
ซึ่งผู้หญิงคนนี้เขามีกึ๋นดี ตัวละครตัวนี้มันต้องมี ก็รู้สึกว่าเขาน่าจะเหมาะเลยลองจับมาออดิชัน
ส่วนจีจ้ารู้จักอยู่แล้ว จำได้ตั้งแต่เล่น
ช็อกโกแลต ที่เล่นเป็นออทิสติก
เล่นดีมาก คนมักลืมว่าจีจ้าเล่นดราม่าได้และเล่นเต็มที่ ส่วนนิโคลนี่ผมเคยทำงานด้วยตอน
ลมหายใจ เดอะมิวสิคัล ก็เลยรู้ว่านิโคลไม่ใช่หวานๆ แบ๊วๆ สวยๆ ข้างในนี่จัดเต็ม เรียกว่าเอาหัวใจมาวางไว้ที่ปลายเสื้อให้เราเห็น
เวลาซ้อมผมบอกเขาว่านิโคลไม่ต้องให้ผมเต็มก็ได้ ให้ร้องไห้ร้อยเที่ยวก็ร้องทุกครั้ง
เป็นสไตล์เดียวกับรัดเกล้า จัดเต็มทุกโมเมนต์
ส่วนนักแสดงอินโดนีเซียจากภาคแรก เรซ่า
ราฮาเดียน และ
อริฟิน ปูตรา สองคนนี้เขาเป็นเทพแห่งการแสดงอยู่แล้ว ชั่วโมงบินสูง เรซ่าอายุแค่นี้ทำหนังมา 30 – 40 เรื่อง เยอะกว่าผมอีก แล้วคล่อง เทคนิคแพรวพราว
สำหรับผู้กำกับ ถ้าเราจะเอาดินมาปั้น เขาก็เป็นดินขั้นคุณภาพ คนแบบนี้ส่วนมากจะอีโก้จัด
แต่สองคนนี้ถ่อมตัวมาก พวกเขาเข้าใจคาแรกเตอร์มากกว่าผมเพราะเขาเล่นมาก่อน รู้พื้นเพประวัติศาสตร์เรื่อง
ฉะนั้นผมบอกเขาตั้งแต่วันแรกเลยว่าคุณรู้จักตัวละครมากกว่าผมนะ คุณต้องไกด์ผมนะ ส่วนความรู้สึกต่างๆ ผมไกด์ได้ว่าซีนนี้ ตัวละครมันจะเดินยังไง
จุดจบมันต้องอยู่ตรงไหน พีกตรงไหน พอคุยกันเคลียร์ อยากให้เขาทำอะไรเขาก็ทำมาให้
ผมจะบอกนักแสดงเสมอว่าคุณต้องรู้จักตัวละครมากกว่าผม พอถึงจุดหนึ่งคุณต้องคิดเลยว่า ตัวละครนี้ใส่เสื้อยกแขนสองข้างหรือใส่ทีละมือ เวลาแปรงฟันแปรงขึ้นลงหรือแปรงซ้ายขวา
คนที่มีประสบการณ์เยอะเขาจะทำโดยไม่รู้ตัว นักแสดงใหม่เราก็ช่วยทำการบ้าน ให้เขาทำเวิร์กช็อป
ซ้อมกันไม่รู้ตั้งกี่ร้อยเที่ยว แต่นักแสดงที่มีประสบการณ์เยอะ ผมไม่ซ้อม เพราะต้องการความสด
แค่ต้องไกด์เขาให้เข้าใกล้จุดที่เราเห็น
เปิดมิติลี้ลับ
ถ้าตอบแบบพีอาร์ว่าทำไมต้องดูเรื่องนี้ ก็ต้องบอกว่ามันเป็นงานของทีมงานคนไทยที่ไปทำงานระดับอินเตอร์กับ HBO กับคนเก่งๆ ในระดับเอเชีย แต่สำหรับผม เวลาดูหนัง ดูละคร ผมชอบเรื่องที่ดูแล้วอยากเป็นคนดีขึ้น มันอาจพูดเรื่องเนกาทีฟ แต่จริงๆ แล้วโหยหาสิ่งที่มันบวก ผมอยากได้ emotional payback เรื่องนี้มันมีความเศร้าของตัวละครเยอะดี ซึ่งผมชอบตัวละครที่มันเหงาๆ โหยหาความรักและมิตรภาพ มันเป็นสิ่งที่เราขาดหายไปหน่อยในยุคปัจจุบัน ยุคดิจิทัล การที่เราจะได้สัมผัสกับอีกคนหนึ่งในระดับลึกซึ้งมันน้อยลงไปทุกที ผมหวังว่าคุณจะเห็นคุณค่าของครอบครัว คุณค่าของมิตรภาพ คุณค่าของความรัก เรามี layer ที่ทำให้คนที่แสวงหาอะไรมากกว่าความบันเทิงได้รับด้วย แล้วตอนนี้คนไทยทุกคนดูได้เพราะมันดูฟรี ทาง HBO Asia ก็น่าจะมาดูมาเสพกันได้ ชอบไม่ชอบก็บอกมาได้ครับ
ภาพ HBO Asia