Covid Classics 4 รูมเมตที่คอสเพลย์เป็นภาพวาดคลาสสิกด้วยหม้อไหและของใช้ในบ้าน

Highlights

  • Covid Classics คือแอ็กเคานต์อินสตาแกรมโดยรูมเมต 4 คนที่ต้องกักตัวอยู่บ้านในช่วงโควิด พวกเขาจึงลุกขึ้นมาโพสท่าและหยิบของในบ้านมาทำเป็นพร็อพเพื่อถ่ายภาพล้อเลียนภาพวาดคลาสสิกของโลก
  • ภาพที่ล้อเลียนมีตั้งแต่ภาพ The Milkmaid ของ Johannes Vermeer, ภาพเซลฟ์พอร์เทรตของ Vincent van Gogh หลังจากเขาหั่นใบหูตัวเอง ไปจนถึงภาพ The Son of Man ของ René Magritte ที่พวกเขาเสกแอปเปิลให้ลอยอยู่กลางหน้าชายปริศนาแบบไม่ตัดต่อ
  • นอกจากความตั้งใจมอบอารมณ์ขันให้ผู้คนในแต่ละวัน Covid Classics ยังหวังว่าพวกเขาจะทำอะไรได้มากกว่านั้น เช่น เป็นตัวอย่างความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้ไม่เฉาจนเกินไปในช่วงเวลาวิกฤต

‘รูมเมต 4 คนที่รักศิลปะ…และกำลังกักตัวแบบไม่มีกำหนด ไม่ใช้ฟิลเตอร์ ไม่ตัดต่อ มีแค่พวกเราและของในบ้านของเราเท่านั้น’

นี่คือข้อความสั้นๆ ในหน้าโปรไฟล์ของ Covid Classics แอ็กเคานต์อินสตาแกรมที่เปิดตัวเมื่อเดือนที่แล้วและมียอดติดตามเกือบๆ 1 แสนคนในวันนี้จากบรรดาคนที่กำลังกักตัวและไม่กักตัวทั่วโลก (รวมถึงเราด้วย)

covid classics
covid classics

ต่อให้ไม่ได้กดติดตาม แค่เห็นภาพก็น่าจะเข้าใจว่าทำไมคนถึงหลงรักพวกเขา ในเมื่อ Covid Classics คือแก๊งรูมเมต 4 คนที่ผลัดกันรับบทเป็นผู้คนในภาพวาดคลาสสิกของโลก หยิบข้าวของในบ้านมาโบกนิดสะบัดหน่อยให้เป็นพร็อพ เปลี่ยนห้องหับให้เป็นสตูดิโอ ก่อนลั่นชัตเตอร์จนได้เป็นภาพถ่ายมาสเตอร์พีซที่ล้อเลียนภาพวาดมาสเตอร์พีซอีกที

และที่น่ารักกว่าภาพถ่ายที่สมบูรณ์ คือภาพและวิดีโอเบื้องหลังที่โชว์ให้เห็นว่าพวกเขาทุ่มทุนสร้าง (หรือทำลายบ้าน) ขนาดไหน!

covid classics
covid classics

ถึงจะได้เห็นบ้านของพวกเขาตั้งแต่ห้องนั่งเล่นยันห้องน้ำ แต่ทั้งหมดที่เรารู้เกี่ยวกับรูมเมตทั้งสี่กลับมีแค่ข้อมูลว่าทุกคน ‘รักศิลปะ…และกำลังกักตัวแบบไม่มีกำหนด’ เราจึงส่งอีเมลไปคุยกับพวกเขาเพิ่มเติม

ในที่สุดเราจึงได้รู้จัก Cary, Jeannette, Max และ Sam เห็นบ้านของพวกเขา ได้ฟังอารมณ์ขัน และที่สำคัญคือเห็นความหวังในช่วงเวลาที่ทั้งโลกกำลังเผชิญวิกฤตแบบนี้

covid classics

โปรไฟล์อินสตาแกรมของพวกคุณเขียนไว้สั้นๆ ว่าพวกคุณคือ ‘รูมเมต 4 คนที่รักศิลปะ’ ใครคือรูมเมต 4 คนนั้นและคุณเจอกันได้ยังไง

พวกเราคือ Cary อายุ 29 ปี (รับบทเป็น St. Jerome) Max อายุ 31 ปี (รับบทเป็น Marat) Jeannette อายุ 30 ปี (รับบทเป็น Whistler’s Mother) และ Sam อายุ 32 ปี (รับบทเป็น The Milkmaid) แครีทำงานในองค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงหาผลกำไร แมกซ์เป็นเจ้าของกิจการ escape room จีนเนตต์เป็นสถาปนิก ส่วนแซมเป็นนักเขียนนิยายต๊อกต๋อยและบาร์เทนเดอร์ตกงาน พวกเราบางคนเคยเป็นรูมเมตกันอยู่แล้วก่อนจะมาอยู่บ้านเดียวกันหมด

เมืองที่พวกคุณอยู่มีมาตรการรับมือโควิดยังไงบ้าง

เราอยู่ในเมืองนิว ฮาเวน รัฐคอนเนตทิคัต ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งสั่งปิดบาร์ทุกแห่ง รวมถึงคาเฟ่และร้านอาหาร ยกเว้นจะสั่งกลับบ้านตั้งแต่ 6 อาทิตย์ก่อน ประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนมีคำสั่งปิด นายกเทศมนตรีรณรงค์เรื่อง social distancing อย่างหนัก เขาพยายามสุดๆ แต่เราคิดว่าหลายคนที่นี่ยังไม่เทคนโยบายอยู่ห่างกันอย่างจริงจังเท่าไหร่

พวกคุณกักตัวกันมานานเท่าไหร่แล้ว

สุดสัปดาห์นี้จะครบ 7 อาทิตย์แล้ว! เราคิดว่าน่าจะต้องอยู่อย่างนี้ไปอีกอย่างน้อยเดือนหนึ่ง

covid classics

โควิดเปลี่ยนชีวิตพวกคุณไปเยอะไหม

ตอนนี้แซมตกงานและไม่น่าจะได้กลับไปทำงานเร็วๆ นี้ แครีและจีนเนตต์เปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน ส่วน escape room ของแมกซ์เปิดบริการไม่ได้เขาเลยทำไลฟ์ให้คนมาเล่นแบบออนไลน์แทน เราคิดถึงเพื่อนๆ มากและพยายามติดต่อกันผ่านโทรศัพท์ วิดีโอคอล หรือแชตอยู่ตลอด ถึงขั้นมีวันที่เราเล่นบอร์ดเกมออนไลน์กัน เราคิดถึงการได้เจอกัน กินเบียร์ ดูหนัง ได้กอดคนที่รัก คิดถึงอิสรภาพในการเคลื่อนไหวหรือใกล้ชิดกันเหมือนช่วงที่ทุกคนยังออกจากบ้านได้โดยไม่ต้องกลัวไวรัส

ถึงอย่างนั้นก็ต้องบอกว่าเราโชคดีมากที่ได้อยู่ด้วยกัน เราไม่ต้องกลัวจะโดนไล่ออกจากบ้านหรืออดตาย ไม่ต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงกับไวรัส ยังมีสุขภาพจิตที่ดีและอดทนกับสถานการณ์ได้ ถึงจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าพอใจกับชีวิตแบบนี้

ใครเป็นคนเริ่มไอเดีย Covid Classics

ตอนนั้นเรา 4 คนกำลังวิดีโอคอลกับเพื่อนคนอื่นๆ อยู่ๆ ก็มีคนพูดว่า “ฟิลเตอร์หมวก!” เราทุกคนก็หยิบหมวกมาใส่ยกเว้นแมกซ์ที่เอาผ้าขนหนูมาโพกหัว พอวางสายแซมดันเห็นว่าแมกซ์โพกหัวแล้วเหมือนภาพ The Death of Marat ของ Jacques-Louis David มากๆ เขาเลยบอกว่าเราน่าจะลองถ่ายภาพล้อภาพวาดนี้ในอ่างอาบน้ำ แมกซ์เป็นคนที่ไปสุดในทุกสถานการณ์อยู่แล้วก็เลยเอาด้วย แครีกับจีนเนตต์ก็วิ่งตามมาในห้องน้ำ หิ้วไฟกับพร็อพมา ทั้งซอสบาร์บีคิวที่เอามาทำเลือดกับโต๊ะวางของ

ทำไมต้องเป็นภาพวาดคลาสสิก

พูดตามตรงเราไม่ได้รู้จักทุกภาพที่ล้อหรอก แต่ก่อนหน้านี้เราชอบไปเดินพิพิธภัณฑ์กันอยู่แล้ว (และหวังว่าจะได้ไปอีกเร็วๆ นี้) ปกติแซมทำงานตอนกลางคืน ตอนบ่ายเขาชอบไปเดินเล่นที่ Yale University Art Gallery เลยมีแบ็กกราวนด์เรื่องงานศิลปะคลาสสิกประมาณหนึ่ง เราจึงเริ่มจากตรงนั้น แต่พอกักตัวนานเข้าเราก็เริ่มไหลไปทำภาพสไตล์อื่นด้วย

เวลาจะล้อภาพวาดสักภาพพวกคุณมีขั้นตอนยังไง

ส่วนใหญ่หลังกินข้าวเย็นเสร็จเราจะมานั่งดูลิสต์ภาพวาดที่ ‘เป็นไปได้’ ที่เราทำไว้ ดูว่าแต่ละภาพต้องใช้พร็อพอะไรบ้าง ต้องใช้ผ้าแบบไหนมาทำชุด และเราจะปลอมอะไรขึ้นมาได้บ้างด้วยเทปกาวกับเข็มกลัด ใครจะเป็นคนโพส ถ่ายที่ไหน ต้องขยับเฟอร์นิเจอร์อะไรบ้าง แสง พื้นหลัง เราคิดทุกอย่างในหนึ่งชั่วโมงหรือชั่วโมงครึ่งแล้วก็ถ่าย

เอาจริงสิ่งที่ใช้เวลามากคือการลอกเลียนท่าโพส เรามีผู้กำกับทำหน้าที่มองสลับไปมาระหว่างภาพวาดกับคนโพส แล้วกำกับท่าทางแบบ “ขยับนิ้วไปทางซ้าย 1 นิ้ว เชิดคางขึ้นอีกนิด หันไปทางซ้ายหน่อย อย่าขมวดคิ้ว ยิ้มนิดๆ ไม่ๆ! นั่นมากเกินไปแล้ว ขยับไหล่ขวาไปด้านหลังหน่อย ขวาของนายไม่ใช่ของเรา” เราทดลองแสงหลายๆ แบบ ลองวางเฟรม จัดองค์ประกอบ พอได้ภาพที่คิดว่าเพอร์เฟกต์หรืออย่างน้อยๆ ก็ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ก็ถือเป็นอันเสร็จ

พวกคุณใช้พร็อพที่มีอยู่ในบ้านเท่านั้น ภาพไหนคือภาพที่ยากที่สุดที่ต้องทำด้วยพร็อพจำกัด

ทุกภาพที่มีผ้าคลุมหน้าหรือชุดแม่ชี เราไม่มีเสื้อผ้าสีขาวที่ไซส์เหมาะจะเป็นผ้าคลุมหน้าเลยต้องใช้ผ้าม่านแทน แต่มันก็หนาและแข็งเกินกว่าจะดูพลิ้วแบบเสื้อผ้า แถมยังชอบม้วนเป็นก้อน ไม่ยอมเป็นรูปเป็นร่าง ถ้าไปดูภาพ Two Women at a Window คุณน่าจะเห็นความลำบากลำบนของเราในการจัดการกับมัน

พวกคุณมีของอย่างขนนกและหัวกะโหลก (ปลอม) ในบ้านได้ยังไง?!

ที่เห็นว่าเป็นขนนกคือโฟมสีชมพูที่เอามาตัดให้ดูเป็นขนนกเฉยๆ ส่วนหัวกะโหลกน่ะเหรอ เราไม่ใช่บ้านเดียวแน่ๆ ที่ฉลองฮาโลวีน

อุปกรณ์ที่พวกคุณใช้ล่ะ

เราใช้แค่ไอโฟน 7 โคมไฟธรรมดา แล้วก็ไฟฉายสวมหัว 2-3 อัน

ภาพส่วนใหญ่ของเราถ่ายตอนกลางคืนเพราะกลางวันพวกเราส่วนใหญ่ต้องทำงาน จะมีก็แค่แซมที่ว่างทั้งวัน เขาเลยมีเวลาทำอย่างอื่น เช่น การให้สัมภาษณ์ยังไงล่ะ

พวกคุณดังเปรี้ยงในชั่วข้ามคืน คิดยังไงกับกระแสที่เกิดขึ้น

เราไม่รู้ว่ามันจะบูมแบบนี้ เราเริ่มต้นจากการทำขำๆ กันเอง จากนั้นก็เป็นการทำขำๆ กับเพื่อน แต่ตอนนี้แต่ละวันเราโพสต์ภาพเพื่อสปาร์กจอยหรือแม้กระทั่งเป็นความหวังเล็กๆ ในชีวิตของคนที่เราไม่เคยเจอด้วยซ้ำ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยโดยเฉพาะในห้วงวิกฤต และเราก็ยินดีมากๆ ที่ได้สร้างอะไรแบบนี้

คุณได้เรียนรู้อะไรบ้างจาก Covid Classics ที่อยากแบ่งปันกับคนอื่นๆ

นักเขียนชาวอิตาเลียน Italo Calvino เคยเขียนไว้ว่า ‘มีทางออกอยู่เสมอถ้าคุณหามันเจอ คุณสามารถทำบางอย่างได้เสมอ’ เราทุกคนเป็นสิ่งมีชีวิตที่สร้างสรรค์อย่างเหลือเชื่อ พวกเราหวังว่าคนนับล้านตอนนี้ที่กำลังรู้สึกเหมือนถูกกักขัง โดดเดี่ยว เบื่อ หรือหวาดกลัว จะสามารถทำอะไรบางอย่างเพื่อตัวเองในช่วงเวลายากๆ แบบนี้ได้ แค่การสร้างสรรค์เล็กๆ ก็สามารถเป็นงานศิลปะที่ทรงพลัง

และถ้านี่คือสิ่งที่คนได้จาก Covid Classics ก็คงพูดได้ว่าเราไม่ได้ใช้เวลาในการทำมันไปอย่างสูญเปล่า

Jeannette, Max, Sam, และ Cary

AUTHOR