เบื้องหลังการตีความใหม่ของ 8 ศิลปินไทยกับเพลงของ Ed Sheeran ในโปรเจกต์ No.6 Co(ver!)llaborations

เบื้องหลังการตีความใหม่ของ 8 ศิลปินไทยกับเพลงของ Ed Sheeran ในโปรเจกต์ No.6 Co(ver!)llaborations

Highlights

  • 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา Ed Sheeran ปล่อยสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 4 ที่ใช้ชื่อว่า ‘No.6 Collaborations Project’ ซึ่งเป็นโปรเจกต์พิเศษที่นักแต่งเพลงชาวอังกฤษได้ชวนศิลปินหลากหลายแนวดนตรีที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของเขามาร่วมฟีตเจอริงด้วยในทุกแทร็ก อย่างน้อยเพลงละหนึ่งคน อย่าง Justin Bieber, Khalid, Cardi B, Bruno Mars และ Ella Mai สะท้อนให้เห็นถึงการเปิดรับความหลากหลายทางดนตรีของเอ็ด ชีแรน
  • โปรเจกต์ ‘Ed Sheeran: No.6 Co(ver!)llaborations’ คือโปรเจกต์คัฟเวอร์เพลงของเอ็ด ชีแรน ใน 4 บทเพลงจาก 8 ศิลปินไทยหลากหลายสไตล์ทางดนตรีที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้วจาก Warner Music ต้นสังกัดของเอ็ด ได้แก่ สิงโต นำโชค, แก้ม วิชญาณี, เก้า จิรายุ, D Gerrard, PAAM, Zom Marie, โอ–ปวีร์ และ MARINA

นับได้ว่าเป็นภาคต่อของ EP No.5 Collaborations Project เมื่อปี 2011 ของเอ็ด ชีแรน ซึ่ง ณ เวลานั้น คนทั้งโลกแทบจะยังไม่มีใครรู้จักชายหนุ่มนักแต่งเพลงคนนี้เลย ครั้งนั้นเอ็ดได้ร่วมงานกับ Devlin, Wiley, P Money, JME และ Mikill Pane มาถึงครั้งนี้กับอัลบั้ม ‘No.6 Collaborations Project’ ที่เขาตั้งใจร่วมงานกับศิลปินที่ตนเองชื่นชอบและส่งต่อแรงบันดาลใจในการทำงาน ทั้งศิลปินชื่อดังรุ่นพี่ไปจนถึงศิลปินรุ่นน้องหลากหลายแนวทางการทำเพลง ทำให้ทั้ง 15 บทเพลงในอัลบั้มนี้มีศิลปินมาร่วมฟีตเจอริงด้วยทุกเพลง

ด้วยความเปิดกว้างทางดนตรีของเอ็ด ชีแรน ทำให้ทางต้นสังกัด Warner Music ปล่อยโปรเจกต์พิเศษในเมืองไทย ด้วยการชวน 8 ศิลปินไทยที่มีสไตล์ทางดนตรีที่แตกต่างกันมาคัฟเวอร์ 4 บทเพลงของเอ็ด ทั้งในอัลบั้มล่าสุดนี้ และเพลงดังระดับโลกในอัลบั้มอื่น ในชื่อ Ed Sheeran: No.6 Co(ver!)llaborations ซึ่งศิลปินที่ได้รับการคัดเลือกให้มาร่วมสร้างความหลากหลายให้บทเพลงของนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ ได้แก่ สิงโต นำโชค, แก้ม–วิชญาณี เปียกลิ่น, เก้า–จิรายุ ละอองมณี, D Gerrard (อุกฤษ วิลลีญ์ บรอด ดอนกาเบรียล), PAAM (แปม–ศิรภัสรา สินตระการผล), Zom Marie (มารี–เออเจนี เลอเลย์), โอ–ปวีร์ คชภักดี และ MARINA (มารีน่า–ศดานันท์ บาเล็นซิเอก้า) โดยผลงานทั้งหมดจะถูกนำเสนอในรูปแบบของ live session ผ่านแอพพลิเคชั่นของ JOOX

ในวันที่ศิลปินมารวมตัวกันเพื่อถ่ายทอดบทเพลงของเอ็ด ชีแรน ในแบบฉบับของตัวเอง พวกเขาได้รับโจทย์ให้ร้องเพลงอะไร วิธีการตีความบทเพลง รวมไปถึงประสบการณ์ร่วมที่มีต่อบทเพลงเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง แฟนเพลงของเอ็ดทั้ง 8 ชีวิต มีคำตอบเหล่านี้มาฝาก

I Don’t Care โดย สิงโต นำโชค X Zom Marie

อัลบั้ม No.6 Collaborations Project

จากเพลงต้นฉบับที่เอ็ด ชีแรน ร่วมงานกับจัสติน บีเบอร์ ซิงเกิลแรกของอัลบั้ม No.6 Collaborations Project ที่ขึ้นชาร์ตอันดับ 1 และฮิตไปทั่วโลก สู่การคัฟเวอร์จาก 2 ศิลปินไทย ที่โดดเด่นด้วยแนวทางดนตรีอะคูสติกอย่างสิงโต นำโชค และ ส้ม มารี

ความท้าทายในการทำงาน

สิงโต : ผมฟังเพลงนี้ครั้งแรกตอนภรรยามาอัพเดตเพลงสากลแล้วเปิดเพลงนี้ให้ฟัง คิดในใจเลยว่าเราจะไม่ร้องเพลงนี้แน่นอน เราคงใช้ความสามารถเยอะมากในการร้องเพลงนี้เพราะมันร้องเร็วมาก แต่เพลงมันเพราะนะ พอรู้ว่าได้มาร้องเลยใช้เวลาฝึกซ้อมเยอะ เพราะผมคิดว่าเพลงพี่เอ็ดจะชุ่ยไม่ได้ จะมาฟัง 2-3 รอบแล้วไปร้องเลยมันไม่ได้ เพราะรายละเอียดเพลงเขาเยอะ ผมเลยใช้วิธีเขียนเนื้อเพลงเลย ต้องเขียน ปรินต์ก็ไม่ได้อีก เดี๋ยวมันไม่จำ

ส้ม : เพลงของพี่เอ็ด หลายคนอาจจะมองว่าฟังง่าย แต่ที่จริงแล้วร้องไม่ง่ายเลย ส้มว่าเพลงเขามีเมโลดี้หลากหลาย แล้วด้วยสไตล์การร้องที่ร้องรัวมาก เลยมีอาการลิ้นรัวนิดนึง แต่ดีที่เราได้มาทำงานกับพี่สิงโตที่เคยร่วมงานกันมาอยู่แล้ว แต่ละคนก็รับผิดชอบการร้องของแต่ละคนไป แล้วค่อยมาหาคีย์ร่วมกันตรงกลางอีกที

แค่มีเธออยู่ ไม่ว่าโลกจะเป็นยังไงก็ไม่แคร์

ส้ม : เราเป็นแบบในเนื้อเพลงบ่อยนะ เวลาเราต้องไปงานที่เราไม่คุ้นเคย ไปอยู่ในที่ที่ไม่มีใครรู้จัก เราจะทำตัวไม่ค่อยถูกน่ะ แต่ถ้าวันนั้นมีคนที่เราคุ้นเคยนั่งอยู่ข้างๆ เราก็จะผ่อนคลายมากขึ้น

สิงโต : ผมว่าเพลงนี้ทุกคนก็อินนะ เพราะถ้าเราไม่ได้อยู่กับคนที่เรารัก เราก็รู้สึกไม่สนุกน่ะ

I Don’t Care แบบฉบับของสิงโต นำโชค และ ส้ม มารี

สิงโต : เราตั้งใจทำเพลงที่ใส่สไตล์ของเราเข้าไป พยายามจะสร้างสิ่งใหม่ นำความเป็นอะคูสติกของพวกเราผสมผสานไปในเพลงให้ไม่เหมือนเอ็ดร้อยเปอร์เซ็นต์แบบการก๊อบปี้ ซึ่งเอาเข้าจริงร้องได้ก็บุญแล้วครับ (หัวเราะ) ร้องให้เหมือนเขาได้ก็ดีที่สุดแล้ว”


 

Beautiful People โดย โอ–ปวีร์  X PAAM

อัลบั้ม No.6 Collaborations Project

จากเพลงป๊อปอาร์แอนด์บีเนื้อหาสร้างพลังบวกที่โดดเด่นด้วยสัดส่วนของโน้ตที่น่าสนใจ ผลงานเพลงของเอ็ด ชีแรน ที่ได้คาลิดมาร่วมงานด้วย สู่การคัฟเวอร์จาก 2 ศิลปินไทยสำเนียงอาร์แอนด์บี อย่าง โอ–ปวีร์ และ PAAM หรือหน้ากากโพนี่จากรายการ The Mask Singer

เราต่างไม่ใช่ beautiful people 

แปม : ด้วยความที่เราเป็นทั้งแฟนเพลงของเอ็ดและคาลิด ตอนที่เราฟังเพลงนี้ครั้งแรกก็ชอบเลย ด้วยชื่อเพลงกับเนื้อเพลงที่มันย้อนแย้งกัน เอ็ดเขาเขียนถึงชีวิตของคนที่อยู่ในสปอตไลต์ มีชีวิตหรูหรา อยู่ท่ามกลางปาร์ตี้และแสงสี เป็น beautiful people เหมือนชื่อเพลง แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่ความสุขสูงสุดในชีวิต แต่การได้ใช้ชีวิตในแบบที่เป็นเราตอนนี้ ได้อยู่กับคนที่เรารักต่างหากที่ทำให้เรามีความสุข แล้วเอ็ดก็เขียนเนื้อเพลงจบลงที่ประโยค We are not beautiful. ซึ่งมันโดนใจแปมมาก เพราะแปมเองก็ไม่ใช่ beautiful people เหมือนกันที่ถึงเราจะอยู่ในวงการท่ามกลางผู้คน แต่แค่เรามีความสุขกับเรื่องเล็กๆ ในชีวิตในแบบที่เราเป็นเรา มันเลยเป็นเพลงที่ส่งพลังกับเรามาก เพลงนี้เลยเป็นเพลงที่แปมชอบที่สุดในอัลบั้มเลยก็ว่าได้ ดีใจที่ได้ร้องเพลงนี้มาก

โอ : ครั้งแรกที่ผมฟังเพลงนี้ ผมมองว่าสัดส่วนเพลงนี้เยอะ ตอนแรกฟังผ่านๆ เราก็ไม่รู้ แต่พอมาตั้งใจฟังแล้วมันน่าสนใจมาก แต่ไม่คิดว่าจะร้อง เพราะสำหรับผมมันเป็นเพลงที่ยาก คำเยอะ คีย์สูง ผมเลยชอบฟังอย่างเดียว ด้วยทำนองของเพลงบวกกับสัดส่วนของโน้ตที่แปลกๆ ที่ทำให้เราอยากฟังอีก แต่พอฟังเนื้อเพลงแล้ว มันก็คือชีวิตของพวกเรานี่แหละ สำหรับผมที่อยู่ในวงการ ได้ทำงานที่หลากหลาย เจอผู้คนมากมาย แต่สุดท้ายแล้วเราก็กลับไปสู่ความเป็นรากเหง้า เรารู้ตัวว่าเราคือใคร

ความท้าทายในการหาความสมดุลของเสียง

แปม : ด้วยความที่ต้นฉบับเดิมเป็นเพลงที่ร้องด้วยเสียงผู้ชายทั้งสองคน การทำงานของพวกเราจึงต้องมานั่งช่วยกันปรับคีย์การร้องให้สมดุล เพราะเสียงร้องของเราคนละโทนกันอยู่แล้ว จึงต้องมาปรับให้เพลงที่ออกไปคนฟังรู้สึกสบายขึ้น ช่วยกันคิดว่าทำยังไงให้เสียงของพี่โอและเสียงของเราช่วยส่งเสริมกันไป

โอ : ผมมองว่าดนตรีมันเป็นภาษาสากล ถึงผมกับแปมจะไม่เคยร่วมงานกัน โทนเสียงของแปมเป็นอีกโทนหนึ่ง เสียงผมก็อีกโทนหนึ่ง แต่ถ้าพวกเราเข้าใจในดนตรี แต่ละคนก็แยกย้ายกันไปทำการบ้าน พอพวกเราเข้าใจในดนตรี แล้วพอมาแจมกันมันก็จะออกมาเป็นเพลงที่สนุกและสมูท

 


Beautiful People แบบฉบับของโอ–ปวีร์  X PAAM

แปม : เรารู้สึกว่าวิธีการร้องและการนำเสนอเพลงของพวกเราคล้ายกัน คือมันจะออกในโทนของอาร์แอนด์บีที่มีการอิมโพรไวส์ในแบบของเราเอง มีเสียงคอรัสที่เราเติมเข้าไปเพื่อให้คนฟังได้ฟังอะไรที่แตกต่าง และทางดนตรีที่เป็น live band มันจึงทำให้ได้เวอร์ชั่นที่ออกมาแตกต่างจากต้นฉบับ ที่เราต้องการส่งต่อความสุขทางดนตรีไปให้คนฟัง 

South of the Border โดย D Gerrard X แก้ม วิชญาณี

อัลบั้ม No.6 Collaborations Project

เพลงแรปจังหวะติดหูอีกหนึ่งเพลงของเอ็ด ชีแรน ที่ทำงานร่วมกับสองศิลปิน Camila Cabello และแรปเปอร์สาว คาร์ดิ บี สู่การคัฟเวอร์จากสองศิลปินไทยสองสไตล์ ได้แก่ แก้ม วิชญาณี ที่มาพร้อมเสียงร้องอันทรงพลัง และ D Gerrard แรปเปอร์หนุ่มที่โดดเด่นเรื่องของการอิมโพรไวส์เสียงร้อง

การตีความจากเรื่องเล่าของเอ็ด ชีแรน

D Gerrard : ผมว่าเอ็ดเป็นคนที่เล่าเรื่องได้เฉียบขาดเหมือนการอ่านหนังสือ ขายหัวเราะ เล่มหนึ่งที่เต็มไปด้วยมุกต่างๆ ทุกอย่างในเพลงมันจบอยู่ในนั้น และเป็นเรื่องของการเล่าเรื่องที่ลื่นไหล ซึ่งสิ่งนี้ผมชื่นชมเขามาก ถ้าเปรียบเป็นธาตุเขาคงเป็นธาตุน้ำที่ไปได้ทุกที่ ในเพลงนี้ก็เหมือนกันที่เขาบรรยายรายละเอียดต่างๆ ของผู้หญิงที่เขาเจอได้เห็นภาพมาก แล้วเล่าด้วยว่าทำไมเขาถึงตกหลุมรักคนนี้ได้ มันทำให้เรานำเพลงเขามาตีความได้ชัดเจนขึ้น

ทำให้ผมนึกถึงคนที่รู้สึกดีตั้งแต่แรกเห็น นึกถึงความรักครั้งแรกสมัย ป.1 ที่เรายังไม่เข้าใจความรักแต่เรารู้สึกว่าเราชอบคนนี้นะ จริงๆ เพลงนี้ผมก็นึกถึงความเป็นเพื่อนคู่คิดเหมือนกันนะ ที่เราสามารถคุยได้ทุกเรื่อง ไปกับเขาได้ทุกที่

แก้ม : แก้มมองว่ามันเป็นเพลงของคนที่ตกหลุมรักกันแล้วพร้อมจะไปด้วยกันในทุกที่ ซึ่งในชีวิตจริงอาจจะไม่ได้มีประสบการณ์ตรงขนาดในเพลง แต่วิธีการตีความของเราคือ เราคิดไปตามเพลงเลยว่าถ้าฉันต้องเจอผู้ชายคนนี้ ความรู้สึกมันจะเป็นยังไง มันคงเป็นความรู้สึกที่คิดถูกแล้วนะที่ฉันมาที่นี่ เราก็ตีความตามเนื้อเพลงของเอ็ดเลย แล้วสนุกกับเพลง เพราะเพลงนี้มันสนุกจริงๆ

การบ้านชิ้นใหญ่ของนักร้องที่ต้องมาแรปและนักแรปที่ต้องสร้างความแตกต่าง

แก้ม : แก้มเป็นคนที่ชอบฟังเพลงแรปนะ แต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ร้อง เราเลยต้องทำการบ้านกับวิธีการร้องแรปที่ต้องมีแอตทิจูด เราต้องเชื่อว่ามันต้องเป็นแบบนี้นะ มันต้องมั่นใจ เราต้องเจ๋งที่สุด มันต้องมีลูกเอื้อนที่อยู่ท้ายเสียง เหมือนกับวิธีการร้องของคามิล่า ก็ทำให้เราสนุกไปกับการร้องสไตล์นี้ ซึ่งที่จริงเป็นเพลงที่ไม่ได้ใช้พลังเสียงเยอะ แต่ใช้ลมหายใจเพราะคำมันติดกัน อีกความท้าทายคือ ในเพลงแก้มต้องร้องภาษาละตินที่ไม่คุ้นเคยด้วย แต่เรื่องภาษาก็ไม่เป็นปัญหาเท่าการร้องให้คำมันคมตามเสน่ห์ของเพลงแรป

D Gerrard : ผมทำการบ้านด้วยการนั่งฟังโน้ต และลองนำมาดีไซน์การร้องดูว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหนได้บ้าง เป็นคนที่สนุกกับการอิมโพรไวส์ แต่ทั้งหมดนี้ขั้นแรกเราต้องร้องพื้นฐานให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยนำไปดัดแปลงในแบบของเรา

South of the Border แบบฉบับของ D Gerrard X แก้ม วิชญาณี

D Gerrard : น่าจะเป็นเพลงที่ส่งพลัง ส่งความสนุกให้กับคนฟังได้ เพราะผมเองรู้สึกได้ถึงพลังของพี่แก้มที่เต็มเปี่ยม ตัวผมเองก็ชอบส่งพลังให้คนฟัง ซึ่งการที่มีพี่แก้มมาอยู่ตรงนี้ด้วยเลยทำให้เพลงมันมีมิติและกระแทกถึงคนฟังได้สมบูรณ์ขึ้น

 


 

Shape of You เก้า จิรายุ X MARINA

อัลบั้ม ÷ (Divide)

นับได้ว่าเป็นเพลงของเอ็ด ชีแรน ที่ฮิตติดหูที่สุดตั้งแต่ช่วงปี 2017 จนถึงปัจจุบันนี้ กับเพลงจังหวะชวนโยกผสานแนวดนตรีเฮาส์ และจังหวะแบบแดนซ์ฮอลล์ที่ฉีกสไตล์จากผลงานในยุคแรกของเขาได้อย่างน่าสนใจ สู่การนำมาคัฟเวอร์จากศิลปินไทยรุ่นใหม่อย่างเก้า จิรายุ นักร้องนักแสดงชื่อดัง และมารีน่า นักร้องสาวที่มาพร้อมเสียงร้องสไตล์อาร์แอนด์บี

เพลงแห่งช่วงเวลาความสนุก

เก้า : ตอนแรกผมเฉยๆ กับเพลงของเอ็ดนะ เพราะสาวๆ ชอบเขาเยอะไง เราเป็นคนขวางโลกก็หมั่นไส้ แต่ไปๆ มาๆ คัฟเวอร์เพลงเขาลงอินสตาแกรมเฉยเลย (หัวเราะ) แล้วเพลงนี้ผมจำได้เลยว่าปล่อยมาแป๊บเดียวก็ฮิตแล้ว นึกถึงช่วงเวลาตอนนั้นที่ชอบไปเที่ยวแล้วร้านต่างๆ เปิดเพลงนี้กันทุกครึ่งชั่วโมง เพลงมันดังเร็วมาก ตัวเพลงก็ติดหูมาก แต่ครั้งแรกที่ผมได้ยินเพลงนี้คือเห็นภาพเอ็ดเล่นเพลงนี้ด้วยกีตาร์ เล่นอยู่ 4 คอร์ดทั้งเพลง แล้วใช้ซินทิไซเซอร์เล่นวนลูป ซึ่งเขาสามารถเล่นทั้งเพลงคนเดียวได้เลย รู้สึกว่าเขาดีไซน์เพลงนี้ออกมาได้โคตรเจ๋งเลย

มารีน่า : เรามองว่ามันเป็นเพลงของคนจีบกันที่โรแมนติกน่ะ เป็นเพลงที่ร้องให้สาวที่ไม่ได้หวานเลี่ยนจนเกินไป เราเองไม่มีประสบการณ์ร่วมอยู่แล้ว (หัวเราะ) แต่นึกถึงเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วจะได้ยินเพลงนี้ ซึ่งเป็นเพลงที่ทุกคนร้องได้ ถึงแม้ว่ามันจะเร็วมากขนาดไหน เรามองว่ามันคือช่วงเวลาสนุกๆ ในชีวิตตอนนั้น”

ความท้าทายในการร้องเพลงที่ฮิตไปทั่วโลก

มารีน่า : เพลงออริจินัลมันดีมาก เราก็อยากจะทำให้มันออกมาดี อยากให้ได้มาตรฐานที่แฟนคลับเอ็ดเข้ามาฟังเพลงพวกเราแล้วเขารู้สึกชอบ ถึงแม้ว่าเพลงมันจะร้องเร็วมาก เราร้องไม่ทันบ้างแต่ก็ยังอยากใส่ความเป็นอาร์แอนด์บีที่เป็นการร้องสไตล์เราเข้าไปด้วย แต่ก็โชคดีที่พวกเราได้เพลงที่คุ้นเคยกันมาก่อน ก็จะคุ้นกับเพลงนี้กว่าศิลปินคนอื่นที่ได้เพลงที่ยังไม่ได้ปล่อยเลย เขาน่าจะกดดันกว่า

เก้า : มีความยากเรื่องสำเนียงนิดหน่อย แต่ผมก็พยายามทำให้ออกมาเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่อยากให้ซีเรียส สำเนียงไทยเราเป็นแบบนี้ก็ใส่เข้าไป แต่ปกติผมก็พูดไม่ค่อยชัด ร้องเพลงไม่ค่อยชัดอยู่แล้ว มันก็เหมือนเรานัวๆ กับเพลงไปได้ แต่สิ่งที่เตรียมตัวได้อย่างเนื้อเพลงผมก็ท่องทั้งวันเลย เอาให้เราจำได้แม่นที่สุด

Shape of You แบบฉบับของเก้า จิรายุ X MARINA

เก้า : ผมว่าการที่เพลงนี้มีนักร้องหญิงเข้ามาร้องด้วยมันทำให้เพลงมีมิติขึ้นเยอะเลย ด้วยเสียงร้องของมารีนา ด้วยความรู้สึกตอนร้องที่ส่งผ่านกันไปมาของคนสองคน ในขณะที่เพลงออริจินัลจะมีความจีบหนัก รุกหนักอยู่ฝ่ายเดียว แต่ในเวอร์ชั่นพวกเราคนฟังก็จะได้อีกรสชาติหนึ่งที่มีความเป็นตัวของพวกเราเองเสริมเข้าไป คนฟังน่าจะฟังได้ชิลล์ขึ้นครับ

สามารถติดตามโปรเจกต์ Ed Sheeran: No.6 Co(ver!)llaborations ในรูปแบบของ live session ผลงานการคัฟเวอร์ทั้ง 4 บทเพลงนี้ได้ที่แอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ JOOX ในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ 

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

ณัฐปคัลภ์ ทัศนวิริยกุล

นักเรียนฟิล์มที่มาฝึกงานช่างภาพ รักการถ่ายรูป ชอบกินของอร่อย และชอบใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนสนิท คนรัก