วันที่ผมหัดโยนบอล 3 ลูกพร้อมกัน

ผมเป็นเด็กเนิร์ด
ในขณะที่เพื่อนร่วมชั้นเรียนใช้เวลาช่วงมัธยมปลายไปกับการเรียนพิเศษ จีบหญิง หรือซ้อมดนตรี ผมเลือกที่จะอยู่ในโลกแห่งการ์ดเกม
เผาเวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ไปกับการพบปะเพื่อนฝูงคอเดียวกัน ต่อสู้กันในสมรภูมิการ์ด
ในร้านเล็กๆ ที่แฝงตัวอยู่ในวงล้อมของตู้เกมอาเขตและตู้คาราโอเกะ ณ ชั้น 6 ของมาบุญครอง

แต่แล้ววันหนึ่ง ขณะกำลังเดินออกมาจากร้านการ์ดเพื่อจะกลับบ้าน
สายตาผมก็เหลือบไปเห็นคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังมาฝึก มาเล่นอะไรสักอย่าง บางคนโยนผ้า
บางคนควงโซ่ติดพู่ บางคนตีไม้ก๊อกแก๊กๆ

แต่สิ่งที่กระชากสายตาผมได้มากที่สุดคือ มีคนกำลังโยนบอล 3 ลูกเล่นอยู่

ผมเป็นคนชอบอะไรแปลกๆ ภาพตัวตลกโยนบอลกลางอากาศในหน้าหนังสือหรือจอทีวี
เป็นหนึ่งในภาพจำตั้งแต่เด็กว่า เราอยากลองทำให้ได้ดูสักครั้ง เท้าผมเลยก้าวไปแบบอัตโนมัติ
ปากเอ่ยถามแบบลืมไปว่าเป็นคนขี้อาย อยากรู้ว่าเขาทำอะไรกัน ในที่สุดก็ได้รู้ว่า
มันคือกิจกรรมของศูนย์ To Be Number One ทุกวัน จะมีวิทยากรสารพัดสาขาวนเวียนกันมาสอน
ให้เด็กๆ เข้าไปร่วมเล่นร่วมเรียนได้แบบไม่เสียเงิน

นั่นคือวันแรกที่ผมได้รู้จักกับคำว่า
Juggling

นับแต่นั้นมา ผมก็มีกิจกรรมเพิ่มอีกหนึ่งอย่างทุกวันเสาร์
คือไปร่วมเรียน Juggling ซึ่งเป็นคำเรียกแบบรวมๆ ของศิลปะการโยนรับสิ่งของ
ซึ่งมีตั้งแต่ลูกบอลธรรมดา กระบองทรงพินโบว์ลิง (Club)
ไม้แท่ง (Davil Stick) ลูกข่างจีน (Diabolo) หรือไปจนถึงขั้นแอดวานซ์ อย่างการเอาไอ้พวกที่ว่าข้างต้นมาจุดไฟแล้วโยนเล่นกัน

สิ่งที่ผมชอบและถนัดที่สุดคือการโยนบอล
3 ลูก เทคนิคจริงๆ ก็ไม่มีอะไรมาก
แค่เราต้องโยนลูกใหม่สวนลูกที่กำลังจะตกลงมา คนส่วนใหญ่มักติดที่จังหวะการโยนลูกที่สามขึ้นไป
เพราะเราต้องโยนตอนลูกที่สองกำลังจะตกลงมา จะโยนถูกจังหวะไหม จะรับลูกที่หล่นมาได้หรือเปล่า
จนหลายต่อหลายหนบางคนก็ชะงักในการจะลองโยนบอลลูกใหม่ แต่คลาส
Juggling นี้สอนผมให้กล้าโยนบอลลูกที่ 3 เป็นครั้งแรกในชีวิต

วินาทีนั้น
ผมไม่รู้หรอกว่าบอล 3 ลูกที่ว่าจะพาชีวิตผมให้ได้ออกไปเจอกับโลกกว้าง
ไม่แพ้ดรากอนบอล 7 ลูกของโกคู

จากโลกที่มีแต่ห้องเรียน-ร้านการ์ด-บ้าน
ภายใน 2 ปี ผมได้รู้จักสวนสันติไชยปราการ / ได้กลับบ้านดึกครั้งแรก
/ ได้เดินข้าวสาร / เข้าใจเฟรนด์โซน / ทำงานหาเงินครั้งแรก /
ได้แต่งเป็นตัวตลกบิดลูกโป่งแจกเด็กในวันเด็ก /
แสดงโชว์ต่อหน้าคนเป็นสิบไปจนถึงพัน / ควงไฟครั้งแรก / ทำไฟไหม้หัวครั้งแรก /
ได้รู้จักแนวเพลงที่ชื่อ Trance / ไปเที่ยวต่างจังหวัดที่ไม่ใช่กับครอบครัว
/ เข้าใจคำว่าดราม่า / นั่งขายของข้างทาง / มีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติ /
ลองเดินต่อขาสูง / คุยกับคนอื่นเยอะขึ้น ฯลฯ

และท้ายที่สุด
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประสบการณ์ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กคนนึงที่อยากเรียนวิศวะย้ายไปเรียนด้านนิเทศแทน

ตอนนี้ผมร้างลาจากการเล่น
Juggling ไปนานมากแล้ว เพราะด้วยชีวิตที่เปลี่ยนไป
การงาน และ สารพัดสิ่งต่างๆ (รวมถึงข้ออ้างอีกล้านแปด) สถิติท้ายสุดที่ทำได้ คือโยนได้มากสุดที่ 4 ลูกพร้อมกัน แต่ผมเองก็คิดอยู่ลึกๆ
เสมอว่าถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่…

“ลูกที่ 5 นายเจอเราแน่”

ภาพ unsplash.com

ใครอยากเล่าเรื่องวันเปลี่ยนชีวิตของตัวเองบ้าง คลิกที่นี่เลย

AUTHOR