วันที่ผมเลือกแผนการเรียนเปลี่ยนชีวิต

“ผมอยากเรียนศิลป์-ญี่ปุ่น”

นี่คือคำพูดที่ผมบอกกับพ่อแม่มาตลอดเวลาที่ผมอยู่มัธยมต้น โชคดีที่พ่อแม่ค่อนข้างยอมรับการตัดสินใจหลายๆ อย่างในชีวิตผม
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน พ่อกับแม่ไม่ว่าอะไรและสนับสนุนความคิดนี้ ถึงจะมีคำถามที่คุ้นหูกันดีอย่างไม่เรียนสายวิทย์เหรอ มีทางให้เลือกเยอะดีนะ
เรียนหมอ เรียนวิศวะก็ดีนะลูกจากพ่อแม่บ้าง แต่ผมยังยืนยันคำเดิมว่าผมจะเรียนภาษาญี่ปุ่น เพราะผมอยากเรียนและอยากไปญี่ปุ่น จริงๆ แล้ว ผมเป็นคนรั้นมาก ต่อให้โดนบังคับก็จะเลือกแผนการเรียนนี้
แต่พ่อแม่ไม่ห้าม บ้านเลยไม่แตก 🙂

ตอน ม.3 เทอม 2 พอถึงวันที่อาจารย์ที่ปรึกษานำใบเลือกแผนการเรียนมาให้
แน่นอนว่าผมเลือกแผนการเรียนศิลป์-ญี่ปุ่นเป็นอันดับหนึ่ง แต่ผมก็ลนลานมากว่าผมจะสอบเข้าได้หรือเปล่า เพราะถึงจะต่อโรงเรียนเดิม แต่ก็มีคนอยากเข้าแผนการเรียนนี้เยอะ เทอมนั้นผมเลยตั้งใจเรียนจนเกรดขึ้นมาหลังจากที่ตกลงไปเยอะ พอผลออกว่าสอบได้ก็ดีใจมาก เว็บไซต์ของโรงเรียนประกาศผลตอนประมาณ 5 ทุ่ม แต่กว่าผมจะได้นอนก็ตีหนึ่ง ตีสอง ไม่รู้ว่าตัวเองจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น

พอขึ้นชั้นมัธยมปลาย หลังจากที่ผมได้เรียนไปสักพักก็รู้ว่าตัวเองมาถูกทางแล้ว
นอกจากจะได้เรียนในสิ่งที่อยากเรียน ผมยังได้ทำกิจกรรมเยอะมากๆ ได้ทำงานหลายอย่าง
เจอคนมากมายหลายแบบ ต้องรับมือกับอะไรที่ตัวเองไม่เคยเจอมาก่อนหลายครั้ง กลายเป็นว่าเวลามีงานอะไร เพื่อนๆ ต่างจะมองหน้าผมกับเพื่อนสนิทก่อนเสมอ รวมถึงผมก็ได้เข้าไปทำงานเป็นกรรมการนักเรียนด้วย

อีกกิจกรรมหนึ่งคือผมได้ลงสอบชิงทุนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่น ที่จังหวัดฟุกุโอกะเป็นเวลา 10 วัน ตอนนั้นเป็นช่วงที่หนักมากสำหรับผม
เพราะต้องทำทั้งกิจกรรมของสาย งานเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างของกรรมการนักเรียน
แล้วก็ติวสอบจนถึงสองทุ่มสามทุ่มทุกวันประมาณ 2 – 3 เดือน
พอผลออกว่าสอบได้ก็ดีใจมาก ทั้งตัวผมรวมถึงทุกคนรอบตัว

เขียนมาถึงตรงนี้ หลายคนคงสงสัยว่าวันนี้เป็นวันเปลี่ยนชีวิตผมอย่างไร เปลี่ยนสิครับ สำหรับผม ถ้าผมไม่เลือกที่จะเดินทางนี้ ผมอาจจะเดินมาไม่ถึงจุดนี้ ไม่ไกลเท่านี้

ภายในเวลาสองปี ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างผ่านการทำงาน ทำกิจกรรมต่างๆ
และการกระทำของตัวเอง มีมุมมองที่กว้างขึ้น เข้าใจคนอื่น ได้เจอคนดีๆ เพิ่มเข้ามาในชีวิตมากมาย
ได้ฝึกการคิด การตัดสินใจ ความอดทน ความพยายาม ความรอบคอบ ความเป็นผู้นำและการคิดถึงส่วนรวม
รับรู้ได้ว่าตัวเองโตขึ้นมาทีละนิดจากทุกๆ สิ่งที่ตัวเองทำ

และมันทำให้ผมรู้ว่าจุดหมายสวยงามก็จริง
แต่ประสบการณ์และสิ่งต่างๆ ที่พบเจอระหว่างทางจะทำให้จุดหมายนั้นมีคุณค่ามากขึ้น

ผมเชื่อว่าชีวิตผมยังต้องเจอการเปลี่ยนแปลงอีกหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของผม

ถ้าตอนนั้นผมไม่เลือกทางเดินนี้ ตอนนี้ผมจะเป็นยังไงนะ

ใครอยากเล่าเรื่องวันเปลี่ยนชีวิตของตัวเองบ้าง คลิกที่นี่เลย

AUTHOR