ไทเกอร์ : แมวอ้วน 3 ขา ที่ตะกละ ไม่ขี้อ้อน (แต่อย่าให้เห็นนะว่าเล่นกับตัวอื่น)

ไทเกอร์เป็น 1 ใน 6 ตัวป่วนจากครอบครัวของมิซาเอะโนซอรัส (สกอตติชโฟลด์) และเรืองศักดิ์ (อเมริกันชอร์ตแฮร์ + เบงกอล) จึงส่งผลให้ไทเกอร์เป็นแมวผสมสามสายพันธุ์ที่เติบโตมาเป็นพันธุ์แมวหมูที่แอบดุร้ายคล้ายเสือเบงกอลหน้ากลมและบานเหมือนสกอตติชโฟลด์ ดูท่าแล้วน่าจะพุงใหญ่และกินเก่งที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้ง 6 ตัว

ชีวิตประจำวันของไทเกอร์ในวัยเด็กคือเล่นกับคน กินอาหารเม็ด กินนมแพะ และนอนที่ไหนก็ได้ตั้งแต่บนตัวคน บนหัวนอนของคน หรือแม้แต่เบียดหัวคนเพื่อที่จะได้นอนบนหมอน รวมไปถึงแอบไปนอนตามที่แคบต่างๆ ที่จะสามารถเข้าไปอยู่ได้ตามนิสัยแมว

พอโตขึ้นมาเป็นแมวหนุ่มนิสัยแมวบางอย่างของไทเกอร์ก็เปลี่ยนไปกลายเป็นแมวไม่ค่อยอ้อน ไม่นัวเนียหงุงหงิงเหมือนแมวบ้านอื่นเลย แต่กิจวัตรประจำวันตั้งแต่เช้าของเจ้าแมวอ้วนนี่ก็คือต้องเข้าไปแปรงฟันกับแม่ตอนเช้า กระโดดไปยืนข้างอ่างล้างหน้าเพื่อให้แม่ล้างหน้าล้างตาให้ในทุกๆ เช้า ก่อนจะเดินตามแม่ลงบันไดมาเรียกแม่ให้เทอาหารเม็ดให้ เป็นแมวที่มีความตะกละสูงมาก กินเก่งมาก และล่อได้ด้วยขนมแมวทุกชนิดยกเว้นอาหารเปียกของแมว

ไทเกอร์เป็นแมวที่ถูกเลี้ยงระบบปิด แต่ชอบเที่ยว ชอบนั่งรถเล่น ชอบให้พาออกไปข้างนอก จากแมวไม่หงุงหงิงในบ้านกลายเป็นแมวอีกตัวเมื่ออยู่บนรถเวลาขับรถแล้วพาไทเกอร์ออกมาด้วยไทเกอร์จะอ้อนมากเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าถ้าพอใจมากใช้ให้นวดเธอก็จะเดินมานวดขา หรือบางครั้งหลับคาตักไปเลยก็มี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้าอยู่บ้านแล้วไม่งัวเงียจริงๆ
จะไม่ได้รับจากแมวอ้วนตัวนี้เลยแม้แต่นิด แต่เห็นไม่เล่นกับมนุษย์อย่างนี้ ไทเกอร์เป็นแมวหวงก้างมากๆ ตัวนึงเลยนะ อย่าไปเล่นกับแมวตัวอื่นให้เห็นเลยเชียว เข้าบ้านมามีอาการงอนไม่ให้จับตัวแน่ๆ

ด้วยความที่ถูกเลี้ยงมาในระบบปิดโดนขังในบ้านมากๆ แถมยังจะมีแมวตัวอื่นๆ แวะเวียนมาทักทายตามบริเวณต่างๆ ของบ้าน เมื่อไทเกอร์มองออกไปข้างนอกไทเกอร์ก็คงอยากออกไปเจอโลกกว้างแบบแมวอื่นเขาบ้าง

จนวันหนึ่งสบโอกาส ต้องบอกก่อนว่าประตูที่บ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อนที่ต้องคอยล็อกตลอดเวลาที่มีการเข้าออก วันนั้นดันมีคนลืมล็อก ด้วยความสามารถพิเศษของเจ้าแมวอ้วนทำให้เปิดประตูออกไปฟัดกับแมวนอกบ้านตามสัญชาตญาณแมวหนุ่มเลือดร้อน..แต่ยังโชคดีที่มีการจับแยกได้ทันก่อนที่จะมีอะไรเสียหายไปมากกว่านี้

ทุกอย่างดูปกติดีเหมือนเจ้าอ้วนนี่จะเป็นฝ่ายชนะ หลังจากนั้นผ่านไป 2 – 3 วันจึงเริ่มออกอาการออดอ้อนเป็นพิเศษ เมื่อสังเกตจึงพบว่าป่วย มีอาการหายใจแผ่วๆ ที่บ้านเลยพาไปหาหมอที่คลินิกแถวบ้านพบอาการน้ำท่วมปอด หมอได้ทำการรักษาตามอาการจนดีขึ้น แต่เจอปัญหาใหม่คือขาหลังไม่มีแรงทั้งสองข้าง หมอแจ้งว่าคืออาการลิ่มเลือดอุดตันเมื่อให้ยาสลายลิ่มเลือดกลับพบว่าขากลับมามีแรงได้เพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างมีอาการอักเสบคล้ายการติดเชื้ออะไรสักอย่าง ทำให้อาจจะต้องตัดขา

ในเวลานั้นนับเป็นช่วงเวลาที่สะเทือนใจมากช่วงเวลาหนึ่ง เพราะหมอเองก็ไม่รับประกันว่าหลังจากตัดขาแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่หากไม่ตัดขาก็ดูเหมือนคล้ายกับว่าถึงเวลาต้องนับถอยหลัง เราเลยตัดสินใจให้หมอตัดขาเพราะเชื่อว่ายังไงชีวิตของเจ้าอ้วนนี้ก็สำคัญที่สุด

จากแมวที่เคยอ้วนเป็นหมูน้ำหนัก 5 กิโลกว่าๆ ซูบผอมจนน้ำหนักเหลือไม่ถึง 3 กิโล และต้องกลายเป็นแมว 3 ขา ทุกอย่างดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ก็ไม่เลยหลังผ่าตัดขา ครอบครัวเราเห็นท่าไม่ดีจึงมีความคิดที่ว่าได้เวลาต้องย้ายจากคลินิกไปโรงพยาบาลสัตว์ที่มีหมอมากกว่า 1 คนช่วยดูแลแล้วล่ะ (คิดได้ช้าไปมั้ย) สุดท้ายเราทำเรื่องย้ายไปโรงพยาบาลที่พอเจอหมอหมอก็ทักว่าจริงๆ แล้วไม่น่าจะต้องตัดขาเลยนะ….หมอคะไม่ทันแล้วค่ะ ><

หลังจากพักรักษาตัวในโรงพยาบาลไทเกอร์ก็ดีขึ้นทุกวันๆ จนกลับมาขุนต่อที่บ้านได้อีกครั้ง นับเป็นฟ้าหลังฝนที่สดใสมากๆ ช่วงเวลาเกือบ 3 เดือนกับขาแมวที่เหลือเพียง 3 ขา อย่างน้อยที่สุดก็ได้ชีวิตกลับมา

พอกลับมาอยู่บ้านได้ไม่นานไทเกอร์ก็กลับมาป่วนได้เหมือนเดิม ไม่อ้อนเหมือนเดิม ทำหน้าตาเบื่อโลกและถอนหายใจใส่มนุษย์ที่ชอบแกล้งจับพุงได้เหมือนเดิม ทุกวันนี้ประตูบ้านก็ยังคงเปิดแล้วต้องล็อกเหมือนเดิม เพราะแม้จะเหลือเพียง 3 ขา แต่ความสามารถในการเปิดประตูและความวิ่งไวของเจ้าแมวอ้วนตัวนี้ไม่แพ้ใครเหมือนเดิมเลยจริงๆ

Owner’s name: วรางคณา สุขจันทร์เทาะ
Occupation: นักศึกษาปริญญาโท
Cat’s name: ไทเกอร์
Breed: ลูกเสี้ยว 3 สายพันธ์ สกอตติชโฟลด์ –
อเมริกันชอร์ทแฮร์ – เบงกอล
More cat’s info: https://web.facebook.com/tigerbabycat

(ที่ตอนนี้ไม่เบบี้แล้ว)

ใครอยากอวดแมวในเว็บไซต์ a day online คลิกที่นี่นะ

AUTHOR