“ถุงทอง…ลูก” เรามักได้ยินเสียงแม่เรียกถุงทองแบบนี้ทุกครั้ง ถุงทองเป็นลูกอีกคน เอ้ย! อีกตัว ของแม่ แม่เอาถุงทองมาเลี้ยงตั้งแต่อายุได้ 3 เดือน ได้ต่อมาจากลูกน้องของแม่อีกทีเพราะเขาแพ้ขนแมวจึงเลี้ยงเจ้าถุงทองไว้ไม่ได้
ไม่มีหลักฐานทราบแน่ชัดว่าชื่อถุงทองนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร
ดูเหมือนแม่ก็ไม่ได้สงสัยเอาความอะไรจากชื่อนี้ทั้งที่เราก็พยายามถามหลายครั้ง
ด้วยความน่ารักเหมือนตุ๊กตา ขนสีขาวแซมน้ำตาลนิดๆ ตากลมโตได้รูป
แม่จึงใจอ่อนรับเลี้ยงมันไว้อย่างง่ายดาย
หลังจากทำหมันถุงทองก็อ้วนขึ้นมาก แถมเนื้อแน่น ตัวกลม
ลักษณะคล้ายก้อนสำลีขนาดใหญ่ นิสัยส่วนตัวก็เจ้าสำอาง (เหลือเกิน) แต่งหล่อเลียขนตัวเองทั้งวัน พอเสร็จก็ชอบหนีไปนอนใต้ต้นไม้บ้าง
เก้าอี้ข้างต้นเฟื่องฟ้าหน้าบ้านบ้าง บางวันก็กระโดดขึ้นไปอยู่บนกำแพงบ้าน นั่งมองวิวสบายอารมณ์อยู่อย่างนั้นตั้งนาน
ก็น่าสงสัยนะว่าถุงทองมันคิดอะไรอยู่
จะว่าไปถุงทองดูจะมีนิสัยคล้ายๆ กับเราตรงที่ไม่เคยอยู่กับบ้านได้นาน
ต้องออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกอยู่เสมอ บางวันไม่ใช่แค่ลูกสาวคนโตที่หายไป
แต่เจ้าถุงทองลูกชายคนเล็กของแม่ก็หนีไปเที่ยวเสียด้วย
นอกจากเจ้าสำอางและรักอิสระแล้ว ถุงทองนั้นก็แสนจะใจดี
เพื่อนแมวตัวไหนหิวก็มากินข้าวถุงทองได้ ถุงทองอนุญาต มันไม่เคยขู่หรือไล่แมวตัวอื่นที่มากินข้าวมันเลย
นั่งมองเพื่อนกินตาปริบๆ อยู่อย่างนั้นจนกว่าเพื่อนจะอิ่ม
หลายครั้งเราถึงกับกุมขมับ ต้องหาวิธีกันแมวตัวอื่นไม่ให้เข้ามากินข้าวของถุงทอง
มีครั้งหนึ่งที่ครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัดกันหมด แต่เจ้าถุงทองตัวดีโดนขังอยู่ในห้องเก็บของนี่สิ
มันแอบเข้าไปในห้องตอนไหนก็ไม่มีใครทราบ จนเรากลับมาถึงบ้านแล้วพยายามเรียกถุงทองนั่นแหละถึงได้รู้ว่ามันอยู่ในห้องเก็บของมืดๆ
ตัวเดียว ไม่ได้กินอะไรเลยตั้ง 5 วัน หากแมวมี 9
ชีวิต ตอนนี้ถุงทองคงเหลือแค่ 8 ชีวิตซะแล้ว ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้น ทุกคนในบ้านเลยต้องระวังไม่ให้มันเข้าห้องเก็บของอีก
แล้วเวลาจะออกไปไหนต้องเห็นถุงทองในสายตาก่อนทุกครั้งที่จะสตาร์ทรถด้วย
ตั้งแต่โตเป็นหนุ่ม ถุงทองก็ไม่ค่อยจะเข้ามาอ้อนคนนัก
เว้นเสียแต่เวลาที่เห็นคนในบ้านกำลังกินข้าวนั่นแหละ มันถึงจะมาร้องเมี้ยวๆ ทำตัวน่ารักแถมออดอ้อนถูขาไปมาเพื่อขอร่วมวงกินข้าวกับคนด้วย
เราต้องพยายามอย่างหนักที่จะใจแข็ง ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดคือการที่เห็นถุงทองอยากกินข้าวด้วย
แต่เราก็ให้มันกินไม่ได้นี่แหละ
เห็นหน้าหล่อๆ แถมเจ้าสำอางอย่างนี้ จริงๆ แล้วถุงทองมันไม่ค่อยรักษาภาพลักษณ์ตัวเองสักเท่าไหร่หรอก
เราจึงได้เห็นท่านั่งตลกๆ อยู่บ่อยๆ แถมเสียจริตตลอดเวลาที่เอาต้นตำแยแมวมาแหย่ด้วย
เรารู้สึกว่าการได้ถุงทองมาเลี้ยงมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
นี่ก็เวลาผ่านไป 3 ปีกว่าแล้วที่มีเจ้าตัวอ้วนกลมตัวนี้มาเป็นสมาชิกของครอบครัว
ถุงทองเปรียบเสมือนก้อนความสุขขนาดใหญ่ของทุกคนในบ้าน เราแอบเห็นแม่มองมันด้วยสายตาอ่อนโยนอยู่เสมอ
มือของแม่จะค่อยๆ บรรจงลูบขนมันช้าๆ กล่อมมันจนหลับทุกคืน
พ่อก็กลายเป็นคนรักแมวขึ้นมาทันทีทั้งที่ไม่เคยจะสนใจสัตว์ประเภทนี้ ส่วนเราน่ะเหรอ
ทุกครั้งที่กลับบ้านไปมักจะถามถึงถุงทองก่อนแล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดทุกครั้งที่เจอ
ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่จะน้อยใจในความลำเอียงนี้รึเปล่านะ
Owner’s
name:
นิภัทรา นาคสิงห์ (นุ๊บนิพ)
Occupation: นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ฝึกงานในตำแหน่งกองบรรณาธิการ a team junior 12
Cat’s name: ถุงทอง
Breed: ไทย-เปอร์เซีย
ภาพ ช่อไพลิน ไพรบึง
ใครอยากอวดแมวในเว็บไซต์ a day online คลิกที่นี่เลย
