Modbar – เครื่องชงกาแฟที่ทำให้บาริสต้ากับคนดื่มสื่อสารกันง่ายขึ้น

หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่ากาแฟพิเศษ (Specialty coffee) กันมาบ่อยแล้ว ถ้าให้อธิบายว่า ‘กาแฟพิเศษ’ คืออะไร เราคงตอบไปตรงตัวว่าก็คือกาแฟที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ในทุกๆ ขั้นตอน ตั้งแต่ยังอยู่ในไร่จนถึงคนชง การสื่อสารจึงเป็นหัวใจสำคัญของร้านกาแฟประเภทนี้ที่บาริสต้าหรือพนักงานในร้านต้องบอกเล่าให้ลูกค้าเข้าใจที่มาที่ไปของกาแฟแต่ละแก้วได้ แต่บ่อยครั้งที่ลักษณะของเครื่องชงกาแฟตามร้านมีขนาดใหญ่ก็เป็นอุปสรรคหนึ่งที่ทำให้การสื่อสารเกิดปัญหา ดังนั้นการออกแบบเครื่องชงกาแฟที่ขนาดเล็กลง ก็เพิ่มโอกาสให้บาริสต้าได้สื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น หนึ่งในเครื่องชงกาแฟที่ถูกออกแบบมาด้วยโจทย์นี้คือ Modbar

Corey Waldron ผู้ก่อตั้ง Modbar เริ่มจากเป็นบาริสต้าในร้านกาแฟพิเศษแห่งแรกที่รัฐอินเดียนนา สหรัฐอเมริกา เขาพยายามผลักดันตลาดของกาแฟชนิดพิเศษ แต่ก็เจอปัญหาว่าอุปสรรคของเขากับลูกค้าคือเครื่องชงกาแฟที่ทำให้ลูกค้าไม่ได้สื่อสารกับคนชงได้อย่างเต็มที่

Modbar จับมือกับบริษัทเครื่องชงกาแฟค่ายใหญ่ La Marzocco และ Marco Beverage System พัฒนาเครื่องชงกาแฟที่นำหม้อต้ม (Boiler) ไปไว้ด้านล่างของเคาน์เตอร์ทำให้มีพื้นที่ด้านบนมากขึ้น โดยดีไซน์ของเจ้าเครื่อง Modbar ถูกสร้างขึ้นด้วยแนวคิดแบบ Modularity ทำให้มีอิสระในการติดตั้งเครื่องชงไว้ที่ไหนก็ได้

Modbar ประกอบไปด้วยโมดูลทั้งหมด 3 แบบ คือ Espresso Module, Steam Module และ Pour Over Module แต่ละโมดูลจะประกอบไปด้วยสองส่วนด้วยกันคือส่วนที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์ และที่เป็นแท็บอยู่เหนือเคาน์เตอร์

ในฐานะที่ผู้เขียนเองก็ทำหน้าที่เป็นคนชงกาแฟ เราเห็นด้วยว่าเครื่องชงกาแฟที่มีขนาดเล็กแบบ Modbar นั้นทำให้ไม่บังสายตาทั้งฝั่งเราและลูกค้า ทำให้เราตั้งใจเล่าเรื่องราวกับคนดื่มได้ง่ายขึ้น

ในประเทศไทย บริษัท Bluekoff เป็นผู้นำเข้าและผู้ผลิตรายใหญ่ของ Modbar และมีคาเฟ่เป็นของตัวเองด้วย ส่วนของคาเฟ่ถ้าเราเดินเข้าไปจะเห็นบาร์ยาวและเจอเครื่อง Modbar สีดำด้านก่อนใครเพื่อน ที่นี่ถือเป็นคาเฟ่แห่งแรกที่ใช้เครื่องชงตัวนี้และมีทั้งสามโมดูล เราสามารถสั่งได้ทั้งกาแฟเข้มข้นที่ชงผ่าน Espresso Module หรือจะสั่งกาแฟดริปที่มีเมล็ดกาแฟให้เลือกอยู่ข้างๆ ชงโดย Pour-Over Module ก็ได้

วันที่เราไป บาริสต้าแนะนำกาแฟจากประเทศเคนยาให้ชิม ถัดจากเรามีลูกค้าที่กำลังรอออเดอร์ให้ความสนใจเครื่องไม่น้อยและชวนบาริสต้าคุยอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งก็ตรงกับจุดประสงค์ของผู้ออกแบบเครื่องแล้ว

นอกจากที่ Bluekoff คาเฟ่อีกแห่งที่ใช้เครื่องชงกาแฟ Modbar คือ NANA Coffee Roaster คาเฟ่สุดสวยในซอยนานาที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของร้านดอกไม้ Oneday Wallflowers ที่เราอยากชวนให้คนรักกาแฟทุกคนไปรับประสบการณ์การดื่มกาแฟที่จะได้พูดคุยกับบาริสต้าได้อย่างเต็มที่ มีให้เลือกว่าจะชงผ่าน Pour-Over Module หรือ v60 (Hand Brew) ก็ได้

ไฮไลต์ของ NANA Coffee Roaster คือที่นี่เสิร์ฟกาแฟจาก Ninety Plus กาแฟที่คัดเลือกพิเศษจากประเทศปานามาและเอธิโอเปียที่ให้รสชาติแตกต่างจากกาแฟทั่วไป ซึ่งเกิดจากการคัดเลือกสายพันธุ์พิเศษที่หายากและทำขึ้นมาไม่เยอะ มีความทันสมัยในการแปรรูป เป็นกาแฟที่ทำให้บาริสต้าหลายคนได้แชมป์มาแล้ว สำหรับคนที่ชอบกาแฟนมที่นี่ยังมีกาแฟเฮาส์เบลนด์ที่นำไปผสมนมได้ และมีเค้กหลากหลายให้เลือกจับคู่กินกับกาแฟอีกด้วย

ใครที่เคยเดินเข้าร้านกาแฟสเปเชียลตี้แล้วไม่รู้ว่าจะพูดคุยกับบาริสต้ายังไง เครื่องชงกาแฟ Mod Bar แก้โจทย์นี้ให้ทั้งบาริสต้าและคนดื่มแล้วล่ะ

Bluekoff

facebook l BlueKoff
address : อาคารพร้อมพันธุ์ 2 ชั้น 1 ปากซอยลาดพร้าว 3 จตุจักร กรุงเทพฯ
hour : จันทร์-เสาร์ 08:30 – 17:00 น. (ปิดวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
website l https://www.bluekoff.com/

Nana Coffee Roaster

facebook l NANA Coffee Roaster
address l 31-33 ซอยนานา ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
hour l จันทร์-อาทิตย์ 11:00 – 19:00 น. (ปิดวันพุธ)
website l http://nanacoffeeroasters.com/

AUTHOR