Gay’s the Word Bookshop : ร้านหนังสือสีรุ้งที่อยากสร้างโลกที่ทุกคนเป็นคนธรรมดา

Gay’s the Word ได้ชื่อว่าเป็นร้านหนังสือสำหรับกลุ่มคนรักเพศเดียวกันร้านแรก
และร้านเดียวที่ยังเหลืออยู่ในกรุงลอนดอน

ก่อนเดินทางมาถึง
ฉันได้แต่จินตนาการว่าที่นี่คงเป็นร้านหนังสือใต้ดินที่มีเพียงแสงสลัวจากหลอดไฟนีออน
และในร้านคงเต็มไปด้วยเรื่องราวในโลกอีกใบที่ฉันไม่เข้าใจและคงไม่มีวันเข้าถึง
แต่ทันทีที่ผลักประตูเข้าไปฉันก็แทบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เพราะภาพที่เห็นตรงหน้าช่างแตกต่างจากภาพในหัวลิบลับ ที่นี่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลายและสบายใจ
ฉันเชื่อว่าความรู้สึกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ
หากเจ้าของร้านมีความในใจบางอย่างที่อยากสื่อสาร พื้นที่ในร้านจะบอกสิ่งนั้นได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้คำพูดหรือภาษาใดๆ

“ที่นี่เป็นมากกว่าร้านหนังสือ
เราตั้งใจให้มันเป็นพื้นที่ของชุมชน” Jim McSweeney ผู้จัดการร้านเริ่มคุยกับฉันด้วยความภูมิใจ

จิมเล่าว่าที่นี่เป็น Serious Gay Bookshop หรือร้านหนังสือที่ไม่ได้พูดแต่เรื่องความรัก แต่บอกเล่าเรื่องความหลากหลายทางเพศอย่างจริงจังผ่านนวนิยาย
บทกวี การเมือง ประวัติศาสตร์ ศาสนา สุขภาพ จิตวิทยา ฟังแบบนี้อาจดูซีเรียส
แต่พอไล่ดูแต่ละเล่มเรากลับเห็นหนังสือที่เล่าเรื่องได้อย่างจิกกัดแสบสันมากมาย
อย่างนิตยสารเกย์หน้าปกสีจัดจ้าน
นิยายภาพและหนังสือทำมือที่บอกเล่าเบื้องลึกในใจผ่านภาพลายเส้น
ส่วนใครที่ไม่อยากอ่านหนังสือ ที่นี่ก็มีแผ่นซีดีหนัง โปสการ์ด และใบปลิวกิจกรรมที่น่าสนใจในแต่ละเดือนวางไว้เต็มหน้าร้าน

จิมเล่าว่าไอเดียของร้านนี้เกิดขึ้นในปี
1979 ช่วงเวลาที่มีการประท้วงเรียกร้องสิทธิ์ของคนหลากหลายทางเพศครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา
แรงกระเพื่อมนี้ส่งมาถึงเกาะอังกฤษจนทำให้เกิดสื่อต่างๆ ขึ้นมากมายอย่างหนังสือพิมพ์และหนังสือเพื่อคนรักเพศเดียวกัน
ในตอนนั้นกลุ่มนักสังคมนิยมที่มีชื่อว่า Gay Icebreakers จึงเปิดร้านนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ขายหนังสือและที่พบปะของกลุ่มเกย์และเลสเบี้ยน

“ถ้าเราเป็นคนที่สังคมมองไม่เห็น
หรือถูกใส่ร้ายด้วยความเข้าใจผิดๆ เราจะไม่ต่างกับผีที่สร้างความกลัวและความหวาดระแวงจนผู้คนต่อต้าน
เราเลยเปิดพื้นที่บอกเล่าตัวตนของเราผ่านร้านหนังสือ
เพราะหนังสือคือการแบ่งปันไอเดียที่ถูกและสะดวกที่สุดเมื่อเทียบกับทีวีและหนังที่มักนำเสนอแต่เรื่องเอาใจคนกลุ่มใหญ่
และเหตุผลที่ร้านหนังสือเป็นจุดนัดพบที่ดีก็เพราะอย่างที่เธอเห็น
ห้องสี่เหลี่ยมแห่งนี้เป็นที่ที่มีไอเดียมากมายล้อมรอบ
ผู้คนจึงอยากเข้ามาเพื่อมองหาเพื่อนที่คิดเหมือนกันแล้วเต็มใจแบ่งปันความรู้เพื่อสร้างแนวคิดใหม่ๆ” จิมเล่า

ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน Gay’s the Word ทำหน้าที่เป็นทั้งห้องนั่งเล่นและห้องประชุมของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศมากมาย
ทั้งกลุ่มเลสเบี้ยน
LGBT และ Transgender แต่กว่าจะอยู่รอดมาถึงวันนี้พวกเขาต้องเผชิญอุปสรรคมาไม่น้อย
ตั้งแต่ตอนก่อตั้งร้านเมื่อ 37 ปีก่อน
สภาเมืองไม่ยอมให้เปิดเพราะเข้าใจมันคือร้านขายหนังสืออีโรติก
หลังจากที่ได้รับอนุญาตให้เปิดรับลูกค้า กระจกหน้าร้านกลับถูกทุบแตกบ่อยๆ
โดยคนที่เกลียดกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน
และแม้ตอนนี้ทัศนคติของผู้คนจะยอมรับความหลากหลายทางเพศและกฎหมายอังกฤษก็ให้สิทธิพวกเขามากขึ้นแล้ว
แต่ในปี 2007 การเข้ามาของธุรกิจหนังสือในโลกออนไลน์ก็คือคลื่นระลอกใหญ่อีกลูกที่เกือบทำให้
Gay’s the Word ต้องปิดตัวลง

“ตอนนั้นยอดขายตกลงมากจนเราคิดว่าเวลาของเราคงหมดแล้วจริงๆ”
จิมบอกเราแต่ดวงตากลับเหม่อมองไปไกลคล้ายกำลังย้อนนึกถึงอดีต แต่ในวิกฤตครั้งนั้นก็ทำให้เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น
เมื่อข่าวการปิดตัวร้านหนังสือเล็กๆ ร้านนี้กลายที่สนใจของสำนักข่าวใหญ่ระดับประเทศอย่าง BBC, The Guardian, The
New York Times และ The Independent

“เมื่อคนทั่วโลกรับรู้ พวกเขาจึงพากันส่งอีเมลมาให้กำลังใจ
พอทีมงานเห็นว่ายังพอมีหนทางพวกเขาจึงจัดแคมเปญระดมทุน
ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจนทำให้
Gay’s the Word ยังอยู่ได้อย่างมั่นคงมาจนถึงทุกวันนี้

“ตอนแรกพวกเราตกใจเหมือนกันที่มีคนออกมาเชียร์มากขนาดนี้
แต่พอมาคิดๆ ดู เราเริ่มเข้าใจว่าการมีอยู่ของเราเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ตัวสำคัญในชีวิตผู้คนและสังคม
เมื่อใครสักคนเริ่มรู้สึกว่าพวกเขาแตกต่าง
อย่างน้อยเขาก็รู้ว่ายังมีร้านหนังสือสำหรับพวกเขาอยู่ตรงนี้
เพราะที่นี่เป็นร้านที่พวกเขาสบายใจที่จะเดินเข้ามาหาคำปรึกษา
อย่างวันก่อนมีสาวน้อยคนนึงเดินเขามาคุยกับผม เธอเป็นเลสเบี้ยนและไม่กล้าบอกใคร
เพราะเธอไม่รู้ว่าปฏิกิริยาของคนที่เธอรักจะเป็นยังไงเมื่อรู้ความจริง
ในบางวันก็มีพ่อแม่ที่มีลูกชายวัยรุ่นเป็นเกย์
เขาก็มาที่นี่เพื่อหาหนังสือที่จะทำให้พวกเขาเข้าใจลูกชายมากขึ้น
เราคิดว่าการมาที่นี่ไม่ต่างจากการได้มาเจอคนในครอบครัวที่เข้าใจปัญหาและรู้ว่าตัวจริงของเขาเป็นใคร”

จิมยังเล่าต่อว่าแม้ตอนนี้จะมีหนังสือเกี่ยวกับกลุ่มคนหลากหลายทางเพศวางขายมากมายทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์
แต่จุดแข็งของพวกเขาคือการรวบรวมหนังสือจากหลากหลายวงการโดยใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาเกือบ
40 ปี คัดสรรหนังสือดีจากนักเขียนและสำนักพิมพ์คุณภาพมาวางจนแน่นร้าน

“ร้านนี้ชื่อ Gay’s the Word ฉันเลยอยากรู้ค่ะจิม
ว่าโลกในฝันที่พวกคุณจินตนาการไว้เป็นแบบไหนหรอ?” ฉันถาม

“ผมอยากเห็นสังคมที่ไม่แบ่งแยกคนด้วยเพศสภาพ
ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศอะไร รักคนเพศไหน เราทุกคนก็ควรมีอิสระที่จะรักตัวเองและคนรอบข้างในแบบที่พวกเขาเป็น”

น่าแปลกที่ฉันมองเห็นโลกใบนั้นได้ในทันที โลกที่ดูอบอุ่น โลกที่เห็นทุกคนเป็นคนธรรมดาเหมือนๆ กัน
อาจเป็นเพราะนั่นคือโลกในร้านหนังสือที่กำลังฉันยืนอยู่

Famous
Attraction :
London Triptych by Jonathan Kemp

นิยายเกย์เล่มนี้เต็มไปด้วยเรื่องของความรัก
ความปรารถนา และการทรยศหักหลัง นักเขียนเล่าชีวิตของผู้ชาย 3 คนที่อาศัยอยู่ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน 3
ทศวรรษ คนแรกคือผู้ชายขายตัวที่ได้พบกับออสการ์
ไวลด์ ช่วงก่อนที่เขาจะมีข่าวอื้อฉาวเรื่องพฤติกรรมอนาจาร
คนต่อมาคืออาชญกรที่มีชีวิตอยู่ในช่วงโรคเอดส์ระบาดไปทั่วเมือง
คนสุดท้ายคือศิลปินจากที่กำลังสำรวจเพศของตัวเองไปพร้อมๆ กับการวาดภาพที่มีชื่อว่า ‘London
Triptych’

Hidden
Attraction :
Tales of the city by Armistead
Maupin

คนเขียนเป็นเจ้าของหนังสือเกย์ขายดีหลายเล่ม
เล่มนี้เป็นเรื่องราววุ่นๆ ของหญิงสาวที่ย้ายเข้าไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์เมืองซานฟรานซิสโก
ที่นั่นเธอมีเพื่อนร่วมชายคาหลากหลายเพศ ทั้งเกย์ และไบเซ็กชวล
เมื่อได้ใช้ชีวิตร่วมกัน มิตรภาพมากมายก็เกิดขึ้นในพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้
ทั้งหมดคือเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่แตกต่างแต่หาที่ทางลงตัวได้อย่างเหมาะเจาะ
โทนเรื่องทั้งตลกและน่ารัก สำหรับคนที่อยากอ่านนิยายเกย์แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นที่ไหน
จิมแนะนำว่าเล่มนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

High
Season:
ถ้าอยากแวะมาดูหนังสือเงียบๆ แนะนำให้มาตอนเช้า
ถ้าอยากเข้ามาพบปะพูดคุยกับเจ้าของร้านและคนอ่านควรมาตอนบ่ายที่บรรยากาศคึกคักกว่า
แต่ถ้าอยากมาสังสรรค์เราแนะนำให้มาในวันที่ร้านมีกิจกรรมเปิดตัวหนังสือ
หรือในวันที่มีการนัดพบของกลุ่มต่างๆ เช่นกลุ่มเลสเบี้ยนที่นัดกันทุกวันพุธและกลุ่ม LGBT และ TransLondon ที่นัดกันที่นี่ทุกเดือน
ติดตามอีเวนต์ต่างๆ ได้ที่แฟนเพจของร้านเลย

“ร้านเราเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ตัวสำคัญในชีวิตผู้คนและสังคม
เมื่อใครสักคนในเริ่มรู้สึกว่าพวกเขาแตกต่าง
เขาจะรู้ว่ายังมีร้านหนังสือสำหรับพวกเขาอยู่ตรงนี้ เขาไมได้อยู่คนเดียว มาที่นี่จึงไม่ต่างจากการได้มาเจอคนในครอบครัวที่เข้าใจปัญหาและรู้ว่าตัวจริงของเขาเป็นใคร

Gay’s the Word Bookshop

Address: 66 Marchmont St, London WC1N 1AB, United Kingdom
How to get there: นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Russell Square แล้วเดินต่อไปที่ถนน Marchmont ประมาณ 6 นาที
Contact:
Facebook | gaystheword
Twitter | @gaystheword
Hours: วันจันทร์-เสาร์ 10:00 – 18:30 น., วันอาทิตย์ 14:00 – 18:00 น.

ภาพประกอบ Faan.peeti

AUTHOR