ชื่อหนังสือ: I Will See You Again!
ผู้เขียน: Sara Ho
เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ที่ประเทศสิงคโปร์มีการจัดงานเล็กๆ แต่น่าแวะไปมากชื่อ
Singapore Art Book Fair 2016 ที่ ArtScience Museum ท่ามกลางหนังสือน่าสนใจของศิลปินจากหลากหลายประเทศที่มาวางขายในงาน
เราถูกใจหนังสือเล็กๆ เล่มหนึ่งที่ชื่อ I Will See You Again! จนต้องจ่ายเงินซื้อและหอบหิ้วกลับมาเมืองไทยด้วย
I Will See You Again! เป็นผลงานของศิลปินสาวชื่อ Sara Ho ถ้าเอาเกณฑ์หน้าปกและเลย์เอาต์มาตัดสิน หนังสือที่รูปเล่มเรียบง่ายมากเล่มนี้คงแพ้หนังสืออื่นที่มีวิธีสื่อสาร
เล่นกับสื่อกระดาษอย่างสนุกล้ำ แต่พอลองเปิดอ่าน
ก็พบว่าหนังสือเล่มนี้มีดีที่เนื้อในแสนกระทบใจ เพราะศิลปินสาวผู้ซึ่งสูญเสียพ่อไปอย่างไม่มีวันกลับ
ได้ผ่านพบผู้คนมากมายที่สูญเสียพ่อแม่เช่นเดียวกัน พูดคุย ตั้งใจฟังพวกเขา แล้วรวบรวมความทรงจำถึงพ่อแม่ของคนเหล่านั้นไว้ในหนังสือเล่มนี้
“ตั้งแต่เด็ก แม่จะพาฉันกับพี่สาวไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดมาอ่านอยู่บ่อยๆ
นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าร้านหนังสือคือหนึ่งในสถานที่ที่ไปแล้วเยียวยาจิตใจที่สุด”
“ฉันนั่งอยู่บนหมอนสี่เหลี่ยมจตุรัสใบใหญ่ตรงทางเข้าครัว
บางทีอาจจะกำลังดูทีวีอยู่ ฉันจำได้ว่าพ่อออกจากครัวแล้วส่งแครกเกอร์รสเนยที่เอาไปทาเนยมาให้
ครอบครัวเราจำว่ามันเป็นขนมที่พ่อจะทำอยู่ตลอดเวลา นี่คงเป็นความทรงจำถึงพ่อที่ชัดเจนที่สุดของฉัน”
ชิ้นส่วนความทรงจำของลูกสาวลูกชายถึงพ่อแม่ที่จากไปแล้ว ถูกบอกเล่าผ่านข้อความสั้นๆ
ในหน้าซ้าย เคียงคู่กับภาพถ่ายสีนุ่มนวลของวัตถุที่เชื่อมโยงกับความทรงจำนั้นในหน้าขวา
เมื่อพลิกอ่านไปทีละหน้า จะพบความจริงที่น่าประหลาดใจว่า
ในความทรงจำมากมายนับแสนล้านชิ้นของลูกกับพ่อแม่
สิ่งที่เราหวนระลึกถึงอาจเป็นแค่ความทรงจำเล็กๆ
ที่น่าจะถูกหลงลืมได้เป็นอันดับต้นๆ วันที่แม่พาไปกินไอศครีม
การเพาะถั่วงอกที่แม่สอน ห่อของที่พ่อหิ้วกลับมาบ้าน
พ่อแม่คงนึกไม่ถึงว่าหัวใจลูกจะเลือกจำสิ่งเหล่านี้ไว้
และคงคาดไม่ถึงว่าความทรงจำเล็กน้อยจะกลับกลายเป็นของมีค่าที่มอบทั้งรอยยิ้มและน้ำตาให้ลูกในวันที่พวกเขาจากไป
เหมือนที่ศิลปินสาวเขียนไว้ว่า สิ่งเหล่านี้อาจดูเป็นสิ่งเล็กน้อย
แต่มันมีความหมายมหาศาลกับลูกๆ
ในแง่หนึ่ง ทุกเรื่องใน I Will See You Again! คือความทรงจำของคนแปลกหน้าถึงพ่อแม่ของพวกเขา แต่อีกมุมหนึ่ง
สิ่งที่หนังสือเล่มนี้สื่อสารคือเรื่องราวสากลที่สุด เพราะไม่ว่าจะเป็นใคร สุดท้ายเราก็คือลูกของคนคู่หนึ่ง
ความทรงจำของลูกๆ ในเล่มนี้จึงข้ามกำแพงภาษาและความแปลกหน้าต่อกันมาถึงใจเราง่ายดาย
ชวนให้นึกถึงความทรงจำสำคัญอุ่นๆ ของเรากับพ่อแม่ และเมื่อคิดไกลออกไปอีกนิด หนังสือเล่มนี้อาจย้ำเตือนให้รู้ว่าโชคดีที่ยังมีพ่อแม่อยู่ร่วมระลึกถึงและสะสมความทรงจำร่วมกัน
“I Will See You Again!” ศิลปินสาวทิ้งท้ายจดหมายถึงพ่อผู้ล่วงลับในหน้าท้ายสุดของหนังสือไว้แบบนั้น โชคดีที่เรายังไม่ต้องพูดคำนี้
ความยากง่ายในการอ่าน: เขียนด้วยภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ อ่านแล้วอินตามไม่ยากเลย
