ไม่งงจะงงมาก เมื่อปัญญาประดิษฐ์กลายเป็นน้ำมันงูรักษาทุกโรค

Highlights

  • AI (artificial intelligence) ได้กลายเป็น hype word หรือคำฮิตแห่งยุคสมัยที่ฟังดูเท่ๆ ล้ำๆ AI แปลงร่างเป็นคำทางการตลาดที่ใช้เพิ่มมูลค่า ใช้เสริมภาพลักษณ์ให้สินค้า บริการ บริษัท ช่วยเสริมความล้ำ ทันสมัย ดูน่าเชื่อถือ โดยดูไม่ได้เข้าใจข้อจำกัดของเทคโนโลยีนี้ว่าในยุคนี้ทำอะไรได้บ้าง
  • AI Snake Oil แปลว่า น้ำมันงูปัญญาประดิษฐ์ ปรากฏการณ์นำคำว่า AI ปัญญาประดิษฐ์มาแอบอ้างอย่างเลื่อนลอยว่ามีอภินิหารวิเศษเกินจริงแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง ด้วยความเชื่อมั่นศรัทธาในน้ำมันงูว่ารักษาได้ทุกโรค
  • สรุป How to ไม่ถูกหลอกจากคำว่า 'เอไอ' เพราะหุ่นยนต์ยังห่างไกลจากการทำได้ทุกสิ่ง ทำแทนได้ทุกคน

การแสวงประโยชน์จากคำฮิตหรือเทคโนโลยีที่มาใหม่นั้นเกิดมาแสนนาน และในยุคนี้ที่ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นและดูล้ำ ดูแพงไปกว่าคำว่า AI :p

AI (artificial intelligence) ได้กลายเป็น hype word หรือคำฮิตแห่งยุคสมัยที่ฟังดูเท่ๆ ล้ำๆ AI แปลงร่างเป็นคำทางการตลาดที่ใช้เพิ่มมูลค่า ใช้เสริมภาพลักษณ์ให้สินค้า บริการ บริษัท ช่วยเสริมความล้ำ ทันสมัย ดูน่าเชื่อถือ โดยดูไม่ได้เข้าใจข้อจำกัดของเทคโนโลยีนี้ว่าในยุคนี้ทำอะไรได้บ้าง เหมาะกับอะไร และไม่เหมาะกับอะไร ควรใช้แก้ปัญหาอะไร หากไม่รู้ก็อาจตัดสินใจผิดๆ

เมื่อได้ยินใครพูดถึง AI แบบเลื่อนลอย เราแอบยิ้มแห้งด้วยความฉงนบ่อยครั้ง ปัญญาประดิษฐ์กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์จากสวรรค์ที่แก้ไขได้ทุกปัญหาในโลกนี้ หุ่นยนต์รักษาทุกโรค ไม่ต่างจากน้ำมันงูวิเศษรักษาได้ทุกอาการตั้งแต่คัน ปวดเมื่อยทั่วไป ยันรักษามะเร็ง

 

AI Snake Oil น้ำมันงูตราหุ่นยนต์รักษาทุกโรค 

วันนี้เลยอยากแนะนำให้รู้จักคำว่า AI Snake Oil แปลว่า น้ำมันงูปัญญาประดิษฐ์ ปรากฏการณ์นำคำว่า AI ปัญญาประดิษฐ์มาแอบอ้างอย่างเลื่อนลอยว่ามีอภินิหารวิเศษเกินจริงแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง ด้วยความเชื่อมั่นศรัทธาในน้ำมันงูว่ารักษาได้ทุกโรค

Arvind Narayanan คือผู้ริเริ่มคำว่า AI Snake Oil เขาเป็นอาจารย์ Computer Science จากมหาวิทยาลัย Princeton เชี่ยวชาญด้านจริยศาสตร์ในปัญญาประดิษฐ์ เมื่อเราได้ยินคำนี้ก็อยากหยิบมาเล่า ชอบที่เอาน้ำมันงูมาเปรียบเทียบกับปัญญาประดิษฐ์

ย้อนกลับไป คนสมัยก่อนเคยโดนหลอกขายน้ำมันแร่ทากาย (mineral oil) โดยบอกว่าเป็นน้ำมันงู บรรเทาทุกอาการ รักษาได้ทุกโรค นั่นคือการโอ้อวดสรรพคุณพิสดารวิเศษเกินจริง เวลาผ่านไป เราอาจไม่หลงกลกับน้ำมันงูอีกต่อไป แต่เหล่าพ่อค้าน้ำมันงูก็ยังแสวงหาคำใหม่ๆ มาหากินเพื่อหลอกขายเราได้เรื่อยๆ 

ในประวัติศาสตร์ มนุษย์ตื่นตากับความก้าวหน้าที่มาใหม่โดยที่มวลชนทั่วไปยังไม่เข้าใจดีนักเสมอมา หลายเทคโนโลยีรวมทั้งปัญญาประดิษฐ์คือความก้าวหน้าอันน่าตื่นตาและน่าสรรเสริญอย่างแท้จริง แต่หลายบริษัทก็หากินกับความเข้าใจผิดและความเข้าใจยาก นำคำว่า AI มาเติมให้กับอะไรก็ได้ที่เขาอยากขาย อยากเพิ่มราคา แม้สิ่งนั้นจะทำงานไม่ได้จริงตามที่สัญญา และอาจส่งผลเสียมากกว่าดี

 

How to ไม่ถูกหลอกจากคำว่า ‘เอไอ’ เพราะหุ่นยนต์ยังห่างไกลจากการทำได้ทุกสิ่ง ทำแทนได้ทุกคน

Narayanan เห็นปรากฏการณ์ AI Snake Oil บ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรม สังคม และความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นจริง หลายบริษัทนำ AI มาแอบอ้างอย่างเลื่อนลอยเพื่อขายของ หลอกชาวบ้านตาใสอย่างเราที่ยังไม่เข้าใจกลไกที่ซับซ้อนและข้อจำกัดของเทคโนโลยี

เขาเลยเขียนสรุปไกด์ไลน์ How to recognize AI snake oil คู่มือวิธีการแยกแยะน้ำมันงูตราเอไอกำมะลอ เพื่อช่วยเราประเมินตัวเลือกได้ดีขึ้น แน่นอนว่ามีข้องดเว้นหรือมีสาขาอีกมากที่ไม่ได้หยิบมาพูดถึง สรุปคร่าวๆ ดังนี้

1. AI ประเภทการรับรู้ ภาพรวมของประเภทนี้คือ ก้าวหน้ารวดเร็ว เป็นที่ยอมรับแพร่หลาย เนื่องจากทำได้แม่นยำและรวดเร็วกว่าคน หากมีข้อมูลมากพอ ปัญญาประดิษฐ์จะสามารถเรียนรู้แพตเทิร์นได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำขึ้นเรื่อยๆ และมีประเด็นที่น่าเป็นห่วงจากความแม่นยำและจริยธรรมการนำไปใช้

  • content identification ระบุตัวตนของคอนเทนต์ การหาชื่อเพลงผ่านเสียง เช่น shazam และการเสิร์ชภาพด้วยภาพ
  • medical diagnosis from scans การวินิจฉัยโรคผ่านภาพสแกน
  • speech to text การแปลงเสียงพูดให้เป็นข้อความ
  • face recognition การระบุตัวตนด้วยใบหน้า  
  • deepfakes การสร้างภาพเคลื่อนไหวบุคคลปลอมขึ้นมา

 

2. AI ประเภทตัดสินใจอัตโนมัติ ห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบแต่กำลังพัฒนา อาจช่วยกรองเบื้องต้น ช่วยลดงานคน และทำงานร่วมกับคนได้

  • spam detection ตรวจจับสแปม
  • detection of copyrighted material ตรวจจับคอนเทนต์ผิดลิขสิทธิ์ 
  • automated essay grading ตรวจคะแนนเรียงความอัตโนมัติ
  • hate speech detection ตรวจจับ hate speech
  • content recommendation แนะนำคอนเทนต์

 

3. AI ประเภททำนายตัดสินใจซับซ้อน ควรสงสัยเป็นพิเศษเพราะห่างไกลจากความแม่นยำและมีผลร้ายทางจริยธรรมหากผิดพลาด สิ่งเหล่านี้ยากเพราะเราทำนายอนาคตไม่ได้ และยังเป็นจริงอยู่ ดังนั้นควรระมัดระวังการนำ AI มาใช้เป็นพิเศษ

  • predicting criminal recidivism คาดเดาแนวโน้มการเป็นอาชญากรที่จะทำผิดซ้ำๆ
  • predicting job performance ทำนายสมรรถภาพการทำงาน
  • predictive policing การออกตรวจพื้นที่โดยคาดการณ์ล่วงหน้า
  • predicting terrorist risk ทำนายความเสี่ยงเป็นผู้ก่อการร้าย
  • predicting at-risk kids ทำนายเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะไม่ประสบความสำเร็จ

 

จะเห็นได้ว่าจุดอ่อนของปัญญาประดิษฐ์คือความแม่นยำ รวมทั้งผลเสีย ความไม่ยุติธรรม ความเสี่ยงที่ตามมาจากความไม่แม่นยำ และผลร้ายในเชิงจริยธรรม เช่น การตัดสินอาชญากร หรือการคาดเดาผู้ก่อการร้าย และทำนายความสามารถในการทำงานในอนาคต

AI นั้นเหมาะและทำได้ดีแค่ในบางหน้าที่เท่านั้น แต่คาดเดาผลลัพธ์ทางสังคมและชีวิตมนุษย์ที่ซับซ้อนยังไม่ได้ เราต้องขัดขืนต่อคนที่อยากขายของและปิดบังความจริงนี้ ทำให้เราตื่นตาเกิดเหตุจากความไม่รู้ เพราะในหลายๆ ครั้ง การให้คะแนนด้วยคนอาจถูกต้อง แม่นยำ โปร่งใส และอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

นอกจากนี้หลายคนยังสับสนระหว่างการทำงานอัตโนมัติ (Automation) กับปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) การทำอัตโนมัติ มักเป็น task ที่ไม่ซับซ้อน ดีกับการจัดการทั่วไป ช่วยให้งานง่ายๆ ซ้ำๆ สบายขึ้น แต่ AI นั้นใช้กับงานขั้นตอนที่ต้องตัดสินใจซับซ้อนกว่า AI ไม่ได้ขึ้นกับกฎที่คนเขียนให้ แต่เรียนรู้จากข้อมูลที่เราบรรจุให้ระบบเรียนรู้ ซึ่งเลียนแบบการเรียนรู้ของสมองของมนุษย์

 

ยิ่งเอไอที่ไม่เวิร์กและส่งผลกระทบกับเราได้ทุกเมื่อ เรายิ่งต้องช่างใจให้หนัก

แน่นอนว่าหากเราไม่ได้ทำงานสายเทคโนโลยี ไม่ได้คิดจะทำงานด้านหุ่นยนต์หรือคอมพิวเตอร์ อ่านหรือเขียนโค้ดไม่เป็นสักบรรทัด เราไม่ต้องเข้าใจกลไกการทำงาน AI โดยละเอียด แต่ควรมีความรู้พื้นฐานมากพอเพื่อแยกแยะว่า AI ที่มีคนขายให้เรานั้นน่าเชื่อไหม

ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์คัดกรองเคนดิเดตผู้สมัครงาน ซึ่งแอบอ้างว่าเป็นระบบ AI ที่สามารถประเมินผู้สมัครได้ว่าเหมาะสมไหมผ่านวิดีโอสั้นๆ ความยาว 30 วินาที แถมบอกนิสัยใจคอได้ละเอียดหากใช้คอมมอนเซนส์คนทั่วไป มองดูก็รู้ว่าเหลือเชื่อเกินไป เป็นไปไม่ได้ที่เราจะบอกนิสัยใครได้ละเอียดผ่านภาพเคลื่อนไหวสั้นๆ ผู้เชี่ยวชาญ AI ก็เห็นด้วยว่าทำไม่ได้จริง เลขคะแนนที่ออกมาเลยเป็นแค่เลขสุ่มหลอกๆ

หากเชื่อมั่นในพลังความฉลาดไร้ของปัญญาประดิษฐ์มากไปโดยไร้ความเข้าใจ เราอาจกลายเป็นคนที่โดนหลอกได้ง่าย ยิ่งฟังพรีเซนต์เทชั่นและคำใหญ่ๆ จากคนที่ดูทันสมัยเชี่ยวชาญกว่าเรา เราและผู้วางแผนนโยบาย ผู้จัดการฝั่ง HR อาจโดนต้มตุ๋นได้ง่ายๆ และพึ่งพาให้หุ่นยนต์ตัดสินใจแทนในสิ่งที่ยังทำไม่ได้

เรื่องน่าเศร้าคือ บริษัทเหล่านี้สามารถหลอกเงินนักลงทุนได้มากมาย กอบโกยจากเทคโนโลยีที่มาแรง ระบบที่ผู้สมัครงานถูกคัดกรองโดยระบบ AI หลอกๆ ไม่แม่นยำ ก่อปัญหากับทุกคน ทั้งกับผู้สมัครงานที่ต้องเสี่ยงโชคกับระบบที่ไม่เที่ยง นักลงทุนที่เทเงินให้กับเทคโนโลยีที่เป็นไปไม่ได้ และบริษัทที่ซื้อบริการระบบราคาแพงเหล่านี้ไปใช้โดยไม่เข้าใจ ได้พนักงานที่โดนระบบสุ่มมา เสียเงินซื้อบริการที่ไม่เวิร์กโดยใช่เหตุ และที่สำคัญ ส่งผลเสียกับวงการปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกเข้าใจผิด ถูกคาดหวังผิดๆ เป็นอุปสรรคกับความก้าวหน้าที่แท้จริง

มีคำแนะนำการสมัครงานสมัยใหม่ บางคนบอกให้แอบซ่อนคำว่า Oxford หรือ Cambridge มหาวิทยาลัยชั้นนำ ด้วยเทกซ์สีขาวในเรซูเม่และ CV เพื่อให้ผ่านการระบบคัดกรองใบสมัครงานอัตโนมัติ ฟังดูเป็นโลกดิสโทเปียเหลือเกิน หากเราต้องทำสิ่งที่ไม่มีความหมายเพื่อให้เอาใจหุ่นยนต์ให้พึงพอใจและให้เราผ่าน หากเราต้องแข่งขันกันผ่านเกณฑ์ที่ไม่เที่ยงแท้แม่นยำที่ถูกไว้ใจเกินไป

ยิ่ง AI เริ่มจะเข้ามามีบทบาทกับสังคมแพร่หลายขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะเราประชาชน อาจถูกตัดสินผิดๆ ถูกทำนายผิดๆ หรือถูกจับผิดจาก AI โดยไม่รู้ตัวก็ได้ แต่สิ่งนี้ได้เกิดขึ้นจริงแล้วในปัจจุบัน และเป็นสิ่งที่เราต้องระวังช่วยกันสอดส่อง

เราต่างรู้สึกหวั่นกลัว รู้สึกสะเทือนที่จะถูกตัดสิน รู้สึกเหมือนจะถูกแทนที่ด้วย AI ได้ทุกเมื่อ ยุคของปัญญาประดิษฐ์ที่กำลังมา มีความก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หุ่นยนต์กำลังมาแทนที่อะไรหลายๆ อย่าง เปลี่ยนแปลงชีวิต การเรียน ตลาดและแรงงาน แต่แนวคิดจำนวนมากยังใช้ไม่ได้จริง ยังมีความไม่รู้ มีความเข้าใจผิดๆ และมีผลกระทบตามมาที่ต้องศึกษาทำความเข้าใจกันต่อไปอีกมาก

หากเชื่อในพลังของเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลก เราต้องเข้าใจเสียก่อน และหากยิ่งไม่เชื่อ ไม่ไว้ใจ ยิ่งต้องเข้าใจเพื่อไม่ให้โดนหลอก ครั้งต่อไปหากมีใครเอาคำว่า AI มาขาย ตั้งใจให้เราตื่นตา ตื่นใจ ตื่นเต้น เราอาจต้องเอะใจ หรี่ตาสักสามวินาที สงสัยว่าสิ่งที่เขาเสนอนั้นทำได้จริงมากแค่ไหน

อย่าให้คนในอนาคตมองกลับมาแล้วเขาต้องหัวเราะให้กับความศรัทธางมงายเกินจริง เพราะน้ำมันงูตรา AI ยังรักษาไม่ได้ทุกโรค ยังไม่ฉลาดวิเศษมหัศจรรย์ไร้ข้อจำกัดอย่างที่เราหวัง :p

 

อ้างอิง

AI: the snake oil of the 21st century

How to recognize AI snake oil [pdf]

AUTHOR

ILLUSTRATOR

ploypuyik

ทำงานกราฟิก ชอบทำงานภาพประกอบ และจริงๆ แล้วชอบเล่าเรื่องด้วยค่ะ