Nova Contemporary : แกลเลอรีร่วมสมัยที่เชื่อในความหลากหลายของวัฒนธรรมและไอเดีย

คุณใช้เวลาว่างในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ไหน ถ้าไม่ใช่นอนพักผ่อนอยู่บ้าน ห้างสรรพสินค้าหรูใจกลางเมืองน่าจะเป็นคำตอบแรกและคำตอบฮิตของคนเมืองหลวงที่ชีวิตไม่มีทางเลือกมากไปกว่าเดินเล่นซื้อสินค้าใหม่ๆ เข้าบ้าน หามื้ออาหารดีๆ ทาน หรือนัดสังสรรค์ปาร์ตี้กับเพื่อน แต่เราเชื่อว่ากรุงเทพฯ ยังมีสถานที่ดีๆ ให้เราออกไปเติมเต็มแรงบันดาลใจและเพิ่มพูนไอเดียเพื่อความสำเร็จของตัวเองมากกว่านั้น

ถึงแวดวงศิลปะบ้านเราอาจไม่คึกคักเท่ากับประเทศอื่นๆ แต่ต้องยอมรับว่าระยะหลังมานี้ แทบทุกสุดสัปดาห์เราจะได้ข่าวนิทรรศการศิลปะเปิดใหม่ตามหอศิลป์ แกลเลอรี่ หรือพิพิธภัณฑ์ ที่กระจายตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นผลงานของศิลปินชาวไทยหรือศิลปินต่างชาติ ความคึกคักของกลุ่มศิลปิน คนทำงานศิลปะ และภัณฑารักษ์ ทำให้แกลเลอรี่เล็กๆ เหล่านี้เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เราอยากเชิญชวนทุกคนมาลองทำความรู้จักและใช้เวลาสัมผัสดู

Nova Contemporary แกลเลอรี่ใหม่ใจกลางเมืองย่านราชดำริที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา คือตัวอย่างของพื้นที่ศิลปะที่น่าจับตามองที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะในระยะเวลาปีกว่า พื้นที่นี้จัดแสดงงานจากศิลปินชื่อก้องโลกมาแล้ว ทั้งนิทรรศการเปิดตัวแกลเลอรี่ TODAY IS THE DAY: The Proposition of our Future ที่มีงานศิลปะที่สะท้อนผลกระทบของระเบิดนิวเคลียร์ในประเทศญี่ปุ่นของศิลปินแดนปลาดิบชื่อดัง โยชิโมโตะ นาระ (Yoshimoto Nara) ร่วมจัดแสดง หรือผลงานภาพถ่ายของคริส เลวีน (Chris Levine) ช่างภาพชาวอังกฤษที่มีผลงานถ่ายภาพควีนอลิซาเบธที่ 2 ที่หาชมได้ยาก

จุนโกะ-สุทธิมา สุจริตกุล Founder และ Director ของ Nova Contemporary คือตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่ได้เดินทางไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในแวะดวงศิลปะระดับโลกกว่า 10 ปีจนได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังกลับมาผลักดันวงการศิลปะบ้านเราให้คึกคักและก้าวไปข้างหน้า เหตุผลสำคัญที่เธอกลับมาคืออะไร และเธอวาดหวังอะไรกับวงการศิลปะบ้านเรา

อ่านคำตอบของเธอแล้ว น่าจะรู้ใช่ไหมว่าเสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้ เราอยากชวนทุกคนไปที่ไหนกัน

จุดเริ่มต้นของ Nova Contemporary เกิดขึ้นได้อย่างไร
เราชื่นชอบงานศิลปะมาตั้งแต่เด็ก จนมีโอกาสได้ไปเรียนต่อปริญญาตรีด้านแฟชั่นและต่อปริญญาโทด้านเอเชียนอาร์ตที่ลอนดอน แต่การเรียนเหล่านี้มีเนื้องานที่ต้องค้นคว้าข้อมูลงานวิจัยเก่าๆ ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องการ เราสนใจศิลปะร่วมสมัย (Contemporary Art) มากกว่า เพราะระหว่างที่ชมงานจะได้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเจ้าของผลงานด้วย หลังเก็บประสบการณ์มา เราก็ได้มีโอกาสฝึกงานที่พิพิธภัณฑ์ The Metropolitan Museum of Art (The MET) ที่นิวยอร์ก จนเกิดแรงบันดาลใจที่จะเปิดแกลเลอรี่ศิลปะร่วมสมัยระดับนานาชาติที่เมืองไทย เราอยากเผยแพร่ผลงานและความรู้เกี่ยวกับศิลปะร่วมสมัยให้กับเยาวชนทั่วไป เป็นพื้นที่ให้คนได้มาแชร์ไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ และร่วมผลักดันให้ศิลปินไทยก้าวไกลไประดับโลก

Nova Contemporary เป็นสถานที่ที่รวบรวมงานศิลปะแบบต่างๆ ไว้มากมาย เราไม่จำกัดตัว Medium ของผลงาน ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ภาพถ่าย งานมัลติมีเดีย ประติมากรรม หรืออินสตอลเลชันอาร์ต เรามองว่าตอนนี้เป็นโอกาสเหมาะที่ศิลปะร่วมสมัยจะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ในไทย เสน่ห์ของงานศิลปะร่วมสมัยไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามจรรโลงใจ แต่ยังมีประโยชน์ในการกระตุ้นความคิดและอารมณ์ความรู้สึกได้ด้วย

ในฐานะคนทำแกลเลอรี่ วิสัยทัศน์ที่จุนโกะอยากถ่ายทอดผ่านผลงานศิลปะที่เลือกมาจัดแสดงคืออะไร
เราอยากผลักดันศิลปินที่มีความสามารถให้มีพื้นที่แสดงผลงาน หน้าที่ของเราคือทำให้ศิลปินที่เราเชื่อมั่นในตัวเขาประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงทั้งในไทยและต่างประเทศ เราเชื่อว่าความสำเร็จของแกลเลอรี่กับศิลปินต้องเติบโตไปด้วยกัน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงเลือกทำสิ่งที่แตกต่างจากที่อื่นๆ เช่น ผลงานของศิลปินชิ้นที่เราเลือกมาจัดแสดงอาจจะเป็นงานที่แตกต่างจากที่ทุกคนคุ้นเคย เขาอาจทำงานเพนติ้งมาเยอะ แต่เราอยากแสดงผลงานภาพถ่ายของเขาให้ผู้ชมได้เสพในสิ่งที่ต่างออกไป

ส่วนศิลปินไทย เราอยากเลือกงานที่เป็นสากลในตัว เป็นผลงานที่มีจุดร่วมให้คนต่างชาติต่างวัฒนธรรมเข้าใจและชื่นชมได้ อย่างปีนี้เรามีธีมว่าจะจัดแสดงผลงานของศิลปินหญิงชาวไทย เนื่องจากส่วนใหญ่ผลงานที่ได้รับความนิยมมักจะเป็นผลงานของศิลปินชาย เราเลยอยากผลักดันให้งานของศิลปินหญิงได้แสดงบ้าง เพราะผลงานที่เราคัดเลือกมาก็ล้วนมีคุณภาพ อยากให้ผู้ชมเข้ามาเห็นศักยภาพและเป็นกำลังใจให้ศิลปินผลิตงานดีๆ ต่อไป

เท่าที่สังเกต ผลงานที่จัดแสดงใน Nova Contemporary มักจะหลากหลายและมีการผสมผสานทางวัฒนธรรมสูงมาก คิดว่าตรงนี้เป็นจุดเด่นของแกลเลอรี่หรือเปล่า
เราอยู่ต่างประเทศมานานทำให้ได้ไปพิพิธภัณฑ์ นิทรรศการศิลปะ และแกลเลอรี่ต่างๆ เป็นร้อยๆ ครั้ง เราได้สัมผัสความหลากหลายของวัฒนธรรม ความร่วมสมัย และได้พาตัวเองไปดูในสถานการณ์ที่เกิดการ cross culture ที่หลากหลายได้อย่างแนบเนียน เราจึงได้เห็นว่าแต่ละวัฒนธรรมนั้นแตกต่างหรือใกล้เคียงกันอย่างไร การตีความเมสเสจของผลงานก็แตกต่างกัน ตรงนี้เปลี่ยนมุมมองเราไปอีกด้านให้ก้าวล้ำขึ้น จุนโกะมองว่าการ cross culture ทำให้เกิดส่วนผสมใหม่ๆ ที่เฉพาะตัวและมีคุณค่ามากขึ้น พื้นที่ที่ดีที่สุดไม่จำเป็นต้องใหญ่ แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่ความแตกต่างอยู่ด้วยกันได้ ทำให้เกิดการแชร์ไอเดียกันได้

แสดงว่าเรื่องพื้นที่จัดแสดงผลงานอาจไม่ได้สำคัญที่สุด
สำหรับเรา ขนาดของพื้นที่ไม่เคยเป็นปัญหาในการทำงานเลย Nova Contemporary มีขนาดเพียงแค่ 128 ตารางเมตร แต่สามารถจัดแสดงงานต่างๆ และถ่ายทอดการเล่าเรื่องในแบบที่เราต้องการได้ จุนโกะต้องการเพอร์เฟกต์สเปซที่อยู่ใจกลางเมือง มีความหลากหลายของวัฒนธรรมผสมผสานกันอยู่ รวมไปถึงอยู่ในโลเกชันที่ดี เพราะสำหรับคนทำงาน ถ้าโลเกชันของเราไม่ได้อยู่ใจกลางเมือง ต่อให้งานของเราดีแค่ไหน ถ้าคนไม่เห็นก็จะไม่เกิดอิมแพ็คอย่างที่เราต้องการ ดังนั้นถึงพื้นที่จะไม่ใหญ่ แต่ความสำคัญอยู่ที่สถานที่นั้นต้องมีคนรุ่นใหม่ทั้งคนไทย คนต่างชาติมาแชร์ไอเดียกัน เกิดกิจกรรมให้ผู้คนได้เข้ามามีส่วนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แม้จะมาจากต่างวัฒนธรรม ต่างวัยกันก็ตาม

ถ้าลองถอดรหัสการทำงานแกลเลอรี่มา คิดว่าความสำเร็จของ Nova Contemporary เกิดขึ้นจากอะไร
เราถูกสอนจากครอบครัวมาว่าการเป็นนักเรียนอย่างเดียวไม่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้ ตัวเราเองเลยลองไปฝึกงานตั้งแต่อายุ 16 ปี เวลาที่เราทำงานกับคนที่โตกว่าทำให้ความคิดของเราก้าวล้ำไปกว่าคนวัยเดียวกัน เราเชื่อว่าถ้าเรานำตัวเองไปอยู่ในจุดที่ถูกต้อง ไปอยู่ในศูนย์กลางของสิ่งที่เราสนใจและพร้อมจะทุ่มเท ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกล การที่เราติดต่อนำผลงานศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาจัดแสดงได้ เพราะเราแชร์วิสัยทัศน์ให้เขาเห็นว่าแกลเลอรี่ของเรามีส่วนผลักดันวงการศิลปะอย่างไร
และเขาจะได้รับมุมมองใหม่ๆ กลับไปจากผู้ชมงานของเราได้อย่างไร เมื่อเราก้าวเข้าไปในวงการได้แล้ว เราก็ต้องทำงานควบคู่ไปกับวิสัยทัศน์และแผนการที่ดี นี่คือสิ่งที่จะช่วยให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จในการทำงานที่เรารัก

ค้นหาพื้นที่แห่งการสร้างความสำเร็จสำหรับคนรุ่นใหม่กันที่
Life Condominium เข้าใจความฝันและเป้าหมายของคนเมืองและพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจ
จากฟังก์ชันที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ๆ ภายใต้แนวคิด Platform of
Success ด้วยนวัตกรรมเพื่อให้ชีวิตการทำงานและอยู่อาศัยหลอมรวมกันได้อย่างลงตัว

ล่าสุดกับโครงการ Life Asoke-Rama 9 ออกแบบทุกแนวคิดให้ชีวิตล้ำหน้า แตกต่างด้วยมุมมองที่เหนือกว่า และออกแบบพื้นที่ส่วนกลางด้วยความเข้าใจมิติของการพักผ่อนที่ลึกซึ้ง บนทำเลศูนย์กลางแห่งความสำเร็จที่เป็น Financial District แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร อโศก-พระราม 9 เปิดจอง Pre-sale ที่สำนักงานขายวันที่ 11-12 พฤศจิกายนนี้ ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 300,000 บาทที่ goo.gl/MH21sm

www.platformofsuccess.com

AUTHOR