เคยไหม
บางครั้งเราแค่อยากอยู่คนเดียว ให้เวลากับตัวเองได้พูดคุยกับตัวเองถึงสิ่งต่างๆ
ร้อยแปดพันเก้าที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา
อยู่ดีๆ
เราก็รู้สึกแบบนั้นอยู่สองสามสัปดาห์ นั่งคิดวนไปเวียนมาว่าทำไมอยู่ดีๆ ถึงหมดแรงบันดาลใจและพลังในการทำอะไรหลายๆ
อย่างไปซะเฉยๆ ถึงรู้ว่าได้เวลาออกไปเที่ยวคนเดียวสักครั้ง
ตอนนี้เรามาเรียนภาษาอยู่ที่เมืองแทจอน
เมืองที่ทุกคนบอกว่าเป็นเมืองที่ไม่มีอะไร แสงสีไม่ฉูดฉาดเหมือนโซล
ไม่มีทะเลให้ตื่นตาตื่นใจแบบปูซาน ธรรมชาติไม่ปังแบบเกาะเชจู แต่ถึงอย่างนั้น
แทจอนก็ยังเต็มไปด้วยภูเขาเล็กภูเขาน้อย
และขึ้นชื่อมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ทำให้เหล่าบรรดาคนเกาหลี
ผู้ชื่นชอบการปีนเขาเป็นชีวิตจิตใจต้องมาเยี่ยมเยือน
แล้วคนที่อาศัยอยู่ในเมืองแทจอนอย่างเราจะเมินของดีใกล้ตัวได้ยังไง ใกล้ก็ใกล้
ค่ารถก็ไม่แพง (เพราะแค่นั่งบัสในเมืองธรรมดาก็ไปถึงได้)
คงไม่มีที่ไหนจะเหมาะกับเด็กทุนขี้งกอย่างเราเท่าการไปปีนเขาใกล้ๆ แบบนี้แล้วล่ะ
ภูเขาที่เราเลือกไปปีนรอบนี้เป็นภูเขาเตี้ยๆ
ตามกำลังสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยได้ออกแรง เพราะถ้าจะไปคนเดียว
ให้ไปปีนแบบสมบุกสมบันมากก็เกรงว่าทริปจะล่มกลางทาง ‘ชังแทซาน’ ที่อาจารย์เกาหลีแนะนำ เพราะปีนง่าย
คนไปเยอะและ ‘สวยมากช่วงใบไม้เปลี่ยนสี’ เลยกลายเป็นตัวเลือกที่ไร้คู่แข่ง
หลังนั่งบัสหลง
ผสมกับรถบัสมาช้าจนทำให้วิตกจริตว่าตัวเองลงรถผิดป้ายอยู่ชั่วโมงนิดๆ
เราก็มาถึงชังแทซานในที่สุด เอาจริงๆ ชังแทซานไม่ใช่ภูเขา
แต่เป็นป่าปลูกในหุบเขาที่สร้างมาเพื่อเป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจให้คนเมืองแทจอน
แบ่งเป็นโซนต้นแปะก๊วยและต้นสนไซปรัส รอบๆ เป็นภูเขาตามธรรมชาติ
มีหอสังเกตการณ์และบ้านพักให้เข้าพักได้ตามอัธยาศัย
เราเดินตามคนเกาหลีกลุ่มใหญ่ไปจนถึงส่วนที่เอาไว้นั่งพักและให้อาหารปลาคาร์พ
แอบมองป้ายบอกทางเลยรู้ว่ามีหอสังเกตการณ์ที่เปิดให้ขึ้นไปชมวิวด้วย
เลยอาศัยภาษาเกาหลีที่เรียนมาแบบลุ่มๆ ดอนๆ อ่านป้ายบอกทางและอาศัยเดาเอา ไปๆ มาๆ
เดินจนไม่มีทางให้เดินและเกือบหลงไปบนปีนเขาลูกอื่นแทน
ดีที่จีพีเอสช่วยชีวิตไว้ได้ทัน ตอนหลังเลยตัดสินใจตามอาจุมม่าเกาหลีไป สุดท้ายก็ได้ดูวิวจากหอสังเกตการณ์สมใจอยาก
วันนั้นทั้งวัน เราแค่เดินไปเดินมารอบๆ
สวนป่าปลูก ถ่ายรูป นั่งเขียนโปสการ์ด นั่งคุยกับตัวเองผ่านการเขียนไดอารี่
ต่อให้เขาบอกกันว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมยังไง
บางครั้งเรายังต้องการเวลาที่จะอยู่กับตัวเอง พูดคุยกับตัวเองอย่างจริงใจ
ทบทวนความรู้สึก จัดการความคิดที่มันซับซ้อนและให้ตัวเองให้หนีออกมาจากวงจรชีวิตประจำวันเดิมๆ
เพื่อออกไปผจญภัย
อากาศเย็นสดชื่นและผืนป่าที่ชุ่มชื้นในวันนั้นทำให้สภาวะว้าวุ่นใจของเราสงบลงได้อย่างน่าประหลาด
แถมยังช่วยให้เราได้ชาร์จแบตตัวเองไปด้วยในตัว มิน่าล่ะ เขาถึงบอกกันว่า ณ
จุดหนึ่งมนุษย์ต้องหวนกลับไปสู่ธรรมชาติ
ก่อนกลับหอพัก
เราเดินผ่านพื้นที่ที่แบ่งส่วนไว้ให้นั่งปิกนิก คนเกาหลีบางคนนอนแผ่บนม้านั่ง
ทอดอารมณ์ดูยอดต้นสน เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เราเลยเอาบ้าง
ช่วงที่นอนแผ่ลงไปเราก็นอนร้องเพลงให้ตัวเองฟัง ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่เมื่อเพลงจบ เรารู้สึกว่าความรู้สึกหนักอกหนักใจบางอย่างได้ถูกวางลงแล้ว
นี่ล่ะมั้ง ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ
Jangtae-san
Address: Jangtae-san,
Daejeon, Republic of Korea
Info: english.visitkorea.or.kr/enu/ATR/SI_EN_3_1_1_1.jsp?cid=616253
Hours: ไฮไลต์คือช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
หรือถ้าอยากเห็นใบไม้เขียวๆ ฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อนก็น่าสนใจ แต่ไม่แนะนำฤดูหนาว
เพราะค่อนข้างลื่นและบริเวณที่ชันจะเดินยากพอสมควร
Map:
ใครอยากส่งเรื่องที่น่าเที่ยวมาลงเว็บไซต์ a day online คลิกที่นี่เลย