“ชีวิตคือการเต้นรำ” ด้วง-ดวงฤทธิ์ บุนนาค

ถึงอาชีพที่ ดวงฤทธิ์ บุนนาค กรอกในแบบฟอร์มต่างๆ
จะเป็นสถาปนิกมาตั้งแต่เรียนจบ แต่ 2 – 3 ปีให้หลัง เรามักเห็นเขากระโดดไปร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะต่างๆ
ทั้งตอนที่มีข่าวว่า ครม. จะยุบศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบ (TCDC) หรือล่าสุดกับโครงการทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาความยาวกว่า
14 กิโลเมตรที่ดวงฤทธิ์คัดค้านมาตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้ที่ยังไม่มีข้อสรุป

การตัดสินใจออกมาตั้งบริษัทสถาปนิกของตัวเองในปี
2541 ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ถึงขีดสุดและมีเงินติดตัวอยู่เพียง 300,000 บาท
จากคนทำงานแค่ 3 คน วันนี้ บริษัท ดวงฤทธิ์ บุนนาค จำกัด มีพนักงานกว่า 50 คน
ยังไม่นับรวมธุรกิจเกินสิบที่เขาจับมือกับพาร์ตเนอร์ที่คุยกันถูกคอ แล้วชวนมาผลักดันให้
The Jam Factory เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ที่คึกคักที่สุดในเวลานี้ของกรุงเทพฯ

ดวงฤทธิ์บอกเราว่า ทั้งหมดนี้เริ่มมาจากประโยคเดียวที่เขายึดตลอดมา ‘ชีวิตคือการเต้นรำ’

“เวลาเต้นรำ
คุณก็ไม่ได้คิดอะไรมากใช่ไหม คุณแค่เต้นไป มีความสุขกับมันไม่ว่าคู่เต้นจะเป็นใคร เจ้านาย
ลูกค้า แฟนเก่า คุณก็เพลิดเพลินไปกับมันได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรกับชีวิตคุณมันก็โอเค ผมอยู่มา
50 ปีแล้ว ไม่มีเรื่องไหนที่ผมเสียใจอยากกลับไปแก้ไขเลย ทั้งเรื่องงาน
ความสัมพันธ์ แม้แต่ตอนพ่อเสียผมก็โอเค ชีวิตเป็นไปของมัน อะไรที่เกิดขึ้นแล้วคุณก็ยุ่งกับมันไม่ได้
มันไร้สาระที่จะกลับไปพูดคุยกันเรื่องอดีต

“ผมไม่เคยมีมาสเตอร์แพลนว่าปีไหนต้องทำอะไรบ้าง
บริษัทของผมเริ่มจากคน ไม่ใช่วัตถุประสงค์ เราเจอคนที่น่าสนใจ จับคู่เอาไอเดียสร้างสรรค์ไปทำงานร่วมกับเขา
ผมก็แดนซ์ไปเรื่อยๆ แบบนี้ อาศัยวิธีใช้เพื่อนเยอะ ไม่ได้เก่งคนเดียวอะไร สิ่งที่ผมทำก็แค่ทำงานตรงหน้า
หาเงินได้ก็มาลงทุนสร้างโปรเจกต์ใหม่ๆ คลุมธุรกิจสร้างสรรค์ให้หมด เพราะเรามองเห็นว่ามันมีอนาคตที่เป็นไปได้รออยู่
และเชื่อว่าจะมีคนอีกเยอะแยะเลยเข้ามาร่วมกับเรา มันเหมือนการปีนเขาที่ไม่มียอด ยิ่งปีนสูงขึ้นเรื่อยๆ
คุณก็ยิ่งเห็นวิวที่สวยขึ้นไปอีก แต่ถามว่าจะไต่ไปถึงไหน ไม่รู้หรอก
เพราะบางทีมันไม่เกี่ยวกับยอดที่จะไป แต่เกี่ยวกับว่าเราได้เห็นอะไร ผมว่านี่แหละคือความเพลิดเพลินของชีวิต”

“ผมไม่เชื่อเรื่องการแบกเป้ออกไปดูโลกกว้างค้นหาตัวเอง
ไม่มีหรอกตัวตนที่คุณต้องไปค้นหา มีแต่ตัวตนที่คุณต้องสร้างขึ้นมา นั่งแล้วเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง
คิดว่าฉันจะทำสิ่งนี้ และจะทำให้สำเร็จ
ผมคิดอย่างนั้นตั้งแต่วันแรกที่เรียนจบว่าผมจะเป็นสถาปนิกคนไทยที่คนรู้จักไปทั่วโลก
และตอนนี้คนรู้จักผมไปเกือบ 1 ใน 3 ของโลกแล้ว” สถาปนิกหนุ่มใหญ่ที่เพิ่งได้รางวัล
Building of the Year จากเวทีประกวดสถาปัตยกรรมแห่งเอเชีย ARCASIA Award มาหมาดๆ
บอกกับเรา

“ดนตรีของผมเป็นดนตรีแจ๊ซ อาจจะเต้นยากนิดหน่อย
ไม่ใช่ออร์เคสตราที่เขียนตัวโน้ตเรียงไว้อย่างเหมาะเหม็ง ผมรู้แค่คีย์คร่าวๆ
แล้วก็เคลื่อนไหวไปกับมัน ถ้าไปต่อได้ก็ไป ไปไม่ได้ก็ย้อนกลับมา
ชีวิตมันคือการด้นนั่นแหละ”

ภาพ ชนพัฒน์ เศรษฐโสรัถ

AUTHOR