10 ร้านกาแฟที่เปลี่ยนฤดูหนาวในโซลให้อบอุ่น

โซลคือเมืองที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แต่สำหรับแฟนพันธุ์แท้เกาหลีโซลคือปลายทางของความหลงใหลในวัฒนธรรมป๊อป ตั้งแต่สถาปัตย์ สิ่งพิมพ์ หนัง ซีรีส์ หรือเพลง และที่โดดเด่นไม่แพ้ใครคือวัฒนธรรมการกิน-ดื่มสุดเหวี่ยง แน่นอนเราเหมาเอากาแฟและคาเฟ่รวมเข้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มาโซลครั้งนี้เราตั้งใจแน่วแน่ว่าจะดื่มกาแฟให้สดชื่นตื่นเต็มตา แล้วทิ้งตัวลงนั่งเอนกายพักผ่อนให้หนำใจ

ฤดูหนาวนี้อากาศในโซลเย็นจนติดลบ หากได้อิงแอบในคาเฟ่อุ่นๆ ที่ไม่ได้อุ่นแค่ฮีตเตอร์ แต่อบอุ่นเพราะผู้คน รสชาติ บทสนทนา รวมถึงความมีชีวิตชีวารอบตัว เพียงแค่นี้ชีวิตอันว้าวุ่นก็คงได้รับการเยียวยาไม่น้อย 

r.about (아러바우트 한남동)
Hannam Branch

r.about คือคาเฟ่ขนาดกะทัดรัดและมีบรรยากาศเป็นกันเองที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านอีแทวอน จุดเด่นของคาเฟ่ไซส์เล็กนี้คือการที่เจ้าบ้านเนรมิตเรือนโบราณหลังน้อยสไตล์โลคอลให้กลายเป็นคาเฟ่ลอฟต์ดิบเท่ที่เปิดไฟสีส้มสลัวชวนให้รู้สึกถึงการพักผ่อนอย่างแท้จริง

สถาปัตยกรรมเรียบๆ ของคาเฟ่แห่งนี้โดดเด่นเพราะปูนเปลือยสีเทา บางจุดเผยให้เห็นเหล็กเส้นที่เป็นเค้าโครงของบ้านโผล่ออกมาทักทายผู้มาเยือน บริเวณด้านในติดกระจกขนาดใหญ่ มองออกไปเห็นลานสวนขนาดเล็กที่ทำให้รู้สึกโปร่งตา ถ้าโชคดีบางช่วงบาริสต้าจะปล่อยเจ้าหมาตัวเล็กหน้าตาน่ารักออกมาวิ่งเล่นบริเวณลานนี้ ราวกับว่ามันอยากออกมาต้อนรับแขกในร้านด้วยตัวเอง

ส่วนรสชาติกาแฟ เมล็ดกาแฟที่ r.about คัดสรรมาใช้มีรสชาติที่ให้อารมณ์ไม่ต่างไปจากบรรยากาศง่ายๆ ของพื้นที่ กาแฟอเมริกาโน่ทั้งร้อนและเย็นที่เราดื่มให้ความรู้สึกเบาสบายไม่เข้มหนัก ชวนให้ผู้คนในร้านผ่อนคลายไปกับบทสนทนาของเพื่อนหรือหนังสือสักเล่มที่พกไปอ่านเงียบๆ นอกจากเมนูกาแฟและตัวร้านจะดูน่าสนใจแล้ว เราตั้งข้อสังเกตว่าผู้คนที่เดินเข้ามาดื่มกาแฟดูจะรู้จักกันไปซะหมด สมกับที่ร้านติดตัวหนังสือเทปกาวง่ายๆ หน้าประตูทางเข้าว่า ‘커피집’ ซึ่งแปลว่าบ้านกาแฟ เพื่อรอต้อนรับทุกคนจริงๆ

address: 15 Daesagwan-ro 8-gil, Hannam-dong, Yongsan-gu, Seoul
hour: จันทร์-ศุกร์ 08:00-20:00 น., เสาร์-อาทิตย์ 11:00-21:00 น.
instagram: r.aboutcoffee


Orang Orang (오랑오랑) 

ถ้าเดินขึ้นมาบนเนินเขาแถบแฮบังชน ทุกคนจะได้พบกับย่านที่พักอาศัยของชาวเกาหลีเหนือที่เข้ามาอยู่ในโซล แล้วถ้าเกิดอยากจะจิบกาแฟขึ้นมา เพียงแค่ลัดเลาะสู่ตลาดชินึงไม่กี่ก้าวก็จะได้พบกับ Orang Orang คาเฟ่ที่เปิดเมื่อปลายปี 2016

แต่เดิมคนเกาหลีรู้จักย่านที่ตั้งของร้านในฐานะพื้นที่ของชาวต่างชาติ เพราะถ้าจะมีใครเข้ามาแถบนี้มากที่สุดก็คงเป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยี่ยมชม Namsan Tower ด้วยความเป็นพื้นที่นอกสายตาของคนในเมืองทำให้ค่าเช่าตึก 3 ชั้นที่มีมาตั้งแต่ยุค 60s แห่งนี้ราคาย่อมเยากว่าย่านอื่นมากๆ หนุ่มสาวรุ่นใหม่จึงเข้ามาเช่าพื้นที่เปิดร้านรวงหลากรูปแบบ รวมถึง Orang Orang ร้านกาแฟสไตล์ปูนเปลือยดิบขรึมที่เข้ามาบุกเบิกเวิ้งนี้เป็นร้านแรกๆ และด้วยความที่คาเฟ่คั่วเมล็ดเองทำให้มีเมนูกาแฟสำหรับเลือกดื่มหลายแบบ แถมจุดเด่นของที่นี่คือมุมถ่ายภาพขวัญใจมหาชนบนดาดฟ้าซึ่งมองเห็น Namsan Tower ได้เพราะอยู่ไม่ไกล บอกตามตรงพอได้จิบกาแฟแล้วนั่งมองวิวย่านแฮบังชนยามเช้าเงียบๆ แค่นี้ก็รู้สึกคุ้มค่าเหนื่อยที่เดินฝ่าแรงโน้มถ่วงขึ้นเนินสูงชันมาที่นี่แล้วล่ะ

address: 1-62 Yongsandong 2(i)-ga, Yongsan-gu, Seoul
hour: เปิดทุกวัน เวลา 11:00-20:00 น.
instagram: orangorangco


Anthracite (앤트러사이트)
Hapjeong Branch

Anthracite คือคาเฟ่แบรนด์ที่เราชอบมากที่สุดในเกาหลี เพราะมีรสชาติและบรรยากาศที่ไว้วางใจได้แทบทุกสาขา นอกจากเป็นคาเฟ่ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป ยังมีออฟฟิศและโรงคั่วเมล็ดกาแฟเป็นของตัวเอง แถมทางร้านยังหัวใสนำศิลปินระดับโลกมาเป็นแรงบันดาลในการทำเมล็ดกาแฟ แล้วตั้งชื่อโปรดักต์แต่ละตัวตามศิลปินแต่ละคนได้อย่างน่าสนใจ  

Anthracite มีทั้งหมด 5 สาขา แต่เราชอบบรรยากาศสลัวๆ และเพลงแอมเบียนต์เท่ๆ ของสาขาฮัพจองมากที่สุด ในอดีตที่นี่เคยเป็นโรงงานผลิตรองเท้ามาก่อน จนกระทั่งรีโนเวตเป็นออฟฟิศและคาเฟ่สไตล์อินดัสเทรียลขนาดสองชั้น ที่พร้อมสำหรับการนั่งชิลล์ได้ทั้งบริเวณอินดอร์และเอาต์ดอร์

หากต้องการเติมเต็มความสดชื่นระหว่างวันเราขอแนะนำให้ดื่มด่ำเมนูจากเมล็ดกาแฟ Pablo Neruda ตัวเบลนด์ที่เราประทับใจกลิ่นหอมๆ และรสชาติจนอยากให้ทุกคนได้ลิ้มลองด้วยตัวเองสักครั้งหนึ่ง 

address: 10 Tojeong-ro 5-gil Mapo-gu Seoul
hour: เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 23.00 น. วันเสาร์ เวลา 9.00-24.00 น.
instagram: anthracite_coffee_roasters


Cafe Maupassant (카페모파상)

Cafe Maupassant คือร้านกาแฟเล็กๆ ที่แสนธรรมดาในย่านยอนนัม แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาเลยคือรสชาติและบรรยากาศง่ายๆ ไม่หวือหวา หากใครมาร้านนี้แนะนำให้คอกาแฟลองดื่ม Brazil Fazendas Klem กาแฟดริปที่ร้านภาคภูมิใจเป็นพิเศษเพราะได้รับรางวัล COE, Presidential Grade เป็นตัวการันตี นอกจากเมนูกาแฟ ชา และน้ำผลไม้หลากรส ที่พร้อมเสิร์ฟ ยังมีเมนูเด่นชูโรงอย่างชานมละมุนลิ้นและขนมหวานอร่อยๆ แบบฉบับชาวฝรั่งเศส อย่าง canelé และ financier ที่กินแกล้มชาหรือกาแฟแล้วลงตัวเป็นที่สุด

address: 22-13 Yanghwa-ro 19-gil, Seogyo-dong, Mapo-gu, Seoul
hour: จันทร์-เสาร์ เวลา 11:00-23:00 น., อาทิตย์ เวลา 11:00-22:00 น.
instagram: maupassant_cafe


Cafe Onion
Anguk Branch

สำหรับเรา Onion คือร้านกาแฟสุดเท่ขวัญใจมหาชน หลังประสบความสำเร็จจากสาขาแรกในย่านบรุกลินแห่งโซลอย่างซองซูและสาขาสองที่สถานีรถไฟฟ้ามีอา ปีนี้ทางร้านขยับมาเปิดสาขาสามที่อันกุก ซึ่งแหวกแนวจากสาขาแรกที่รีโนเวตตึกร้างเป็นคาเฟ่สไตล์ลอฟต์คูลๆ และสาขาสองในบรรยากาศเรียบง่ายแบบมินิมอล 

Onion สาขาอันกุกคือการสร้างสรรค์สิ่งก่อสร้างสไตล์โมเดิร์นดีไซน์กริบนิ่งล้อไปกับฮันอก–บ้านโบราณรูปแบบดั้งเดิมของเกาหลี ให้กลายเป็นร้านกาแฟ ที่ไม่ว่านั่งอยู่มุมไหนในร้านก็ดูสวย จุดเด่นที่สาขานี้ทำได้ดีคือบรรยากาศที่เป็นกันเอง ร้านมีตัวบ้านตั้งเป็นรูปสี่เหลี่ยมโอบล้อมบริเวณตรงกลางที่เป็นลานหินกรวดโล่ง ให้ความรู้สึกว่าพื้นที่นี้กว้างขวาง เหมาะกับการสร้างวงสนทนาพูดคุยกับเพื่อนๆ หรือระหว่างคุยจะหาของหวานหลากชนิดมาเพิ่มน้ำตาลในเลือดก็ได้ เพราะที่นี่อบขนมกันวันต่อวัน โดยเฉพาะเมนูชื่อดัง pandor ขนมราดน้ำตาลไอซิ่งที่กินแกล้มกาแฟก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ส่วนความรู้สึกเมื่อได้จิบกาแฟอย่างอเมริกาโน่และลาเต้สำหรับเราอาจให้รสที่เบาไปนิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแค่แวะมาดูสถาปัตย์ที่กลมกลืนไปกับย่านบ้านโบราณในอินซาดง แถมอยู่ไม่ไกลจากพระราชวังชางด็อก แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

address: Gyedong-gil 5, Jongno-gu, Seoul
hour: จันทร์-ศุกร์ เวลา 7:00-21.00 น., เสาร์-อาทิตย์ เวลา 9:00-21:00 น.
instagram: cafe.onion


Analog Garden (아날로그가든)

ถ้าเบื่อร้านกาแฟรูปแบบเดิมๆ เราขอแนะนำร้านกาแฟควบร้านอาหารขนาดกำลังพอดีในย่านซ็อกโยให้ทุกคนได้รู้จัก ที่นี่เสิร์ฟทั้งเครื่องดื่มและชุดอาหารบรันช์กินง่าย แถมอิ่มมากๆ ในบรรยากาศแสนสบายสไตล์ตะวันตก ภายในร้านคุมโทนด้วยข้าวของเครื่องประดับและเฟอร์นิเจอร์แนววินเทจ ตรงกับคอนเซปต์ในยุคแอนะล็อกตามชื่อร้าน แม้ร้านจะมีขนาดไม่ใหญ่แต่กลับมีเครื่องคั่วกาแฟขนาดเขื่องตั้งอยู่บริเวณข้างเคาน์เตอร์ และสิ่งที่สนุกไม่น้อยคือทุกคนสามารถสั่งเหล้าและเบียร์มาดื่มได้ตั้งแต่กลางวันแสกๆ

Analog Garden สร้างสรรค์โดยคนที่หลงรักกาแฟอย่าง Kwak Seong-min เขาตั้งใจให้ร้านเป็นพื้นที่ของทุกๆ คน หลังจากได้เรียนรู้การทำกาแฟ เมนูบรันช์ รวมถึงวิชาออกแบบและตกแต่งภายในจากไอร์แลนด์ ซองมินนำเอาความรู้ด้านนี้มาทำร้านอย่างตั้งใจ ทุกวันนี้เขาคิดว่าตัวเองกำลังทำกาแฟทุกแก้วที่เป็นเสมือนสวนแห่งโลกแอนะล็อก ร้านนี้จึงไม่ได้มีดีแค่คอนเซปต์ที่จัดจ้านและน่าสนใจเท่านั้น เพราะกาแฟก็รสดีไม่หยอกเลยจริงๆ

address:  145 Donggyo-ro, Seogyo-dong, Mapo-gu, Seoul
hour: เวลา 11:00-21:00 น. (ปิดวันอังคาร)
website: analoggarden.com


Manufact Coffee Roaster (매뉴팩트커피)
Main Branch

Manufact Coffee Roaster เป็นร้านกาแฟขนาดเล็กมากซึ่งส่งผลให้ความอบอุ่นของคนที่มาเยือนมีมากตามไปด้วย คาเฟ่นี้ตั้งอยู่บนชั้นสองของตึกแถวสีขาวย่านยอนฮี เมื่อก้าวเข้าไปในร้านที่แน่นขนัดด้วยผู้คนซึ่งนั่งใกล้ชิดและพูดคุยกันอย่างออกรส กลิ่นกาแฟหอมฉุยก็ลอยมาเตะจมูกทันที คาเฟ่แบรนด์นี้มีทั้งหมด 3 สาขาด้วยกันคือ สาขายอนฮี อัพกูจ็อง และบังเบ ซึ่งสาขายอนฮีเป็นสาขาหลักและมีขนาดเล็กที่สุด แน่นอนว่าเป็นสาขาที่เป็นกันเองมากที่สุดด้วย ยิ่งไปกว่านั้นที่ร้านยังโดดเด่นเรื่องรสชาติของกาแฟคั่วเอง เราลองสั่งอเมริกาโน่ที่มาจากเมล็ดกาแฟคั่วสูตรเฉพาะ กาแฟตัวนี้มีชื่อเหมือนศิลปินอย่าง Paul Gauguin แค่ลองดื่มคำแรกก็รู้สึกสดชื่นมากจนอยากแนะนำให้ลองจิบทีละนิดละหน่อยตลอดทั้งวัน 

address: 29 Yeonhui-ro 11-gil, Yeonhui-dong, Seodaemun-gu, Seoul
hour: เวลา 9:00-18:00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
instagram: manufactcoffee


Small Coffee (스몰커피)

ใครจะไปคิดว่าในมังวอนซึ่งเป็นย่านตลาดสดจะมีร้านกาแฟเล็กๆ สมชื่อ Small Coffee ตั้งอยู่ในตึกแถวหนึ่งคูหา คาเฟ่แห่งนี้มีขนาดเล็กและมีความเรียบง่ายเป็นจุดขาย แถมมีข้าวของกระจุกกระจิกกลิ่นอายวินเทจตกแต่งทั่วร้าน ทำให้รู้สึกอิ่มใจราวกับว่าเราได้เข้ามานั่งเล่นในห้องนอนเพื่อนสายดีไซน์สมัยเรียนมหา’ลัย เพียงแต่ว่าที่นี่มีอุปกรณ์ชงกาแฟและกลิ่นกาแฟลอยอบอวลเพิ่มเข้ามา 

Small Coffee มีโต๊ะให้นั่งแค่ 2-3 โต๊ะ เหมาะกับการสนทนาวงเล็ก นอกจากราคากาแฟจะถูกกว่าคาเฟ่ทั่วไปจนเราร้องว้าว รสชาติกาแฟยังถูกปาก แถมแก้วเซรามิกทุกแก้วที่ใช้เสิร์ฟยังน่ารักถูกใจคอกาแฟที่รักงานคราฟต์สุดๆ อ๋อ ลืมบอกไปว่าถ้าใครไม่ดื่มกาแฟที่นี่มีน้ำผลไม้ตามฤดูกาลเสิร์ฟเอาใจสาย non-coffee ด้วยนะ

address: 87 Poeun-ro, Mangwon-dong, Mapo-gu, Seoul
hour: จันทร์-เสาร์ เวลา 12:00-22:00 น., อาทิตย์ เวลา 12:00-19:00 น.
instagram: _smallcoffee


sway coffee station (스웨이커피스테이션)

sway coffee station เป็นร้านกาแฟประตูสีเขียวเข้มที่ให้บรรยากาศเหมือนนั่งดื่มกาแฟอยู่ในชั้นใต้ดินเพราะสเตปภายในโถงร้านอยู่ต่ำกว่าความสูงของถนนด้านหน้า บรรยากาศของ sway ดูมีความเป็นตะวันตกมากที่สุดในบรรดาร้านที่เราแวะไปดื่มกาแฟมาทั้งหมด เพราะการตกแต่งและเพลงที่เปิดคลอมีความเป็นสากล ประกอบกับช่วงที่เราไปดื่มกาแฟอีกไม่กี่วันก็ใกล้จะถึงวันคริสต์มาสจึงมีต้นคริสต์มาสขนาดย่อมตั้งอยู่ข้างประตู

จุดเด่นของร้านคือขั้นบันไดจากบริเวณหน้าร้านที่ต้องก้าวลงมาเพื่อเดินเข้าสู่บริเวณโถงกว้างด้านล่าง แต่ถ้าใครอยากนั่งมองคนเดินผ่านไปมาเป็นพิเศษ พื้นที่ข้างประตูเป็นมุมที่เหมาะที่สุดต่อการใช้สังเกตผู้คนทั้งในและนอกร้าน นอกจากในร้านจะเหมาะกับการพักผ่อนแล้ว บาริสต้าที่นี่ยังใจดีให้คำปรึกษาเรื่องเครื่องดื่มอย่างเต็มใจ ถ้าไม่ได้แวะไปดื่มกาแฟที่ไหนต่อ เราขอแนะนำให้ดื่ม long black และ flat white ควบไปเลย เพราะเจ้ากาแฟสองตัวนี้ให้ความรู้สึกเปรี้ยวนำที่ลิ้น ดื่มแล้วกระปรี้กระเปร่า แถมเหมาะกับคนที่ชื่นชอบกาแฟรสเปรี้ยวมากๆ 

address: 126-1 Yeonhui-dong, Seodaemun-gu, Seoul
hour: เปิดทุกวัน เวลา 11:00-21:00 น.
instagram: sway_coffee_station


Cafe Louverwall (카페루버월)

เปลี่ยนบรรยากาศจากโซลมาจบทริปคาเฟ่ที่เมืองพาจู เมืองที่รัฐบาลเกาหลีใต้ขับเคลื่อนให้เป็นเมืองหนังสือของประเทศ ทำให้มีหลายสำนักพิมพ์มารวมตัวกันรันวงการสิ่งพิมพ์อย่างจริงจังที่นี่ เรานั่งรสบัสออกจาก Paju Book City สักพักหนึ่ง เพื่อมาเยือน Cafe Louverwall คาเฟ่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามทางสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ออกแบบโดยกลุ่มสถาปนิกชื่อดังของเกาหลีอย่าง AND แถมได้รับรางวัล Korean Institute of Architects Awards ปี 2016 ด้วย

เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่าร้านนี้ไม่ได้ดูโดดเด่นแค่ภายนอก แต่ภายในยังโดดเด่นเรื่องแสงที่ตกกระทบกับโครง façade อะลูมิเนียมที่ครอบคลุมทั้งอาคารกระจก เมื่อแสงตกกระทบบนระแนงอะลูมิเนียมจะเกิดเงาบนพื้นเรียงเป็นเส้นสายสวยงามและขยับตัวตามเวลาการเคลื่อนของดวงอาทิตย์ โดยเจ้าของร้านจะคอยเปิดเพลงบรรเลงคลอเพื่อขับเน้นให้สถาปัตยกรรมยิ่งดูทรงพลัง ที่นี่อาจไม่ได้หวือหวาเรื่องกาแฟมากนัก แต่เครื่องดื่มทุกแก้วดื่มแล้วสดชื่น ซึ่งอาจเป็นเพราะบรรยากาศที่น่าประทับใจทั้งหมดช่วยส่งให้แต่ละแก้วดีต่อใจกันสุดๆ

address: 18-4 Angaecho-gil, Paju-si, Gyeonggi-do, South Korea
hour: เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 22.00 น.
instagram: cafe_louverwall


ภาพ จุรีย์ สินสวัสดิ์มงคล และปวรพล รุ่งรจนา

AUTHOR