โมเนต์ ดาลี ฟรีดา นั่งอยู่บ้านเพื่อไปบุกบ้าน 5 ศิลปินระดับโลกแบบ virtual tour

Highlights

  • ออกเดินทางชมบ้านศิลปินระดับโลกแบบออนไลน์ เยือนสวนดอกไม้สไตล์ฝรั่งเศส ยืนริมระเบียงชมทะเลสเปน และมองทะเลทรายสหรัฐอเมริกาแบบไม่ต้องขอวีซ่า

ใครที่ทำงานอยู่กับบ้านจนหมดพลัง เบื่อกับบรรยากาศแบบเดิมๆ จนแทบไม่อยากมองวิวทิวทัศน์รอบตัว เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจนไม่อยากเอาตัวไปนั่งแปะที่โต๊ะทำงานของตัวเองอีกต่อไป

ชวนเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินเล่นในสวนดอกไม้ที่ประเทศฝรั่งเศส รับลมทะเลที่ประเทศสเปน ออกไปลัดเลาะรอบบ้านศิลปินระดับโลก ดูมุมทำงาน มุมพักผ่อน หรือกระทั่งมุมที่เขาใช้ทำอาหารแปลงกายเป็นมาสเตอร์เชฟ ผ่านทางออนไลน์

ศิลปินทั้งหลายใช้ชีวิตในบ้านยังไงจึงมีแรงบันดาลใจสร้างผลงาน มาสิ นั่งทางในไปดูพร้อมกันเลย

 

Claude Monet’s House and Gardens 

เริ่มต้นกันที่ทางเหนือของฝรั่งเศสอย่างจีแวร์นี (Giverny) นั่งทางในไปหยุดยืนสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชื่นใจกันที่หน้าบ้านสีชมพู-ขาว ตัดด้วยประตูและหน้าต่างสีเขียวสดใส ของศิลปินชื่อดังอย่าง Claude Monet เจ้าของผลงานศิลปะแบบอิมเพรสชั่นนิสม์ที่หลายๆ คนหลงใหล ไม่ต้องรอใคร รีบผลักประตูเข้าไปยืนหมุน 360 องศา ชมผลงานภาพวาดของเขาที่อัดแน่นแขวนเต็มผนังทั้ง 4 ด้านให้เต็มตา จากนั้นเดินต่อเข้าห้องรับประทานอาหารสีเหลืองเด่นกระแทกตา จุดนี้จะจินตนาการภาพโมเนต์เปิดกระจกให้อาหารนก หรือจะนึกภาพอาหารจานโปรดของเขาอย่างเป็ดย่างทานคู่กับหน่อไม้ฝรั่งและสลัดก็ไม่มีใครว่า

สำรวจเสร็จแล้วมองไปสุดตาจะเห็นห้องกำแพงสีฟ้าเรียกร้องให้เดินต่อ ใครแพ้ทางให้กระเบื้องลายสวยขอให้อดทนต่ออีกนิด แต่เราขอบอกไว้ตรงนี้พร้อมอุดปากกรี๊ดว่าห้องต่อไปสีน่ารักมากๆ แบบจะไม่ทน มองภาพพิมพ์ญี่ปุ่นของสะสมของเจ้าบ้าน มองผ้าม่านสีเหลืองลายดอกไม้ มองวิวนอกหน้าต่าง ตื้นตันใจราวกับว่าได้ไปเห็นของจริงจริงๆ

ใครอยากชมห้องไหนอีกสามารถคลิกได้ตามใจ แต่ห้องหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลยคือห้องนอนซึ่งสามารถมองเห็นสวนหลังบ้าน ที่มาของหลายๆ ผลงานของเขา และที่สำคัญคือห้องนี้ยังเป็นสถานที่สุดท้ายของชีวิตโมเนต์ด้วย

 

Dali House Museum 

บ้านต่อไปคือบ้านของศิลปินเซอร์เรียลลิสม์อย่าง Salvador Dali เจ้าของภาพ The Persistence of Memory หรือนาฬิกาที่กำลังหลอมเหลว เขาเลือกตั้งถิ่นฐานและสร้างบ้านที่นี่โดยเลือกจากวิวทิวทัศน์ที่เงียบสงบ มีแสงที่ดีเหมาะแก่การสร้างงาน และที่นี่ยังมีความเป็นส่วนตัว แยกจากผู้คน เขาใช้เวลากว่า 40 ปี ค่อยๆ แต่งเติมบ้านไปทีละชั้นทีละห้อง จนบ้านของเขาซึ่งตั้งอยู่ที่พอร์ตลิกัต (Portlligat) ประเทศสเปน หลังนี้มีความเซอร์เรียลไม่ต่างจากชิ้นงานที่เขาสร้างสรรค์ 

แม้ว่าที่นี่จะเปิดให้ชมแบบ virtual เพียงแค่ 4 ส่วนเท่านั้น แต่ก็ถือเป็นส่วนที่ดีงาม เรียกร้องให้เรามีพลังในการเก็บเงินไปชมของจริงสักวัน

สิ่งที่โดนใจเรามากที่สุดและอยากให้ทุกคนเข้าไปเช็กอินตามๆ กัน คือจุดชมวิวของบ้านที่ไม่ว่าจะหันมองทางไหนก็สวยงาม แค่ได้มองสีขาวของกำแพงบ้านเมื่อตัดกับสีน้ำเงินเข้มของน้ำทะเล เห็นความระยิบระยับของแสงแดดและสีเขียวสบายตาของต้นไม้ ก็มีความสุขแล้ว ถึงจะเป็นการชมแบบ virtual แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนได้ยืนสูดกลิ่นทะเล รับลมที่พัดเข้าหน้าแบบเต็มๆ เลย

 

Rembrandt House Museum

วาร์ปมาที่อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ เราจะพาทุกคนไปชมบ้านของ Rembrandt Van Rijn จิตรกรที่โดดเด่นเรื่องของการใช้เทคนิคแสงเงา เจ้าของรูปวาด The Night Watch

บ้านหลังนี้ได้รับการตกแต่งจัดวางข้าวของให้คล้ายกับสมัยที่เรมบรันต์ยังมีชีวิต ทั้งเตียงที่ถูกวางอยู่ในห้องครัว และห้องอื่นๆ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยผลงานรูปวาดทั่วทุกมุม พร้อมคำบรรยายให้ความรู้ นอกจากนี้ยังมีโซนสุดพิเศษซึ่งเก็บรวบรวมของสะสมหายากของเขาเอาไว้ มีทั้งรูปปั้นที่แกะสลักอย่างสวยงามไปจนถึงเปลือกสัตว์ต่างๆ ชวนให้ตื่นตาด้วย คนที่รักในประวัติศาสตร์ศิลป์ห้ามพลาด ทดลองหมุนตัวไปรอบบ้านของเขาได้เลย

 

The Frida Kahlo Museum

เดินทางไปต่อที่เม็กซิโก แวะ La Casa Azul หรือบ้านสีฟ้า ซึ่งเป็นสถานที่เกิด อาศัย และสร้างสรรค์ผลงานของ Frida Kahlo หญิงสาวคิ้วเข้มในชุดพื้นเมืองเม็กซิกัน เจ้าของภาพเซลฟ์พอร์เทรตที่หลายคนคุ้นเคย เธอเริ่มต้นจับพู่กันลงมือวาดรูปตัวเองเป็นครั้งแรกหลังประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่ทำให้ขยับเขยื้อนร่างกายไปไหนไม่ได้ ทำได้เพียงนอนพักฟื้นอยู่บนเตียง ความเจ็บปวดและความไม่สมบูรณ์ของร่างกายส่งผลกระทบต่อการทำงานและสร้างความเจ็บปวดให้เธอเสมอมาอย่างที่เห็นได้จากหลายๆ ภาพที่เธอวาดแสดงความรู้สึกเอาไว้

ไหนๆ ก็วาร์ปมาไกล ก่อนจะมุ่งหน้าเดินเข้าบ้านชมผลงานและข้าวของที่เธอใช้งาน เราอยากแนะนำให้หยุดชมสวนด้านนอกเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนสักนิด เพราะต้องบอกเลยว่าสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้าที่ตัดกับตัวบ้านสีฟ้าจัดจ้านช่างงดงามมากจริงๆ

จากนั้นก็เชิญเดินชม จะซูมเข้าซูมออกดูภาพไหนก็ได้ดังใจ อย่างเราก็ต้องยอมรับเลยว่ากว่าจะเคลื่อนผ่านจากรูปแตงโมที่สลักคำว่า Viva La Vida ผลงานชิ้นสุดท้ายของเธอก่อนเสียชีวิต ก็ปาไปหลายนาที

หากชมผลงานจนหนำใจแล้ว ชวนแวะขึ้นด้านบนชมส่วนที่เธอใช้ชีวิตต่อ มีทั้งห้องครัว ห้องทำงาน และห้องนอน แอบกระซิบว่าการได้เห็นกระจกที่เธอใช้ส่องเพื่อวาดภาพตัวเองหลังเสพผลงานของเธอมาตลอดทางก็เป็นอะไรที่จุกอยู่ในใจไม่น้อยเลย

 

Georgia O’Keeffe’s Abiquiu Home and Studio

ชวนไปสหรัฐอเมริกาเป็นที่สุดท้าย บุกไปที่รัฐนิวเม็กซิโกเพื่อเยี่ยมชมบ้านของศิลปินหญิงผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘มารดาของวงการศิลปะแบบโมเดิร์นนิสม์ของอเมริกา’ อย่าง Georgia O’Keeffe 

บ้านของเธอสะดุดตาเราตั้งแต่แรกเห็น ด้วยสีสันที่กลมกลืนไปกับวิวทิวทัศน์ของทะเลทราย และรูปทรงบ้านที่ค่อนข้างโมเดิร์น เน้นแสงธรรมชาติ และตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบ mid-century modern มีสิ่งอำนวยความสะดวกสุดทันสมัย (ในสมัยนั้น) และประดับประดาไปด้วยหินและกระดูกสัตว์ที่เธอสะสม 

การเยี่ยมชมบ้านของเธอครั้งนี้สามารถดูได้ผ่านวิดีโอคลิปที่พิพิธภัณฑ์เผยแพร่ไว้ ถึงจะเสียดายที่ไม่สามารถตะลุยสอดส่องได้ดั่งใจ แต่ก็นับเป็นอะไรที่ให้แรงบันดาลใจมากๆ เพราะสวยสะดุดตาไปทุกมุมตั้งแต่การตกแต่งไปจนถึงวิวทิวทัศน์ด้านนอกเลยจริงๆ

นอกจากนี้เรายังสามารถชมวิวของ Ghost Ranch หรือบ้านพักฤดูร้อนของเธอได้ด้วยที่นี่ สวยจนอยากหยุดหายใจเช่นเดียวกัน

AUTHOR