Woman Card สิทธิล่องหนจากความเป็นผู้หญิง

เป็นที่รู้กันว่า
ในกระแสการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกันรอบนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ คือมหาเศรษฐีตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ผู้ถนัดในการเรียกความหมั่นไส้และมีประเด็นฉาวที่นักข่าวชอบใจ เพราะไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็เอามาทำข่าวได้ซะหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเหยียดเพศ
เหยียดชนชาติ เหยียดชาวอพยพ เรียกว่าเหยียดทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่ก็ยังได้รับการต้อนรับจากประชาชนชาวอเมริกันไม่น้อย คู่คี่สูสีมากับ นางฮิลลารี
คลินตัน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ที่ไม่ถึงกับเป็นที่รักของชาวอเมริกัน แต่อาศัยประสบการณ์การเล่นการเมืองมานานก็น่าจะฝากตัวฝากประเทศไว้ได้

ประเด็นล่าสุดที่กลายเป็น Hot Issue ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
คือเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ พูดโจมตีฮิลลารี่ คลินตัน ว่า “Frankly, if Hillary Clinton were a man, I don’t think she’d get
5% of the vote. The only thing she’s got going is the women card.”

ประมาณว่า
“ถ้าฮิลลารีเป็นผู้ชายนะ
คนโหวตให้ยังไงก็ไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ที่นางทำก็คือการมี Woman
Card เท่านั้นแหละ” ซึ่งคำว่า Woman
Card ในที่นี้ก็หมายถึง การที่เธอเป็นผู้หญิงนั่นไงล่ะ เลยได้คะแนน ‘ความเป็นผู้หญิง’ อู้ยยย เจ็บ


ภาพ : www.cnn.com

หลังจากนั้นไม่นาน
ฮิลลารีก็ออกมาตอบโต้คำพูดของทรัมป์ว่า “If fighting for women’s health care and
paid family leave and equal pay is playing the woman card, then deal me in!”

“เออ
ถ้าการต่อสู้เพื่อการดูแลสุขภาพของผู้หญิง
การจ่ายเงินชดเชยช่วงวันลาคลอดและการเลี้ยงลูกของคนเป็นพ่อเป็นแม่และการปรับค่าแรงงานให้เท่าเทียมกัน
เป็นการใช้ Woman Card ฉันก็จะเล่นนะจ๊ะ”

อันที่จริง สงครามการเหยียดเพศหญิงที่ออกจากปากของโดนัลด์
ทรัมป์ อยู่บ่อยๆ
ทำให้ผู้หญิงหลายคนเดือดดาลเสียจนแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานาผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก
แถมตีโต้กลับความคิดเห็นของทรัมป์ว่า จริงๆ แล้ว ‘woman card’ ที่ว่ามีสิทธิพิเศษหนักหนา แต่ถ้าดูกันตามความจริงแล้วดูเหมือนว่า
‘man card’ จะมีสิทธิประโยชน์มากกว่าหลายเท่าตัว
อย่างเรื่องอาชีพที่มีกฎข้อบังคับว่าต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น ผู้นำหรือตำแหน่ง CEO จะมีผู้หญิงกันซะกี่คน
รวมถึงเรื่องการเมืองที่นับนิ้วได้เลยว่ามีคนที่นั่งอยู่ในสภามีสัดส่วนเป็นผู้หญิงเท่าไรบ้าง

ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงที่ไม่มีใครกล้าเถียง
อย่าง ELLE Magazine ที่อังกฤษก็เคยนำเสนอประเด็นที่ว่ามานี้้ด้วยการทำแคมเปญ #MoreWomen เพื่อบอกให้รู้ว่าในทุกๆ วงการไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ ดนตรี ศิลปะ สื่อมวลชน
การเมือง ฯลฯ นั้นต้องการผู้หญิงที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำมากขึ้น
โดยทำวิดีโอที่ใช้รูปถ่ายจากเหตุการณ์การประชุมของเวทีระดับโลกแล้วโฟโต้ช็อปผู้ชายออกไปให้หมด เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีผู้หญิงน้อยแค่ไหนในตำแหน่งสูงๆ
อย่างการที่เอ็มม่า วัตสัน นั่งอย่างโดดเดี่ยวในเวทีการประชุมของสหประชาชาติ หรือผู้สื่อข่าวของ
BBC ที่หลังโฟโต้ช็อปตัดผู้ชายทิ้ง ก็จะเหลือผู้หญิงเพียงหยิบมือ


ภาพ / วิดีโอ: www.elleuk.com

และประเด็น
‘woman card’ ของคุณทรัมป์ ก็ส่งผลกลายเป็นโปรเจกต์ที่เราต้องขอซูฮกให้ คือโปรเจกต์การทำ
‘woman card’ ให้กลายเป็นจริงและหยิบจับได้โดย Zach
Wahls นักเคลื่อนไหวทางสังคม ซึ่งลากน้องสาวที่เรียนจบปริญญาตรีด้านศิลปะมาช่วยออกแบบหน้าไพ่สำรับพิเศษที่ชื่อ
‘The Woman Cards’ ซึ่งหน้าการ์ดจะมีแต่ใบหน้าของผู้หญิงผู้ทรงอิทธิพลของอเมริกา
13 คนที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่

ตัวอย่างเช่น Ace ก็เป็นหน้าฮิลลารี คลินตัน
ซึ่งคนวาดแอบเชียร์อยู่ในใจว่าเธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกาในที่สุด
ตัว King คือรูทซ์
กินสเบิร์ก นักตุลาการหญิงและ Queen
ได้แก่บียอนเซ่ ควีนบีที่ทุกคนยอมศิโรราบ
นอกจากนั้นยังมีนักเคลื่อนไหวทางสังคมหญิง นักบินหญิง นักวิ่งหญิงที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก
ผู้หญิงคนแรกที่ได้ขึ้นไปในอวกาศ ฯลฯ เพียง 4 ชั่วโมงโปรเจกต์นี้ก็ระดมทุนครบ 5,000 เหรียญตามที่ตั้งใจไว้ และปัจจุบันก็มีคนสั่งซื้อเป็นจำนวนเงินกว่า
116,000 เหรียญแล้ว
โปรเจกต์นี้ไม่ได้ทำเพื่อสนับสนุนการหาเสียงของฮิลลารีแม้แต่เหรียญเดียว
แต่ทำเพื่อให้ทุกคนได้นึกถึงผู้หญิงผู้ทรงอิทธิพลในสังคม
ซึ่งจะเห็นว่ามีจำนวนไม่น้อยเลย


ภาพ: www.kickstarter.com

ในขณะเดียวกัน ฮิลลารีก็พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
ด้วยการออกแบบ Woman Card ของจริงขึ้นมาอีกคน เป็นการ์ดที่มีลักษณะรูปร่างเหมือนบัตรสมาชิกอะไรสักอย่าง
และมอบให้กับคนที่บริจาคเงินร่วมสนับสนุนการหาเสียงของเธอในเว็บไซต์
hillaryclinton.com


ภาพ : hillaryclinton.com

รับไปเลย! Woman Card ของจริงจากฮิลลารี คลินตัน เรียกว่าพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ผู้หญิงที่ไม่ชอบก็อาจจะเปลี่ยนมาเชียร์ฮิลลารีได้

และขอโทษด้วยนะ โดนัลด์ ทรัมป์ คุณอาจจะลืมอ่านตัวเลขของการเลือกตั้งเมื่อ
4 ปีที่แล้วว่ามี ‘ผู้หญิง’ ออกมาเลือกตั้งมากกว่าใคร
ถือเป็นสัดส่วน 53 เปอร์เซ็นต์นี่ก็เกินครึ่งละนะ

AUTHOR