ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่
88 ที่ผ่านมานั้น
คุณประทับใจโมเมนต์ไหนมากที่สุด
ถ้าเป็นโมเมนต์ที่ลีโอนาร์โดรับรางวัลออสการ์ตัวแรกในชีวิต
คุณคือชาวพรมแดงฮอลลีวู้ดเลิฟเวอร์
หนึ่งในล้านคนที่ขำและแชร์มุกลีโอนาร์โดในโซเชียลเน็ตเวิร์ก
หากเป็นโมเมนต์ที่ลีโอนาร์โดสละเวลาเล็กๆ
ระหว่างรับรางวัลออสการ์ด้วยการพูดเรื่องโลกร้อน คุณเป็นนักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม
รักน้ำรักปลาอยู่เป็นนิจ
แต่ถ้าเป็นโมเมนต์ที่เลดี้
กาก้า แสดงเดี่ยวเปียโนเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง The
Hunting Ground ในเพลง Til It Happens To You แล้วละก็
คุณคือเพื่อนหญิงพลังหญิงคนหนึ่งที่เราอยากชวนเข้าชมรมด้วย
นี่ถือเป็นการแสดงที่ใครหลายคนบอกว่าดีที่สุดในออสการ์ปีนี้เลยทีเดียว
Til It Happens To You หรือ จนถึงวันที่มันเกิดขึ้นกับคุณ
เป็นเพลงประกอบสารคดีเรื่อง The Hunting Ground เล่าเรื่องราวการลุกขึ้นต่อสู้ของ
‘เหยื่อ’ ที่เคยถูกข่มขืนในมหาวิทยาลัย
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครแยเส ทั้งอาจารย์และมหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่งก็คอยแต่จะปกปิดข่าวฉาวเหล่านี้
เพราะเดี๋ยวมหาวิทยาลัยเสียชื่อ ได้ตำแหน่งจัดอันดับที่ไม่ดี การลุกขึ้นสู้ของสาวๆ
นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของสถาบันการศึกษาในอเมริกา (ปรบมือให้ค่ะ)
จะว่าไปแล้ว เมื่อมองในภาพใหญ่
การข่มขืนถือเป็นปัญหาแสนเรื้อรังในอเมริกาจนได้ฉายาตัวร้ายว่าเป็น Rape Culture และน่าเศร้าที่มันเป็นจริงเสียด้วย
จากสถิติบอกว่าผู้หญิง 1 ใน 5 และผู้ชาย 1
ใน
16 ถูกกระทำความรุนแรงทางเพศก่อนเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ
แล้วทำไมต้องเป็นเลดี้
กาก้า ที่ขึ้นร้องเพลงนี้บนเวทีออสการ์?
เลดี้
กาก้า เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เธอก็เป็นคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อของการกระทำความรุนแรงทางเพศเมื่อตอนอายุ
19 ปี แต่ไม่เคยปริปากบอกใครและเจ็บปวดกับเรื่องนี้มานานเป็น
10 ปี
การคุยกับหมอและทำเพลงเป็นหนึ่งในวิธีรักษาบาดแผลในใจ จนวันหนึ่งเธอก็คิดว่า
ฉันไม่จำเป็นต้องปกปิดเรื่องเหล่านี้
ไม่ต้องรู้สึกผิด และไม่ใช่คนที่ไร้ค่าสักหน่อย
จากความรู้สึกเหล่านั้น
กาก้าเปลี่ยนมันเป็นเนื้อเพลงแสนกินใจของ Til It Happens To You ถ่ายทอดความรู้สึกของเหยื่อและตัวเธอเอง
You tell me it gets
better, it gets better in time
You say I’ll pull myself
together, pull it together, you’ll be fine
Tell me, what the hell
do you know? What do you know?
ก่อนหน้าที่กาก้าจะก้าวขึ้นเวที
โจ
ไบเดน
รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ขึ้นมาพูดเกี่ยวกับปัญหาการกระทำความรุนแรงทางเพศในอเมริกา ‘Let’s change the culture’ คือใจความหลักของสิ่งที่เขากล่าว
และมีการชวนเชิญให้ทุกคนร่วมกันปฏิญาณตนว่าจะเป็นหนึ่งในคนที่ช่วยเหลือและระวังภัยไม่ให้เกิดอาชญากรรมทางเพศขึ้นในเว็บไซต์
itsonus.org จากนั้น
เขาจึงส่งเวทีให้นักร้องสาวที่ขึ้นมาร้องเพลง Til It Happens To You อย่างมีพลังเช่นเดิม เพิ่มเติมคืออารมณ์ที่ทำเอาดาราหลายคนหลั่งน้ำตา
แต่ไฮไลต์ที่สุดของการแสดงคือหนุ่มสาวเกือบ
50 คนที่เคยเป็นเหยื่อจากการข่มขืน
สปอตไลต์ของเวทีสาดส่องไปที่ผู้กล้า และโฟกัสไปบนข้อความที่แขนอย่าง Not your fault,
Unbreakable, I believe you และ Survivor
สิ้นเสียงของกาก้า
หลายคนลุกขึ้นปรบมือให้การแสดงนี้อย่างยาวนาน
การแสดงนี้ส่งผลให้เว็บไซต์
itsonus.org มีการลงชื่อมากกว่าเวลาปกติถึง
10 เท่าราว 37,000 รายชื่อ และแฮชแท็ก #ItsOnUs ถูกพูดถึงในทวิตเตอร์กว่า 348.67 ล้านครั้ง แม้แต่ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง The Hunting Ground ยังเขียนในบทความไว้ใน The Huffington Post ว่า เพลงนี้ของเลดี้ กาก้า และดิแอน
วาร์เรน ช่วยให้สายด่วน National Sexual Assault มีคนโทรมาแจ้งเหตุเพิ่มขึ้นถึง
34 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย
เหยื่อ
50 คนบนเวทีรวมถึงเลดี้
กาก้า แสดงให้คนทั้งโลกรับรู้ถึงปัญหานี้ในเวลาชั่วข้ามคืน
แม้คงต้องใช้เวลานานกว่าจะปฏิวัติวงจรอุบาทว์นี้ได้ แต่สิ่งที่พวกเธอทำได้ในช่วง 3 นาทีนั้นอาจเช็ดน้ำตาใครบางคน
สร้างความกล้าหาญในการต่อสู้ของใครบางคน หรือหยุดความคิดของการตัวตายได้
นับเป็น
3 นาทีที่ที่มีค่าและมีพลังมากทีเดียว
ภาพ : huffingtonpost.com