Vtopia คอมมิวนิตีที่อยากให้คนกินวีแกนมีเพื่อนกินข้าวด้วยกัน

หากย้อนไปหลายปีก่อนหน้านี้ การพูดคุยกันถึงเรื่องสุขภาพ (Wellness) คงเป็นการกระซิบกระซาบคุยกันแค่ในวงเล็กๆ แต่ในปัจจุบันผู้คนเริ่มหันมาสนใจศึกษาเรื่องสุขภาพทั้งกายและใจหรือแม้กระทั่งให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว ขุดคุ้ยไปจนถึงรากและต้นต่อของทุกสิ่งที่จะมีผลกระทบถึงกัน

วันนี้ aday จึงชวน หวาน-ชัญญา อุดมพร’ เจ้าของเพจ VEGAN CALENDAR ผู้จุดประกายอีกทางเลือกในการบริโภคที่ปลอบประโลมทั้งสุขภาพ สิ่งมีชีวิตสปีชีส์อื่นและสิ่งแวดล้อม ผู้ที่สร้างเพจแชร์ข้อมูล มื้ออาหารสำหรับคนกินวีแกน และยังเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Vtopia อีเวนต์ที่จัดขึ้นเพื่อให้คนที่ทานวีแกน-แพลนต์เบส ได้มาแบ่งปันพลังงานดีๆ ให้แก่กัน

หวานนัดเจอเราในร้านอาหารกลางเมืองที่ขายทั้งเมนูเนื้อสัตว์และวีแกน ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ เพื่อพูดคุยกันในเรื่องการกินวีแกนและเรื่องราวของ Vtopia Community 

ถึงแม้ว่าเราจะเป็นสายเนื้อ แต่พวกเราก็ยังสามารถต่อบทสนทนากันอย่างยืดยาวและหอบเอาความรู้สึกดีๆ กลับบ้านไปด้วย ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็สามารถแบ่งปันเรื่องราวดีๆ บนโต๊ะอาหารร่วมกันได้

จุดประกายแรกที่เริ่มสนใจกินวีแกนคืออะไร

ตั้งแต่มัธยมเราเป็นคนที่สนใจในเรื่องสุขภาพมากอยู่แล้ว เป็นคนที่กินเยอะมากๆ แต่ก็ไม่อยากอ้วน จึงเริ่มศึกษาเรื่องของโภชนาการมาตั้งแต่สมัยนั้น ไปเจอข้อมูลมาว่าหากอยากกินเยอะแต่ยังรักษารูปร่างได้ ต้องปรับสารอาหารเน้นกินโปรตีนและลดแป้งลง

ตอนนั้นเราเลยเน้นกินเป็นโลว์คาร์บและหนักไปทางเนื้อสัตว์เพราะอยากได้โปรตีนเยอะๆ กินแบบนั้นมาประมาณ 10 ปี เพราะเข้าใจว่ามันดีต่อสุขภาพแล้ว จนกระทั่งช่วงประมาณ 6 – 7 ปีก่อน เราเกิด Midlife Crisis ในชีวิต จึงมีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรมและมีโอกาสได้เห็นวิดีโอเกี่ยวกับสัตว์ที่มันสะเทือนใจเลยเป็นครั้งแรกที่เราตั้งคำถามกับตัวเองว่า หรือสัตว์ไม่ใช่อาหาร แต่ว่าตอนนั้นด้วยความที่ตัวเองกินเนื้อสัตว์ทุกมื้อ เลยรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเลิกกิน ไม่เคยเห็นภาพตัวเองเป็นวีแกนเลย

แต่พอมาถึงวันเกิด เราก็คิดว่าอยากลองดูสักตั้ง หลังจากนี้ลองทำ มังสวิรัติปลา (Pescetarian) ดีกว่า มันคือการกินแต่สัตว์น้ำไม่กินสัตว์บก ช่วงนั้นเลยกินปลา กินกุ้งยับเลย นั่นถือเป็นก้าวเล็กๆ ก้าวแรก

หลังจากนั้นเราก็มีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรมอีก ที่วัดป่าถ้ำวัว จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นวัดเจ ก็เลยได้เลิกกินเนื้อสัตว์ไป 5 วัน โดยไม่ทันได้รู้ตัวเลย พอเริ่มทำได้ก็เลยคิดว่าจริงๆ แล้วการกินวีแกนก็อาจจะไม่ใช่เรื่องยาก ตรงนั้นแหละที่เป็นจุดเริ่มต้นทำให้เริ่มกินวีแกนจริงจัง แต่สิ่งที่ทำให้เราทำได้ในระยะยาวคงเป็นเพราะเรารู้ว่ามันดีต่อสุขภาพและเพราะได้เข้าร่วมคอมมิวนิตีกับคนที่เขากินเหมือนกัน

ตอนนั้นพอเริ่มกินได้สักพัก เราก็ไปเจอเพจ ‘Plan V’ ของ  ‘แก้ม-ชนนิกานต์ ฉันสุธรรม’ เป็นเพจที่แชร์เกี่ยวกับเรื่องอาหารวีแกน เราเลยตัดสินใจทักแชทเพจไปเพื่อสอบถามข้อมูล พอคุยไปคุยมาดันได้รู้ว่าเรียนอยู่ในคณะเดียวกัน หลังจากนั้นจึงนัดเจอกัน และเริ่มได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน และกลายมาเป็นคอมมิวนิตีในที่สุด

คนส่วนใหญ่หันมากินวีแกนด้วยเหตุผลอะไรบ้าง

สาเหตุหลักๆ มีอยู่ 4 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือเรื่องสุขภาพ ซึ่งก็แยกออกไปได้ 2 ทางอีกคือ เรื่องสุขภาพระยะยาวและการรักษารูปร่าง จริงๆ ในเรื่องของการรักษารูปร่าง ไม่ว่าจะเป็นไดเอตรูปแบบไหนก็ลดหุ่นได้หมด แต่ในส่วนของการรักษาสุขภาพระยะยาว เราอาจจะต้องไปศึกษาให้มากขึ้น เพราะในปัจจุบันอาหารกลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มาก สิ่งที่เราบริโภคกันจึงต้องถูกเร่งผลิตด้วยสารเคมีหรืออะไรต่างๆ บางทีเราอยากได้แค่โปรตีนแต่เราจะได้อีกหลายอย่างพ่วงมาด้วย เพราะฉะนั้นพอคนได้ศึกษาเรื่องนี้กันมากขึ้น เขาจึงอยากลดสารพิษตรงนี้ลง 

อย่างที่สองคือเรื่อง Moral Ethics (จริยธรรม) ส่วนมากคนที่ทานวีแกนก็จะมีความคิดที่ว่าสัตว์เขาก็มี 1 ชีวิต และก็เจ็บเหมือนเรานั่นแหละ ทำไมเราถึงมีสิทธิ์ไปเบียดเบียนเขา 

อย่างที่สามคือเรื่องของความเชื่อ เจกับวีแกนจะมีความใกล้เคียงกันในเรื่องของการกินมากๆ (มีเพียงผักกลิ่นฉุนที่เจห้ามกินเพิ่มเข้ามา) แต่ว่าความแตกต่างคือ การกินเจมีฐานคิดมาจากความเชื่อ ความศรัทธาที่ถูกส่งต่อกันมา ส่วนการกินวีแกนจะมีฐานคิดมาจากสิ่งที่เรามองเห็นได้ในตอนนี้ เพื่อที่พวกสัตว์จะไม่เจ็บและเราไม่ได้ไปเบียดเบียนชีวิตอื่น

และอย่างสุดท้ายคือเรื่องของสิ่งเเวดล้อม อย่างการทำปศุสัตว์ ต้องใช้ทรัพยากรเยอะมาก กว่าจะกลายมาเป็นอาหารให้คนทานได้

การทำปศุสัตว์เป็นการใช้ทรัพยากรทางอ้อมอย่างไร

หากเราจะกินสเต็กสักจาน ต้องผ่านกระบวนการมากมาย ไม่ใช่ว่าวัวจะถูกเสกขึ้นมาอย่างง่ายดาย เราต้องเลี้ยงเขา ทำฟาร์มขึ้นมา ใช้พื้นที่จำนวนมาก และต้องปลูกอาหารให้เขากินด้วย เราต้องใช้อาหารจำนวนมากขนาดไหนกว่าที่เขาจะโตขึ้นมาขนาดนี้ ยังไม่นับกระบวนการหลังจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดอึ ฉี่ การฆ่าในโรงเชือด สิ่งเหล่านี้ล้วนใช้ทรัพยากรในการชำระล้างทั้งหมด

อีกอย่างคือเรื่องของแก๊ส วัวจะปล่อยแก๊สออกมาค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะแก๊สมีเทน ซึ่งตรงนี้มันไปทำร้ายชั้นบรรยากาศของโลก ดังนั้นในอุตสาหกรรมการผลิตที่เราเร่งเพาะพันธุ์สัตว์ออกมาให้ได้จำนวนมากๆ เพื่อตอบโจทย์การบริโภคนิยม เราจึงทำร้ายโลกมากขึ้นเรื่อยๆ 

ทำไมคนที่เริ่มตัดเนื้อสัตว์ มักจะเลือกตัดสัตว์ใหญ่ออกก่อน ทั้งๆ ที่ก็เป็น 1 ชีวิตเหมือนกัน

เราว่ามันเป็นเรื่องของความเชื่อ แบบว่าวัวเป็นสัตว์ใหญ่ แต่ถ้าถามเราแล้ว เราก็เชื่อว่าทุกชีวิตมีค่าเท่ากัน สำหรับเราเเล้วทุกสิ่งมีชีวิตบนโลกไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็เป็น 1 ชีวิตเท่ากัน

ปรับตัวอย่างไรบ้างในช่วงเเรก ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงไหม

ต้องบอกก่อนว่าแต่ละคนที่ปรับมาทานวีแกน ร่างกายจะรีเเอคต่อสิ่งนี้แตกต่างกันไป อยู่ที่ว่าก่อนหน้านั้นพฤติกรรมการกินเขาเป็นอย่างไร ส่วนตัวเราเป็นคนกินคลีนอยู่ก่อนแล้ว จึงไม่ได้น้ำหนักลดหรือเพิ่ม แต่สิ่งที่เราสังเกตได้เลยคือภูมิเราดีขึ้นมาก หลังจากกินวีแกน เวลาเป็นไข้เราจะหายเร็วขึ้นกว่าเดิม

ระบบร่างกายคนเรา อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวอยู่เหมือนกันเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง เช่น หากก่อนหน้านี้เคยกินโลว์คาร์บมาก่อน จุลินทรีย์ในลำไส้เราจะไม่เก่งในการย่อยแป้ง พอเราปรับมากินผักกินแป้งเยอะ ก็อาจจะเกิดอาการง่วงได้ การแก้ไขปัญหาคือให้ค่อยๆ เริ่มกินทีละนิดเพื่อให้จุลินทรีย์ในลำไส้ได้ปรับตัว ย่อยพืชผักเก่งขึ้น หลังจากนั้นก็จะดีขึ้นเอง และค่อยๆ เพิ่มปริมาณการกินทีละนิด

หรือบางคนกินวีแกนแล้วท้องอืด อาจจะเป็นเพราะคุณกินผักสดมากเกินไปหรือเปล่า พวกผักสดจะมีแก๊สเยอะ พอเปลี่ยนไปกินผักต้มเพื่อลดแก๊ส อาการท้องอืดก็จะหาย  บางคนกินถั่วเยอะ แต่จุลินทรีย์ในกระเพาะยังย่อยถั่วไม่เก่ง ก็ต้องคุมปริมาณที่กินก่อน ซึ่งอยู่ที่พื้นฐานร่างกายและประสบการณ์การกินที่ผ่านมาของแต่ละคน

ความยากที่สุดในตอนเริ่มต้นเข้าสู่วงการคืออะไร

การที่เราไม่รู้ว่าอะไรกินได้หรือกินไม่ได้ อาจจะต้องไปหาข้อมูลมาก่อนเพื่อที่จะมาจัดมื้ออาหารของตัวเอง 

พี่แก้มจากเพจ ‘Plan V’ แนะนำวิธีการหาข้อมูลเบื้องต้นคือให้เอาวัตถุดิบที่เราสงสัยว่ากินได้ไหม ไปค้นหาในกูเกิลว่า ‘Is this vegan’ ก็จะมีข้อมูลขึ้นมาให้อ่าน แต่หากเป็นชื่อแปลกๆ ก็จะหาไม่ค่อยเจอ เพราะว่ามันปรุงเเต่งเยอะ เราแนะนำว่าง่ายที่สุดคือเลือกกินเป็นโฮลฟูดจะดีกว่า

ทำไมบางคนเลิกกินเนื้อสัตว์แล้ว รู้สึกว่ากินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม

หนึ่งคือเราถูกสอนมาว่าการกินผักไม่อิ่มท้อง เมื่อเรามีความเข้าใจแบบนี้ ต่อให้อิ่มมันก็จะไม่อิ่ม จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว จิตคิดยังไงมา มันก็จะส่งผลต่อมาที่ร่างกายอยู่แล้ว 

อย่างแรกเลยเราอาจจะต้องไปศึกษามาเพิ่มก่อนว่าคนกินผักก็อิ่มได้นะ คนกินผักสร้างกล้ามและสุขภาพดีได้ และเขาไม่ได้หิวตลอดเวลา สองคือเรื่องของสารอาหาร หากเราไปเน้นกินอาหารที่แปรรูป ซึ่งมีกากใยน้อย เราก็จะไม่อิ่มท้อง ดังนั้นเราแนะนำว่าให้ดูไปที่สารอาหารเป็นหลักมากกว่า

หลังจากที่ทำเพจ VEGAN CALENDAR เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรกับตัวเองและสังคมบ้าง

เรารู้สึกว่าการทำเพจที่ให้ความรู้เราจะต้องละเอียดกับการหาข้อมูลต่างๆ มากขึ้น เพราะมีคนที่รอรับสารจากเราอยู่ หากมีข้อมูลที่ผิดออกไปก็อาจจะส่งผลเสียเป็นวงกว้างได้

อีกอย่างคือเรารู้สึกภูมิใจว่าเราก็เป็นคนหนึ่งที่สามารถสร้างอิมเเพ็คให้กับผู้คนได้ คนที่เข้ามาดูเรา แม้เขาอาจจะไม่ได้เปลี่ยนมาทานวีแกนอย่างเต็มตัว แต่ถ้าใน 1 มื้อเขาหันมางดเนื้อสัตว์ แน่นอนว่าสุขภาพจะดีขึ้นไม่มากก็น้อย

หลายๆ ครั้งเราจะได้รับคอมเมนต์ขอบคุณ บางคนไม่สามารถทานเนื้อสัตว์ได้ เพราะป่วยไม่รู้จะทานอะไร พอได้มาดูเพจเรา เขาก็มีไอเดียที่จะไปทำต่อ หรืออย่างบางคนที่เขามีปัญหาว่าหากกินวีแกนจะเข้าสังคมอย่างไร ความสุขจะหายไปหรือเปล่า เราก็จะแชร์วิธีการว่าควรจะเข้าสังคมแบบไหน บางทีเขารู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยว พอมันมีคอมมิวนิตีให้เข้ามาร่วมแชร์กัน ก็ทำให้รู้ว่ายังมีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยกัน

สิ่งที่คนกังวลที่สุดเกี่ยวกับการกินวีแกนคือเรื่องสารอาหาร อยากให้ช่วยแชร์หน่อยว่าหากอยากเริ่มต้องทำอย่างไร

อย่างแรกเลยคือเราถูกสอนมาตลอดว่าโปรตีนมาจากเนื้อสัตว์ เพราะว่าเนื้อสัตว์มีสัดส่วนที่เป็นโปรตีนเยอะ แต่ไม่ได้แปลว่าพืชไม่มีโปรตีน จริงๆ แล้วพืชทุกชนิดมีโปรตีน ขนาดข้าวขาวยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบทั้ง 9 ชนิดเลย 

แต่มันก็จะมีข้อกังวลต่อมาว่า หากกินวีแกนจะได้รับคาร์บเยอะหรือเปล่า พวกถั่วต่างๆ ก็มีคาร์บแทนที่จะได้รับโปรตีน อาจจะอ้วนจากคาร์บก่อนหรือเปล่า ซึ่งเราต้องเข้าใจกันก่อนว่า คาร์บมันถูกพูดถึงในแง่ที่ไม่ดี แต่จริงๆ แล้วมันเป็นแหล่งพลังงานหลัก ถ้าถูกกินพร้อมกับไฟเบอร์ วิตามิน แร่ธาตุ ต่างๆ มันโอเคมากๆ 

เพราะฉะนั้นการกินคาร์บไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเลย และคนที่น้ำหนักลดจากการกินคาร์บมีมหาศาล แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือเรื่องของน้ำตาลขัดขาว แป้งขัดขาวมากกว่า ทำให้คาร์บทั้งหมดถูกเหมารวมว่าน่ากลัว  

แหล่งโปรตีนที่สำคัญส่วนมากก็จะเป็นพวกถั่ว เต้าหู้ ฟองเต้าหู้ เทมเป้ อย่างเทมเป้นี่ดีมากๆ คือถั่วเหลืองที่เอาไปต้มและผ่านการหมักจุลินทรีย์ตัวดี ดังนั้นหากกินเข้าไปคุณจะได้ทั้งโปรตีน ไฟเบอร์ วิตามิน แร่ธาตุ ธาตุเหล็ก และโพรไบโอติก 

เราอยากยกตัวอย่างให้คนที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องโปรตีนได้มั่นใจ จากตัวอย่าง เช่น พี่ตูน-ประกาศิต เครือบุตร นักเพาะกายแชมป์โลก หรือนักกีฬา นักมวยระดับโลกก็มีคนที่กินวีแกน เพราะฉะนั้นหากห่วงว่าสารอาหารไม่พอ ให้ดูนักกีฬาที่เขาต้องใช้ร่างกายค่อนข้างหนัก เขายังสามารถที่จะกินและรักษา Performance ไว้ได้ เรายืนยันได้ว่ายังไงกินวีแกนก็ได้รับโปรตีนเพียงพอแน่นอน

โปรตีนจากพืชที่ขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตถือว่าเป็นอาหารแปรรูปไหม

เป็นอาหารแปรรูป เพราะสิ่งที่ไม่เเปรรูปคือสิ่งที่เรามองเห็นว่ามันคืออะไร หรือทำมาจากอะไร แต่เราอาจจะต้องเข้าใจก่อนว่า คำว่าแปรรูปเป็นยังไง เพราะมันมีหลายระดับ ขึ้นอยู่กับว่าแปรรูปน้อยหรือมาก จริงๆ สิ่งที่ไม่ควรกินคืออาหารที่แปรรูปในระดับที่มากเกิน แต่จริงๆ แล้วในทุกอย่างที่เรากิน ซอสปรุงรสอะไรต่างๆ มันก็เป็นอาหารแปรรูปอยู่ดี เลี่ยงได้ยาก

ช่วงนี้เนื้อจากพืชโดนโจมตีเยอะเพราะมันเป็นสิ่งใหม่ คนอาจจะไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่ถ้าถามเรา หากอยากทานวีแกนแล้วสุขภาพดี ก็เน้นกินเป็นโฮลฟูดแล้วกัน โฮลฟูดก็คืออาหารที่ผ่านการปรุงแต่งหรือดัดแปลงน้อยมาก และยังคงอยู่ในหน้าตาดั้งเดิมของมัน

หากเราอยากกินวีแกนแต่ราคามันแพงจัง ทำอย่างไรดี

คนจะมีความเข้าใจว่าวีแกนแพง เพราะเขาดันไปเปรียบเทียบราคากับร้านวีแกนที่อยู่ในเมือง ในจุดที่ไม่ว่าจะเสิร์ฟอะไรก็แพง และอาจจะเพราะในยุคก่อนหน้านี้ เราหาอาหารที่เป็นวีแกนกินได้ยากด้วย แต่ในทุกวันนี้วีแกนมันไม่ได้มีอยู่แค่ในร้านพวกนั้น เราอยากเเนะนำว่าหากทำอาหารกินเองได้ คุณก็จะคุมราคาได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ให้สั่งที่ร้านอาหารเจ ซึ่งมันก็คือวีแกนเหมือนกันและราคาถูกมาก หรืออย่างร้านอาหารตามสั่งทั่วไปเราก็เปลี่ยนจากเนื้อสัตว์เป็นเต้าหู้ 

อย่างเราทำอาหารเองมาก่อนที่จะกินวีแกนอยู่แล้ว จึงเปรียบเทียบราคาได้ง่าย เวลาเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตเราจ่ายถูกลงมากจริงๆ ด้วยวัตถุดิบไม่ได้แพงอยู่แล้วอยู่ที่ว่าคุณเลือกกินอย่างไรมากกว่า

Vtopia มีที่มาที่ไปอย่างไร 

เริ่มจากการที่เราได้พูดคุยกับทั้งพี่เเก้ม (เจ้าของเพจ Plan V) และอีกหลายๆ เพจที่ทำเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ จนได้มานัดเจอกินข้าวกัน เป็นความรู้สึกที่ดีที่มีเพื่อนกินอะไรเหมือนๆ กัน จากที่ปกติกินอยู่คนเดียว 

หลังจากนั้นพวกเราเลยเริ่มมีกิจกรรมไลฟ์สดในไอจีกันทุกวีค คนดูชอบกันมาก เลยตั้งกรุ๊ปกันขึ้นมาชื่อว่า ‘ใต้ต้นมะม่วง’ พอช่วงปลายโควิดก็เริ่มมีการจัดงานอีเวนต์ขึ้นมา โดยที่งานแรกยังไม่มีชื่อด้วยซ้ำ แต่ผลตอบรับดีมากๆ จนได้จัดต่อเนื่องมาเรื่อยๆ พวกเราเลยคุยกันว่าควรมีชื่ออย่างจริงจัง สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าเป็นชื่อ Vtopia ที่มาจากคำว่า Vegan บวกกับ Utopia ที่แปลว่าเมืองในอุดมคติ เราอยากให้เป็นคอมมิวนิตีที่เราสามารถแชร์อะไรกันได้ และดีต่ออนาคตอย่างไรบ้าง 

เล่าให้ฟังหน่อยว่าทำอะไรกันบ้าง 

จริงๆ เเล้ว พวกเราสนใจในด้าน Wellness แต่ที่ยืนพื้นเลยจะเป็นอีเวนต์ที่ชื่อว่า BKK Plant-based Fair ที่เราจัดมา 4 ปีแล้ว จุดประสงค์ของงานนี้เลยคือ ทำให้ทุกคนได้รู้จักอาหาร Plant-based มากขึ้น ได้รู้ว่ามันสามารถทำได้หลากหลายและอร่อยนะ

แต่ละคนในคอมมิวนิตีของเราจะมีกิจกรรมหลากหลายกันมาก อย่างปีที่ผ่านมาเราได้ทำงานร่วมกับ Loopers (ร้านเสื้อผ้ามือสอง) จัดอีเวนต์ที่ชื่อ Soul Food, Good Life ขึ้นมา ซึ่งงานนี้จะมีสินค้า Sustainable และอาหารวีแกนให้คนมาจับจ่าย แบ่งปันพลังงานดีๆ ให้กันมากมาย

และยังมีงาน Vegan Cooking, Plant-based Meetup ที่จัดขึ้นเพื่อให้คนได้มาเจอกัน เพราะเรารู้สึกว่าเราเองก็อยากมีเพื่อนที่กินเหมือนกัน สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ เมื่อเราอยู่กันเป็นคอมมิวนิตี ก็จะมีโอกาสดีๆ เข้ามา มีกลุ่มอื่นๆ ชวนไปทำอะไรดีๆ อีกเพียบ ในทุกปีกิจกรรมของเราจึงเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามโอกาสที่เหมาะสม

การมีอยู่ของ Vtopia ส่งผลอย่างไรกับวงการวีแกน-แพลนต์เบส ในประเทศไทย 

เราคิดว่าคนรุ่นใหม่มีความตระหนักรู้ในด้านของอาหารมากขึ้น จากการมีอยู่ของคอมมิวนิตี Vtopia  หรือแม้กระทั่งการมีอยู่ของเพจ VEGAN CALENDAR เพราะเราเองก็พยายามจะทำอะไรที่มันย่อยง่ายออกมาให้คนเข้าใจ เข้าถึงได้ง่ายขึ้น จึงทำให้คนสามารถเข้ามาอ่านข้อมูลแล้วนำไปใช้ต่อได้มากขึ้น 

เราเคยทำแคมเปญกินมังวันละมื้อให้คนไปแชร์ต่อ เราอยากให้คนได้รู้จักว่ามันมีสิ่งเหล่านี้อยู่นะ ได้ค่อยๆ ทำความรู้จักกับมันและวันหนึ่งหากคุณอยากกิน พวกเราอยู่ตรงนี้นะ มีหลายคนเลยที่เริ่มต้นทานวีแกน อาจจะอาทิตย์ละวัน หรือวันละมื้อจากแคมเปญเหล่านี้

เล่าเรื่องราวหรือเหตุการณ์น่าประทับใจของคนในคอมมิวนิตีให้ฟังหน่อย

มีเหตุการณ์ที่เราประทับใจมากๆ คือ เราเคยโดนทัวร์ลง เราก็เข้าใจว่าคนทำเพจซึ่งเป็นสื่อสาธารณะส่วนมากก็จะมีทัวร์ลงกันบ้างอยู่เเล้ว ตอนนั้นเราเคยทำคลิปไข่วีแกนลง TikTok เป็นไข่ที่ทำเหมือนไข่จริงๆ มาก หลังจากนั้นคนก็เข้ามาด่าเราว่า ถ้าไม่กินเนื้อสัตว์จะมาทำให้มันเหมือนทำไม ตอนนั้นคลิปก็แมสไปเลย (หัวเราะ) แต่ก็มีคนมาเซฟเราและน้องไข่วีแกนเยอะมาก

มีอีกหลายๆ คนเข้ามาขอบคุณเรา เพราะทำให้เขาได้ความรู้และสามารถจัดการมื้ออาหารของตัวเองได้ การที่มีออปชันอาหารที่หลากหลายออกมา ทำให้เขายังเอนจอยกับการทานอาหารต่อได้ 

ได้เรียนรู้อะไรจากการสร้างคอมมิวนิตีนี้มากที่สุด 

เราได้เรียนรู้ว่าคนที่เลือกมาทางนี้มันมาจากหลายองศามาก ต้องบอกก่อนว่าคนที่กินวีแกนไม่ใช่คนที่ไม่ชอบกินเนื้อสัตว์นะ จริงๆ เราเองก็รักเนื้อสัตว์มาก เราชอบรสชาติของซุปกระดูกหมู เเต่วันนี้ที่เราเลือกมาทางนี้ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเราไม่อยากกิน มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่พวกเราหันมากินวีแกนเพราะได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของอุตสาหกรรมต่างๆ หรือไปเห็นภาพอะไรที่มันสะเทือนใจมากมา  แล้วไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สัตว์ต้องตาย 

แต่เราก็เชื่อว่า ทุกความเชื่อเป็นเหตุเป็นผลและอยู่ร่วมกันได้หมด สมัยนี้แต่ละคนเสพสื่อกันมาคนละแบบ บางคนที่เขาดูคีโตมาเยอะเขาก็จะเชื่อในการกินคีโต หรือใครที่ดูวีแกนมาเยอะ เขาก็จะถูกปลูกฝังด้วยวิธีคิดแบบคนกินวีแกน และก็จะไม่เห็นมุมอื่นเลย พอเข้าใจสิ่งเหล่านี้มันทำให้เรารับมือกับสถานการณ์และแนวคิดที่หลากหลายได้มากขึ้น เพราะเข้าใจว่าแต่ละคนมีรากฐานที่ไม่เหมือนกัน เราได้รู้จักคนและหลักของมนุษย์มากขึ้น รู้จักการปล่อยวาง และเข้าใจคน ยิ่งได้ทำงานกับคนเยอะมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เราได้เห็นความแตกต่างหลากหลายมากขึ้นเท่านั้น

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

Cozy Cream

ไม่ใช่โซดา อย่ามาซ่ากับพี่