HE WAS THERE

การมาเชียงใหม่คนเดียวของฉันครั้งนี้ต่างจากครั้งไหนๆ และต่างจากการไปที่ไหนก็ตามด้วยตัวคนเดียว

สำหรับฉันและคนรักเก่า เชียงใหม่เป็นเซฟโซนของพวกเรา สถานที่ อาหาร ผู้คน เป็นความคุ้นชินที่ฉันต้องกลับมาหาปีละหลายหน คล้ายการเดินทางมาเยี่ยมเพื่อนรัก จนเมื่อเขา-ความรักของฉัน-เดินทางจากฉันไป เชียงใหม่จึงคล้ายเป็นเมืองต้องห้าม เพราะฉันเชื่อมโยงเขาไว้กับที่นี่ รวมไปถึงอีกหลายอย่างในชีวิต

การกลับมาเชียงใหม่คนเดียวจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

ฉันเริ่มต้นด้วยร้าน ข้าวซอยคุณยาย ร้านข้าวซอยเล็กๆ ที่ตอนนี้กลายเป็นร้านดังไปแล้ว ฉันรู้จักร้านนี้ก็จากเขานั่นแหละ นี่มันร้านโปรดของเขา มากี่ทีเราก็ต้องนั่งอยู่ตรงข้ามกัน ฉันจะนั่งมองเขากินชามโปรดอย่างเอร็ดอร่อย เขาจะถอดแว่นตาออก ปาดเหงื่อที่ไหลบนใบหน้า ส่งยิ้มมาและก้มหน้าสูดเส้นก๋วยเตี๋ยวต่อ นั่นแหละความสุขของเขา และใช่ นี่แหละ ความสุขของฉัน…

ครั้งนี้ฉันตั้งอกตั้งใจว่าจะมากินขนมจีนน้ำเงี้ยวที่ร้านให้ได้ แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าที่ร้านไม่ได้ทำเมนูน้ำเงี้ยวมาสักพักแล้ว ฉันอกหักจากน้ำเงี้ยวและจบด้วยการสั่งข้าวซอยไก่เมนูดัง

‘คนเรามันจะอกหักได้สักกี่ครั้งกันนะ’ ฉันสงสัย และหมายถึงเรื่องน้ำเงี้ยว…

อิ่มจากมื้อเช้า ฉันตั้งใจเดินทางด้วยรถแดงต่อไปย่านนิมมานเหมินทร์ นิมมานฯ เปลี่ยนไปทุกครั้งที่ฉันมา การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอาจเป็นหน้าตาที่แท้จริงของนิมมานฯ บรรยากาศที่นี่ชวนคึกคักเหมือนทุกที ครั้งนี้มีอาคารอิฐหลังโตโผล่ขึ้นมาในชื่อ One Nimman ฉันไม่เคยมาที่นี่กับเขาหรอกเพราะมันเพิ่งเปิดใหม่ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้นึกถึงเขาน้อยลงสักนิด

ฉันเดินผ่านเข้าไปทางอาคารอิฐ ด้านในของ One Nimman มีลานโล่งที่ล้อมรอบด้วยอาคารสูง-ต่ำที่มีทางเชื่อมระหว่างอาคาร ในตัวอาคารมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านขายของหลากหลาย บรรยากาศชวนให้นึกว่ากำลังเดินอยู่ที่ไหนสักที่ที่ไม่ใช่เชียงใหม่ แต่เมืองนี้ก็เป็นแบบนี้ จนฉันคิดว่านี่อาจเป็นเสน่ห์ของมัน

ฉันเดินต่อ จุดหมายที่ตั้งใจไปคือร้านหนังสืออิสระร้านโปรด ระหว่างเดินบนทางเท้าเลียบถนนนิมมานเหมินทร์ อากาศเย็นพัดมาเป็นระยะ นี่มันเชียงใหม่หน้าหนาวหรือหน้าเหงากันแน่นะ ลมที่ตีปะทะคล้ายกรีดลงบนผิวหนังชวนให้สงสัยว่า ‘ฉันมาทำอะไรที่นี่กันแน่’ ไม่ทันได้คำตอบ ฉันก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านหนังสือที่เป็นเป้าหมายของฉันแล้ว

ร้าน เล่า ซ่อนตัวอยู่มุมของตึกบนถนนนิมมานเหมินทร์ หากไม่สังเกตอาจไม่เห็นว่ายังมีร้านหนังสือดีๆ อยู่ตรงนั้น ฉันและเขาชอบหนังสือ มันคือหนึ่งในไม่รู้กี่อย่างที่เป็นความสนใจร่วมกันของเราสองคน ฉันชอบที่มีเขาอยู่ด้วยกันในร้านหนังสือ เราเดินแยกกันเพื่อดูหนังสือที่เราสนใจ ซื้อมันมา และต่างคนต่างอ่านหนังสืออยู่คนละฝั่งของโต๊ะในร้านกาแฟสักร้าน เขาจะสั่งกาแฟและฉันจะสั่งชาเขียว ปกติมันคงจะเป็นแบบนั้นแต่ครั้งนี้คงต่างออกไป ในร้านเล่าวันนี้มีเพียงฉันกับหนังสือและผู้คนที่ไม่รู้จักที่แวะเวียนมาหยิบจับหนังสือในร้านแห่งนี้

ฉันชอบบรรยากาศผ่อนคลายของที่นี่ สำหรับฉันร้านหนังสือเป็นดินแดนลึกลับ เวลาในร้านหนังสือจะผ่านไปไวกว่าข้างนอกเสมอ ฉันเดินวนไปวนมาจนได้หนังสือที่ถูกใจและกลับออกมาจากร้าน อากาศดีชวนให้อยากสัมผัสลมหนาวที่นานทีปีหนจะได้พบกันสักครั้ง

ฉันนึกถึงบรรยากาศของประตูท่าแพเลยโบกรถแดง ยานพาหนะคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ และก็สมคำร่ำลือ การโบกรถแดงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ยิ่งสำหรับการมาเชียงใหม่ครั้งนี้ของฉันที่มีรถแดงเป็นขนส่งสาธารณะหลัก ต่างจากทุกครั้งที่เขาขับรถพาฉันไปไหนต่อไหน ตลอดหลายวันที่ต้องต่อรองราคาและถูกปฏิเสธจากรถแดง ฉันถึงกับอยากแซวตัวเองว่า ถ้าจะมาเชียงใหม่แบบไม่มีแพลนและไม่มีแฟนคอยรับ-ส่งแบบนี้ ต้องมีเงินไว้แก้ปัญหาจริงๆ

ถ้าเขารู้เข้า เขาคงขำที่ฉันบ่นไม่หยุดเรื่องนี้ ฉันยังจำน้ำเสียงเวลาที่เขาแซวและเสียงหัวเราะนั้นได้ดี…ฉันจำได้ดีจริงๆ

สุดท้ายรถแดงก็พาฉันมาถึงประตูท่าแพ คงคุ้นตากันดีกับกำแพงอิฐยาวในเมืองเชียงใหม่ ลานปูนกว้างด้านหน้ากำแพงมักเต็มไปด้วยผู้คน ฉันชอบมาที่นี่เพราะมันเห็นความหลากหลาย ได้เห็นนักท่องเที่ยวชาติต่างๆ แวะเวียนมาเพื่อถ่ายภาพกับกำแพงอิฐเป็นที่ระลึกว่ามาถึงเชียงใหม่แล้ว พร้อมกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟอย่างการถ่ายรูปกับนกพิราบ นกพิราบสำหรับฉันเป็นความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียด แต่ไม่ว่ายังไงก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการได้เห็นพวกมันบินเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ

นั่นแหละนะ…ทุกชีวิตต่างต้องการการโบยบินมากกว่าอยู่ในที่ที่รู้สึกว่าถูกกักขังอยู่ในกรงไร้ชีวิต ช่วงเวลาที่ผ่านมาฉันอาจเป็นคนรักแบบนั้น ความรักและความคาดหวังของฉันคงคล้ายเป็นกรงที่ขังเขาไว้ แม้จะเกิดจากความปรารถนาดี แต่ฉันละเลยความต้องการของคนรัก คาดหวังให้เขาเป็นคนที่ดีในบรรทัดฐานที่ฉันตั้งไว้มากกว่าจะยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น

มันอาจจะดีแล้วที่ตอนนี้เขาได้โบยบิน ได้เป็นในสิ่งที่เขาเป็นมากกว่าอยู่ในกรอบที่ฉันตีล้อมเขาไว้แล้วเอาแต่ตะโกนบอกว่าฉันทำเพราะฉันรักเขา

ใช่, ในนามของความดีและความรักไม่สามารถทำได้ทุกอย่าง

ถึงตอนนี้ฉันยังตอบตัวเองไม่ได้หรอกว่าฉันมาทำอะไรที่นี่ ที่เชียงใหม่ตอนนี้ แต่การได้มาอยู่ในที่ที่เคยมีเขาทำให้ฉันได้ทบทวนอย่างหนักถึงความสัมพันธ์ของเรา

บทเรียนจากความสัมพันธ์นี้มีค่ากับชีวิตฉัน และไม่ว่าอย่างไรฉันก็คงต้องก้าวต่อไปให้ได้ ฉันพบว่าในระหว่างทาง สถานที่ ผู้คนที่ฉันพบเจอ เขาอยู่ที่นั่น อยู่ตรงนั้น อยู่ภายในตัวฉัน เป็นส่วนหนึ่งของฉันเสมอไป ไม่ว่าดีหรือร้ายที่เราทำและมอบให้กันจะเป็นส่วนหนึ่งในตัวตนของเราสองคนเสมอ

ที่จริง he was there ไม่ใช่ในเชียงใหม่หรอก

แต่ he was there ในความทรงจำและในตัวตนของฉันต่างหาก

ใครมีเซ็ตภาพถ่ายสวยๆ อยากส่งมาลงคอลัมน์นี้บ้าง คลิกที่นี่เลย

AUTHOR