THE BEAUTIFUL SERENDIPITY

การเดินทางสู่ประเทศอิตาลีครั้งนี้ของผมมีเวลาไม่มาก เพราะเป็นช่วงเวลาสามวันสุดท้ายของการเดินทางก่อนที่จะต้องกลับประเทศไทย แผนของผมคือ ‘หนึ่งเมือง หนึ่งวัน’ แน่นอนว่าสามวันนี้จะต้องเป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยพอสมควร แต่ด้วยเวลาและงบประมาณที่จำกัดแล้วก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับมาที่นี่อีกครั้งหรือไม่…

จุดหมายของผมไม่ต่างจากนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ นัก ผมเองอยากมาสัมผัสความสวยงามและยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ยุคกลางใน 3 เมืองสำคัญที่สุดในอิตาลี เวนิส โรม และฟลอเรนซ์

ตลอดการเดินทางทั้ง 3 วันในอิตาลี สำหรับผมแล้ว ฟลอเรนซ์คือเมืองที่ผมประทับใจที่สุด เมืองนี้เต็มไปด้วยจดหมายเหตุของประวัติศาสตร์ คือเมืองที่ขึ้นชื่อว่าอาณาเขตทั่วทั้งเมืองเปรียบได้ดั่งพิพิธภัณฑ์ศิลปะอันล้ำค่าแห่งยุคเรเนอซองส์ แต่สำหรับนักศึกษาสายวิทยาศาสตร์จ๋าแบบผมแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเหตุผลของความประทับใจเท่าไหร่นัก

เสียงดนตรีของศิลปินข้างถนน ความวุ่นวายของผู้คนในร้านอาหาร บทสนทนาเคล้าเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของคนท้องถิ่นตามร้านกาแฟ แสงแดดอ่อนๆ ที่ลอดผ่านตึกสีเหลืองมัสตาร์ดของแต่ละตรอกซอกซอย บรรยากาศการเฝ้าชมพระอาทิตย์ตกดินของคู่รักและหลายครอบครัวที่ดูอบอุ่นและน่ารักในตอนเย็น ณ Piazzale Michelangelo ความมีชีวิตชีวายามค่ำคืนในทุกมุมเมือง ที่อุดมไปด้วยผู้คนที่มีความสุขร่วมกับดนตรีและแสงไฟสีนวลตา…สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนแปลกหน้าอย่างผมพาลตกหลุมรักเมืองหลวงแห่งแคว้นทัสกานีแห่งนี้อย่างเสียไม่ได้

ผมกลับมามองภาพถ่ายเหล่านี้อีกครั้ง ด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม อิตาลีอาจจะไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ใช่สถานที่ที่สงบ ร่มรื่นสักเท่าไหร่ แต่ผมกลับรู้สึกหลงรักในความไม่สมบูรณ์แบบของมัน ก็คงจะโทษอะไรไม่ได้นอกจากเสน่ห์อันเหลือร้ายของเจ้าหล่อนนี่แหละครับ ;P

ใครมีเซ็ตภาพถ่ายสวยๆ อยากส่งมาลงคอลัมน์นี้บ้าง คลิกที่นี่เลย

AUTHOR