Taste of the Seacoast

เรื่องนี้เริ่มต้นด้วยเสียงโขลกพริกแกงส้มเข้าจังหวะดังมาจากหลังครัว
ก่อนจะตามมาด้วยกลิ่นฉุนจัดจ้านชวนฮัดเช้ยจากกะเพรากำโตที่ใส่ลงไปในกระทะผัดเผ็ด
เสียงฉู่ฉ่าจากลูกปูม้าชุบแป้งที่กำลังสะดุ้งน้ำมันร้อนๆ และข้าวสวยหอมฉุยที่ระอุได้ที่

ตัดภาพมาอีกที ปลาดุกทะเลผัดเผ็ดรสเข้ม
แกงส้มปลากดผัดกาดดองรสแปลกลิ้น ปูม้าผัดต้นหอมกลิ่นฟุ้ง
และลูกปูม้าชุบแป้งทอดที่พร้อมเคี้ยวได้ทั้งตัวก็วางอยู่บนโต๊ะพร้อมให้เรานั่งล้อมวงกิน
ลุงโรจน์-พ่อครัวบ้านผู้ใหญ่เก๋บอกว่า “นี่แหละ อาหารคนบ้านแหลม”

เพราะอยู่ติดทะเล
อาหารทะเลสดๆ จึงอยู่ในสำรับไม่ได้ขาด
แถมยังไม่ต้องกังวลเรื่องความสดหรือสารพิษตกค้างจากฟอร์มาลีนแช่อาหารทะเล
เพราะขึ้นเรือมาปุ๊บ ก็ไปซื้อได้ปั๊บ ใครจะเอาไปปรุงแบบไหนก็สูตรใครสูตรมัน
แต่ส่วนใหญ่เน้นปรุงง่าย กินง่าย และส่งต่อสูตรเก่าแก่และเคล็ดลับจากครัวต่อครัว

“แกงส้มภาคกลางเขาจะโขลกเนื้อปลาลงไปในพริกแกงด้วยใช่ไหม
แต่บ้านเราปลาสดๆ จะโขลกทำไม ใส่มันทั้งชิ้นนั่นแหละ น้ำแกงส้มเลยใสกว่า
แล้วที่ใส่ผักกาดดองก็เพราะมันช่วยดับคาว ปลากดทะเลนี่คาวมาก
ถ้าไม่แกงหน่อไม้ดองก็ผักกาดดองนี่แหละ แล้วก็ไม่ต้องใส่ส้มมะขามเหมือนแกงส้มภาคกลาง
ส่วนเกลือ ก็ต้องเกลือนาเราเองสิ ใส่น้ำปลามันคาว”
พ่อครัวอธิบายเคล็ดลับการปรุงด้วยเสียงเหน่อสไตล์คนบ้านแหลม
แล้วหยิบปูม้าทอดกรอบมากัดกร้วมโชว์ว่าเคี้ยวได้ทั้งตัวจริงๆ

“ลูกปูนี่กินได้ทั้งตัว
เพราะเปลือกมันยังไม่แข็งดี ปูม้าบ้านแหลมอร่อยที่สุดแล้วนะ เนื้อมันหวาน แน่น เขาว่าปูในทะเลโคลนมันอร่อยกว่า
แล้วหนูต้องจำไว้นะว่า เวลากินปูม้า อย่าไปเลือกไอ้พวกตัวใหญ่ๆ 2 ตัวโล 3 ตัวโลน่ะมันแก่แล้ว เนื้อไม่แน่น กินตัวกลางๆ ปูหนุ่มๆ สาวๆ เนื้อแน่น
อร่อยกว่ากันเยอะ”

นอกจากปูม้าอันเป็นของขึ้นชื่อของอำเภอบ้านแหลม
ปูอีกชนิดที่ใครผ่านบางตะบูนเป็นต้องซื้อก็คือก้ามปูใบ้เนื้อแน่นหวาน
ปูใบ้เป็นปูหินชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในโคลนแถวๆ หลักไม้ฟาร์มหอยแมลงภู่
เป็นปูก้ามโตตัวเล็ก เวลาชาวประมงจับมาได้ ก็จะหักเอาเฉพาะก้ามมาต้มขาย
ส่วนตัวก็ทิ้งลงน้ำไปเพราะมันยังไม่ตายและยังหากินได้ต่อ ชาวประมงบอกว่าก้ามมันจะงอกขึ้นมาได้ใหม่เวลาลอกคราบ
แต่อันที่จริงมันก็นานเกินกว่าจะจับมันขึ้นมาหักก้ามได้อีกครั้ง

กินไม่หมดก็ต้องแปรรูป
ปลาอินทรีเค็มบ้านแหลมรสเข้มซึ่งทำจากปลาอินทรีอวนลอยเรือเล็กที่ไม่ผ่านการน็อกน้ำแข็ง
กุ้งแห้งตัวโตกว่าใคร และปลาหมอเทศแดดเดียวคือของดีประจำย่าน
สำหรับปลาหมอเทศมีให้กินได้ทั้งปี แต่ผู้รู้แนะนำว่าช่วงเดือนเมษาที่น้ำเริ่มแห้ง
ปลาหมอจะมีกลิ่นโคลนชัดกว่าเดือนอื่น

ส่วนผักพื้นบ้าน
นอกจากชะครามที่ขึ้นอยู่ตามนาเกลือและนากุ้ง เก็บยอดอ่อนมาลวกจิ้มน้ำพริก ทำทอดมัน
เจียวไข่ แกงส้ม แกงคั่ว และยำสารพัด อีกหนึ่งผักพื้นบ้านที่ยังไม่ขึ้นโต๊ะร้านอาหารก็คือขนมลูกแสมนึ่งหอมๆ
ในกระทงใบตอง ส่งตรงจากป่าชายเลนถึงครัวขนมหวานในตลาดพื้นบ้านเท่านั้น

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารพื้นบ้านแห่งอำเภอบ้านแหลม
แต่ก็มากพอจะทำให้เราจบเรื่องนี้ไป ด้วยเสียงท้องร้องระงม

ร้านครัวริมอ่าวบางตะบูน

บางตะบูนเป็นโซนที่มีอาหารบริการหนาแน่น
ทั้งร้านเล็กๆ และร้านใหญ่โตริมถนน สำหรับร้านครัวริมอ่าว ซึ่งเป็นร้านเล็กๆ
ซ่อนอยู่ในซอยหลังโรงเรียนวัดปากอ่าวหลังเก่า เจ๊มอญ-เจ้าของร้านเป็นคนบางตะบูนแท้ๆ
และเป็นแม่ครัวเองกับมือ จุดเด่นของร้านนี้คืออาหารทะเลสดๆ
ที่รับซื้อจากเรือทุกวัน เพราะนอกจากจะเอามาขายเองในร้านอาหารแล้ว
ยังเป็นยี่ปั๊วะส่งอาหารทะเลจากชาวประมงรายย่อยขายให้กับผู้รับซื้อด้วย
จึงรับประกันได้เลยว่า อาหารทะเลร้านนี้สดใหม่เพราะเพิ่งเลาะออกมาจากอวนกันหน้าร้าน
เมนูเด็ดที่ใครมาก็ต้องสั่งคือแกงคั่วปูไข่ใบชะคราม
ก้ามปูใบ้นึ่งเนื้อแน่นที่ทุบเปลือกมาให้พร้อมกิน ปลาดุกทะเลผัดฉ่ารสจัดจ้าน ปลาทูสดทอดน้ำปลาที่กรอบจนกินได้ตั้งแต่หัวจดหาง
และหอยแครงลวกน้ำจิ้มแซ่บจากฟาร์มปากอ่าวนี่เอง

เปิดทุกวัน 10:00 – 20:00 น.
ที่ตั้ง: ข้างโรงเรียนวัดปากอ่าว ต.บางตะบูน อ.บ้านเเหลม จ.เพชรบุรี
โทรศัพท์: 082-354-0454, 092-202-8049

ร้านครัวไม้พยุง

ด้วยความที่เจ้าของร้านชื่นชอบไม้มาก
จึงตกแต่งร้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าและไม้พยุงเลอค่า
บรรยากาศจึงค่อนข้างแตกต่างจากร้านอาหารทั่วไป และถึงร้านจะตั้งอยู่ริมถนนข้างนาเกลือดูเงียบเหงา
แต่เวลาเที่ยงและเย็นของทุกวัน เราจะเห็นรถจอดกันแน่นหน้าร้าน เพราะครัวไม้พยุงเขาเด็ดขาดด้วยรสชาติและปริมาณเต็มจานโต
ไม่ว่าจะเป็นกุ้งตัวเป้ง ปลาตัวใหญ่ หอยเนื้อๆ ปูเน้นๆ อยากกินเมนูไหนก็มีให้เลือกมากมาย
จะต้มยำ แกงป่า ผัดฉ่า ผัดผงกะหรี่ ทอดกระเทียม ทอดน้ำปลา ร้านนี้มีครบ
หรือเมนูหากินยากอย่างตับปลาทูก็มีให้เลือกตั้งแต่ผัดกะเพรายันผัดขิง
อร่อยจัดจ้านทุกจาน ที่สำคัญคือช่วงเวลาเช็กบิล ใครไม่เคยมาต้องฮือฮากับราคาที่ถูกกว่าปริมาณ และอยากจะแวะมาบ่อยๆ

เปิดทุกวัน 10:00 – 21:00 น.
ที่ตั้ง: ตรงข้ามคลังน้ำมันบางแก้ว
ต.บางแก้ว อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี
โทรศัพท์: 086-132-9264

ครัวปรียานนท์

“ถ้าอยากกินชะครามอร่อย
ต้องไปครัวปรียานนท์”

นักชิมชาวบ้านแหลมบอกไว้
และเมื่อได้ลองไปชิมก็เห็นจริงตามนั้น
ร้านนี้มีเมนูแนะนำเป็นน้ำพริกกะปิและน้ำพริกแดงเสิร์ฟคู่กับใบชะครามลวกราดกะทิจัดมาพอดีคำ
แถมยังแนะนำให้กินคู่กับปลาหมอเทศแดดเดียว เจ้าของร้านบอกว่า
น้ำพริกแดงเป็นน้ำพริกคู่บ้านของคนแถบนี้ แต่เพราะกลัวคนส่วนใหญ่ไม่คุ้นลิ้น
เลยขอเสิร์ฟน้ำพริกกะปิแพ็กคู่ให้ชิมพร้อมกัน
ส่วนปลาหมอเทศก็แล่เอาแต่เนื้อแล้วเคล้าน้ำปลาตากแดดไว้ 1 วันก่อนเอามาทอด รสจัดจ้านกำลังดีและเข้ากับน้ำพริกแดงเป็นที่สุด
ส่วนเมนูอื่นๆ อย่างหลนปู แกงส้มใบชะคราม และเมนูปลาต่างๆ ก็มีให้เลือกหลากหลาย และที่ต้องไม่พลาด
คือปูม้ารสหอมและหวานบริการแกะพร้อมสรรพ รับประกันความหวานและหอมจริงๆ

เปิดทุกวัน
10:00 – 21:00 น.
ที่ตั้ง: หาดเจ้าสำราญ ต.หาดเจ้าสำราญ อ.เมือง จ.เพชรบุรี
โทรศัพท์: 032-441-432

“ในฐานะของแม่ค้า
การเป็นเจ้าบ้านที่ดีของเราคือความจริงใจ อย่างลูกค้าสั่งแกงป่าปลาเห็ดโคน
แต่ปลาของเราไม่สดละ เราก็จะออกมาบอกเขาว่าอย่าสั่งเลย อันไหนที่ไม่สด ไม่ดี
เราจะไม่ให้เสิร์ฟ แล้วเราขายไม่แพงเพราะเราต้องการความยั่งยืน
คือไม่ได้ขายแค่นักท่องเที่ยวขาจรมากินแล้วก็กลับไป แต่เราจะอยู่ตรงนี้
ลูกค้าต้องกลับมากินอีก”

พิจิตรา
ปรียานนท์
เจ้าของร้านครัวปรียานนท์
เจ้าบ้านหาดเจ้าสำราญ

ภาพ มณีนุช บุญเรือง

อ่านเรื่องการเดินทางบนถนนสายเกลือ อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี แบบเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย

AUTHOR