ยาแก้ไอมะขามป้อมรสอร่อย
แคปซูลฟ้าทะลายโจรสู้หวัด เจลใบบัวบกลดรอยแผลเป็น อาจเป็นสินค้าสมุนไพรจากอภัยภูเบศรที่เราคุ้นเคย
ตึกบาโรกสีเหลืองแสนโบราณอาจคุ้นตาจากละครพีเรียตในโทรทัศน์ ส่วนชื่อโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรแห่งจังหวัดปราจีนบุรีคงเคยลอยเข้าหูในข่าวที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสมุนไพร
เราอาจรู้จักโรงพยาบาลแห่งนี้เพียงเท่านั้น
จนกระทั่งได้ก้าวขาเข้ามาเยือนด้วยตัวเอง
ตึกเหลืองตระหง่านเป็นภาพงดงามอย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนรูปปั้นหน้าตึกก็ทำหน้าที่แนะนำให้เราได้รู้จักเจ้าบ้านคนสำคัญในอดีต
ว่ากันตามประวัติ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ต้นตระกูลอภัยวงศ์
คือเจ้าเมืองพระตะบองที่เคยตามรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรป
จนกระทั่งกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสทำให้เราเสียดินแดนส่วนหนึ่งไปซึ่งรวมถึงพระตะบองด้วย
เจ้าพระยาอภัยภูเบศรจึงขอกลับมาอยู่เมืองไทยและสร้างตึกหลังนี้เพื่อรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่
5
ซึ่งเป็นตึกแบบเดียวกับที่เคยสร้างที่พระตะบองหลังกลับจากยุโรปใหม่ๆ
ลายปูนปั้นอ่อนช้อย
กระเบื้องโบราณลายเก๋ ช่องลมไม้ฉลุลายประณีต บานประตูขรึมขลัง
และความโอ่อ่าของตึกชวนให้เรานึกย้อนไปเมื่อร้อยปีก่อน หลับตาจินตนาการถึงคึกคักเมื่อตึกได้รับเสด็จรัชกาลที่
6
และชีวิตมากมายที่วนเวียนอยู่ในตึกนี้หลังถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นโรงพยาบาล
เราสนใจราวบันไดไม้มันปลาบแต่คล้ายถูกตัดห้วนผิดจากรายละเอียดอ่อนช้อยอื่นๆ จนหมอแฟต-ปวัชสรา คัมภีระธัม แพทย์แผนประยุกต์ประจำโรงพยาบาลเฉลยกับเราว่าต้องตัดรายละเอียดบางส่วนทิ้งเพราะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไม่สะดวก
หลังจากสร้างตึกโรงพยาบาลหลังปัจจุบันเรียบร้อย
ตึกหลังนี้ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทั้งสวยและเป็นมิตรกับผู้เยี่ยมชม
มีสมุนไพร ตำรับยาโบราณ
ไปจนถึงมรดกจากหมอยาเก่าแก่จัดแสดงพร้อมเรื่องเล่าที่ผูกโยงไว้อย่างน่ารัก
ลืมภาพพิพิธภัณฑ์ห้องเก็บของที่เคยแวะไปได้เลย แถมทุกสุดสัปดาห์และวัดหยุดนักขัตฤกษ์
ที่นี่ยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปเกี่ยวกับสมุนไพรที่ทำไปใช้ได้ง่ายๆ ที่บ้าน มีน้ำสมุนไพรให้ลองจิบ
ไปจนถึงอาหารว่างจากสมุนไพรง่ายๆ ให้ลองชิม
เพื่อให้คนทั่วไปรู้สึกว่าสมุนไพรเป็นมิตรและใกล้ตัว
อีกความน่าสนใจคือร้านยาโพธิ์เงินโอสถที่เปิดให้บริการตรวจรักษาโรคต่างๆ
ด้วยศาสตร์แพทย์แผนไทยและเจียดยาสมุนไพร ซึ่งได้รับการจัดการอย่างเป็นระบบเช่นเดียวกับบริการตรวจรักษาในโรงพยาบาลที่คู่ขนานไปกับการแพทย์แผนปัจจุบัน
โดยชื่อร้านโพธิ์เงิน
เป็นชื่อของร้านยาชื่อดังย่านตลาดพลูที่ยกตู้ยาดั้งเดิมและตำรายาเก่าแก่ให้พิพิธภัณฑ์ได้นำมาใช้นั่นเอง
เดินเพลินทั่วตึกแล้วต้องไปต่อที่สวนหย่อมสมุนไพรที่มีป้ายบอกชื่อเสียงเรียงนามและสรรพคุณพร้อมสรรพ
ด้วยความร่มรื่นทำให้สวนแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนมานั่งเล่น เดินเล่น
ไม่ใช่สวนจัดแสดงไร้ชีวิตที่เราเคยเห็นในงานจัดฉาก และเมื่อสำรวจต่อไปยังห้องนวดแผนไทยที่มีผู้มาใช้บริการคึกคัก
ร้านขายผลิตภัณฑ์อภัยภูเบศรที่มีสินค้าครบวงจร และตลาดนัดสีเขียวขนาดกะทัดรัดที่มีผักพื้นบ้านมาให้เลือกช้อป
เรายิ่งรู้สึกว่าโรงพยาบาลนี้มีชีวิตชีวาเหลือเกิน
แต่โรงพยาบาลแห่งนี้ยังสร้างเสียงตึกตักในหัวใจได้มากกว่านั้น
เมื่อหมอแฟตพาเราไปยังอภัยภูเบศร เดย์สปา สปาหรูหราที่ให้บรรยากาศเทียบเท่าสปาดีๆ
ในเมืองหลวง
แต่ที่โดดเด่นกว่าคือการนำศาสตร์แพทย์แผนไทยมาประยุกต์ร่วมกับการสปาเพื่อผ่อนคลายและความงาม
เมื่อมาใช้บริการ ทางสปาจะหาธาตุเจ้าเรือนของคนนั้นๆ
และแนะนำทรีตเมนต์ที่เหมาะสมให้ อาทิ นวดน้ำมัน อบสมุนไพร ขัดผิว
ด้วยสมุนไพรตามธาตุเจ้าเรือนเพื่อให้ตรงกับความต้องการของร่างกายตามภูมิปัญญาโบราณ
อีกทั้งยังมีสปาควีซีน ร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่มีเมนูน่าสนใจ อร่อยจริงจัง
และราคาประหยัดจนอยากมาฝากท้องบ่อยๆ
ที่เล่ามาเป็นสิ่งที่ผู้มาเยือนอย่างเราสัมผัสได้โดยตรง
แต่ถ้าว่ากันในหมวดหลังบ้าน โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรยังคงทำงานส่งเสริมสุขภาพในหมวดแพทย์แผนไทยและงานสมุนไพร
ทั้งงานฝึกอบรมการเรียนการสอน เครือข่ายการวิจัยทางคลินิกร่วมกับมหาวิทยาลัยและสถาบันต่างๆ
พัฒนาโรงงานยาที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง ทำงานกับเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ของชาวบ้านที่มีมากกว่าสิบกลุ่มทั่วประเทศ ซึ่งคอยสนับสนุนวัตถุดิบในการผลิตยา
มองหาพื้นที่ทำฟาร์มขนาดใหญ่สำหรับปลูกสมุนไพรเพิ่มเพื่อความมั่นคงทางยา ดูแลหมอยาพื้นบ้านในเครือข่าย
ฟื้นฟูป่า รักษาระบบนิเวศ
รวมไปถึงการปลูกฝังให้คนทั่วไปเข้าใจการดูแลตนเองได้โดยไม่ต้องพึ่งหมอเสมอไป
ซึ่งการทำงานอีกมากมายเหล่านี้คือสิ่งที่เราไม่อาจมองเห็นจากการเยี่ยมชม
หากโรงพยาบาลทั่วไปเป็นที่แห่งการรักษาเยียวยาความเจ็บป่วย
แต่สำหรับที่นี่
เรารู้สึกว่าอภัยภูเบศรเป็นหัวใจ ที่ทำให้เมืองแห่งนี้เป็นเมืองแห่งการเยียวยา
เมืองที่เรามาเพื่อเยียวยาหัวใจ
“เจ้าบ้านที่ดีต้องมีความเป็นเจ้าของ
มีความรัก ความหวงแหน และความเข้าใจในบ้านของตัวเองก่อน คือเราต้องเข้าใจตัวเอง
ภูมิใจในสิ่งที่เราเป็น เราถึงจะพร้อมดูแลผู้มาเยือนให้ดีที่สุด แฟตเกิดที่โรงพยาบาลนี้
และได้กลับมาเป็นแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่นี่ด้วย ถ้าถามในฐานะเจ้าบ้าน
หัวใจของอภัยภูเบศรคือความเป็นธรรมชาติ
ความเป็นมนุษย์ที่เราจะดูแลเพื่อนมนุษย์ด้วยวิถีธรรมชาติ”
ปวัชสรา
คัมภีระธัม
แพทย์แผนไทยประยุกต์
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และเจ้าบ้านชาวปราจีนบุรี
ภาพ มณีนุช บุญเรือง
เดินทางไปเก็บเรื่องราวจากเจ้าบ้านปราจีนบุรีกันต่อได้ที่นี่