เมื่อปัสสาวะของ Andy Warhol ถูกราดลงบนผืนแคนวาส ทันใดนั้นมันก็กลายเป็นงานสมบัติล้ำค่าของนักสะสมทันที!
“การทำงานศิลปะในยุคนั้นมันง่ายเช่นนั้นเลยหรือ? วอร์ฮอลใช้ปัสสาวะราดจริงหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เราก็สามารถผลิตงานศิลปะในทุกๆ วันได้ด้วยปัสสาวะเราสินะ” Sumiko Iwaoka ศิลปินญี่ปุ่นตั้งคำถาม เมื่อได้รับเชิญให้ไปสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาใหม่ เพื่อจัดแสดงคู่กับผลงานของศิลปินชื่อดังในประวัติศาสตร์ ในงานชื่อ HOMMAGE ที่ Sansiao Gallery แกลเลอรีชื่อดังย่านกินซ่า
เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาดิฉันและสามีได้ไปชมงานนี้มาค่ะ ด้วยตัว Sansiao Gallery นั้นอยู่ใต้บริษัทส่งออกขนาดใหญ่ จึงมีงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงสะสมไว้หลายชิ้น ทุกปีจึงจัดงาน HOMMAGE นี้ขึ้นเพื่อเอาผลงานสะสมเวียนมาจัดแสดง โดยคิดคอนเซปต์ให้ศิลปินรุ่นใหม่มาสร้างสรรค์ผลงานเพื่อจัดแสดงคู่กัน ซึ่งในปีนี้หนึ่งในงานสะสมที่ทางแกลเลอรีนำออกมาโชว์คือผลงานหนึ่งจากซีรีส์ Oxidation หรือผลงานปัสสาวะบนผืนผ้าใบของวอร์ฮอลที่หาดูได้ยาก
“ฉันเลือกงานปัสสาวะของแอนดี้ วอร์ฮอล มาทำงาน เพราะงานของเขาเป็นงานที่มีหลายมุมมอง เป็นศิลปะที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตประจำวัน แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงความต่อต้านต่อบริบทของสังคมและวงการศิลปะในขณะนั้นเช่นกัน” คุณอิวาโอกะอธิบาย
แม้หลายคนจะรู้จักวอร์ฮอลดีในฐานะผู้ทำให้ป๊อปอาร์ตป๊อปในระดับโลกและทำให้งานศิลปะกลายเป็นพาณิชย์ศิลป์ แต่หลายคนอาจรู้จักงานที่ใช้เทคนิคซิลก์สกรีนของเขามากกว่า เช่น ภาพกระป๋องซุปแคมป์เบลล์ หรือภาพใบหน้ามาริลิน มอนโร แต่ในช่วง ค.ศ. 1977-1978 เขายังสร้างสรรค์ผลงานชุด Oxidation โดยใช้ปัสสาวะของตัวเอง โดยบางชิ้นวอร์ฮอลเทปัสสาวะลงบนแผ่นโลหะผสม ซึ่งปัสสาวะจะทำปฏิกิริยากับโลหะนั้นๆ ทำให้เกิดสีขึ้นบนแผ่นโลหะ เป็นที่มาของชื่อ Oxidation นั่นเอง
ส่วนชิ้นที่ Sansiao Gallery สะสมไว้นั้นกล่าวกันว่าน่าจะเป็นการผสมผงโลหะหลายอย่างเข้ากับปัสสาวะก่อนเพนต์ลงบนผืนผ้าใบแล้วทาทับด้วยกากเพชร เมื่อปัสสาวะทำปฏิกิริยากับผงโลหะจึงทำให้เกิดสีสันที่สวยงามอย่างที่เราเห็นตามรูปด้านล่างนี้
ผลงานชุดนี้ทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าคุณภาพงานตกต่ำ เพราะงานในช่วงหลังของวอร์ฮอลมักพูดถึงความรุนแรงและเรื่องเพศอยู่บ่อยครั้ง แต่แท้จริงแล้วการใช้ปัสสาวะสาดลงบนผืนผ้าใบและแผ่นโลหะนั้นเป็นการท้าทายศิลปะลัทธิ Abstract Expressionism ที่แพร่หลายอยู่ในอเมริกาอยู่ก่อนแล้ว โดยพุ่งตรงไปที่งานของ Jackson Pollock ศิลปินลัทธิแอ็บสแตรกท์ผู้โด่งดังที่สุดในยุคโมเดิร์นอาร์ตของอเมริกา
ตัวพอลล็อกนั้นเชื่อว่าศิลปะแอ็บสแตรกท์สามารถถ่ายทอดผ่านทุกส่วนของร่างกายได้ งานชิ้นสำคัญของเขาจึงเกิดจากการใช้ทุกส่วนของร่างกายสาดสีเทสีลงบนผืนผ้าใบ วอร์ฮอลเห็นดังนั้นก็เลยจัดการใช้ปัสสาวะของตัวเองมาทำงานศิลปะแอ็บสแตรกท์ซะเลย! แถมไม่หยุดแค่ปัสสาวะของตัวเอง วอร์ฮอลยังเชิญชวนให้ผู้ช่วย รวมถึงแขกที่มาเยี่ยมสตูดิโอใช้ปัสสาวะของพวกเขาราดลงบนชิ้นงานอีกด้วย
หลายคนอาจรู้สึกว่าวอร์ฮอลพยายามก่อกวนแนวคิดของคนอื่นหรือเปล่า แต่ส่วนตัวของคุณอิวาโอกะคิดว่าวอร์ฮอลอาจจะพยายามอัพเดตงานหรือวิธีการทางศิลปะใหม่ๆ ให้กับวงการศิลปะก็เป็นได้ เพราะการอัพเดตและการทำซ้ำผลงานใหม่เป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญของป๊อปอาร์ต และไม่แน่ว่าการนำกระบวนการทางศิลปะของพอลล็อกมารีเมคอาจเป็นการตอกย้ำแนวคิดของป๊อปอาร์ตที่ว่า งานศิลปะมาสเตอร์พีซไม่จำเป็นต้องมีเพียงชิ้นเดียวก็เป็นได้
โดยปกติแล้วคุณอิวาโอกะมักจะทำงานที่เกี่ยวข้องกับ ‘การเปรียบเทียบ’ เช่น การเปรียบเทียบช่วงเวลาที่แตกต่างกันของงานศิลปะ อย่างผลงานด้านล่างนี้ที่ย้ายผู้หญิงเทนมของ Johannes Vermeer มาเป็นพนักงานเสิร์ฟที่กำลังเทน้ำในร้านอาหาร Denny’s ซึ่งเป็นภาพที่เธอวาดขึ้นเองในยุคสมัยปัจจุบัน
ตัวอย่างงานอีกชิ้นของคุณอิวาโอกะคือการเปรียบเทียบนิยามความงามสมัยก่อนและสมัยปัจจุบัน โดยการเขียนคอมเมนต์ลงบนภาพวาดในยุคต่างๆ เลียนแบบการเขียนคอมเมนต์แนะนำการแต่งตัวในนิตยสารแฟชั่นสมัยนี้ เช่น ภาพวาดเด็กผู้หญิงของ Pierre-Auguste Renoir ซึ่งคุณอิวาโอกะปรินต์ออกมาแล้วใช้ปากกาสีขาวเขียนคอมเมนต์ทับ แนะนำเรื่องการจัดการกับทรงผมว่า ควรมัดรวบเป็นหางมา ติชุดที่ใส่ว่าดูหนักเกินไป หากจะต้องไปปิกนิกแนะนำให้ลองใส่เสื้อแขนกุดกับกางเกงยีนส์เข้ารูปสักตัวถึงจะถูกต้องกว่า เป็นต้น
สำหรับผลงานที่เธอสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ในนิทรรศการ HOMMAGE นั้น คุณอิวาโอกะมองว่าเธออยากเปรียบเทียบกระบวนการทำงานของวอร์ฮอลในขณะนั้นกับกระบวนการทำงานของเธอในปัจจุบัน โดยเธอตั้งคำถามว่า จะทำยังไงให้เพนต์สีปัสสาวะได้เหมือนกับสีปัสสาวะของวอร์ฮอล จึงเกิดเป็นงานเพนต์ติ้งชิ้นนี้ขึ้น
ส่วนใหญ่แล้วงานของคุณอิวาโอกะมักจะเป็นงานคอลลาจ วัสดุส่วนใหญ่เป็นกระดาษ แต่กับงานครั้งนี้คุณอิวาโอกะใช้ผ้าใบขนาดเท่ากับผลงานของวอร์ฮอล โดยเธอแบ่งผืนผ้าใบที่จะใช้เพนต์ออกเป็นช่องๆ ทั้งหมด 30 ช่อง แล้วจดบันทึกตัวแปรต่างๆ ลงในตารางนั้น ได้แก่
- ตารางวัสดุที่ใช้ทาชั้นแรก เช่น สีทองแดง
- ตารางวัสดุที่ทาทับหลังจากเทปัสสาวะ
- ตารางค่า pH ของปัสสาวะที่ใช้เท เพราะค่ากรดและด่างอาจมีผลต่อสีของปัสสาวะได้
- ตารางอัตราก้าวเดินต่อวัน
- ตารางอาหารที่ทานก่อนปัสสาวะ เพราะสุขภาพและการรับประทานอาหารอาจมีผลต่อสีของปัสสาวะได้
แน่นอนว่าเธอใช้ปัสสาวะของตัวเองในการทดลองทำงานชิ้นนี้ โดยทำไปช่องละ 1 วัน แต่ละช่องจะมีตารางบอกว่า ใช้ปัสสาวะครั้งที่เท่าไหร่หรือช่วงไหนของวัน, วันที่ใช้ปัสสาวะเพนต์เดินไปกี่ก้าว, ทิศทางลมในการเทปัสสาวะเป็นยังไง
ในตารางช่องแรกๆ คุณอิวาโอกะทานอาหารประจำวันทั่วไปแบบคนญี่ปุ่น ปรากฏว่าสีของปัสสาวะที่ได้มานั้นไม่ใกล้เคียงเลย ออกไปทางโทนสีเทาซึ่งต่างจากของวอร์ฮอลที่มีสีฟ้าและชมพูอ่อน เธอจึงตัดสินใจศึกษาประวัติของวอร์ฮอลเพิ่มเติม เช่นว่า ดูวิดีโอทุกตัว อ่านไดอารี่ของเขา เพื่อดูว่าวอร์ฮอลทานอะไรบ้าง ซึ่งทั้งในวิดีโอและไดอารี่เผยให้เห็นว่าเขากิน McDonald’s, Burger King และซุปแคมป์เบลล์อยู่บ่อยครั้ง
ว่าแล้วศิลปินสาวจึงเริ่มทดลองกินอาหารแบบเดียวกันกับวอร์ฮอล ผลปรากฏว่าสีที่ได้มีความใกล้เคียงกันมากขึ้น จากที่ดิฉันลองดูเทียบสีกันแล้ว ช่องที่คุณอิวาโอกะเพนต์สีออกมาได้ใกล้เคียงมากที่สุด และสรุปได้ว่าสิ่งที่วอร์ฮอลน่าจะกินก่อนปัสสาวะก็คือ…
แทน…แทน…แท้น…Chicken Burger Set จาก McDonald’s นั่นเองค่า
สุดท้ายแล้วแน่นอนว่าผลงานศิลปะของคุณอิวาโอกะก็ยังไม่สามารถมีสีเหมือนกับงานของวอร์ฮอลได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มันก็ชวนให้เราย้อนกลับไปสำรวจและตั้งคำถามกับผลงานของศิลปินที่โด่งดังมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ตอนทำงานศิลปะเขาใช้ชีวิตยังไง เชื่ออะไร เป็นไปได้ไหมที่ศิลปินจะใช้เครื่องมือหรือวัสดุที่ไม่ได้ถูกเจาะจงให้ใช้ในการผลิตงานศิลปะตั้งแต่แรก
ซึ่งสำหรับข้อหลังนั้น ไม่ว่าจะในช่วงเวลาของวอร์ฮอลหรือช่วงเวลาของคุณอิวาโอกะ พวกเราทั้งคนดูและคนในแวดวงศิลปะก็ยังคงตั้งคำถามและทดลองกันได้ไม่รู้จบสิ้น
แต่สำหรับผู้ชมส่วนใหญ่แล้วนั้น แทนที่จะคุยถึงเรื่องประวัติศาสตร์การต่อต้านศิลปะ Abstract Expressionism อันดุเดือดของวอร์ฮอล กลับหันไปสนใจสุขภาพและวิถีชีวิตการกินอยู่ของวอร์ฮอลในขณะนั้นเสียมากกว่า ดูเหมือนว่าหลายๆ คนจะห่วงใยสุขภาพของวอร์ฮอล อยากให้ทานอาหารที่ดีกว่านี้ ซึ่งก็สามารถเชื่อมโยงไปกับงานของคุณอิวาโอกะที่มักเอาเหตุการณ์ในอดีตมาเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
สุดท้ายแล้ว สำหรับดิฉัน ต่อให้ไม่รู้บริบทอะไร ลำพังแค่ได้ดูผลงานของคุณอิวาโอกะแล้วอมยิ้มไปพร้อมจินตนาการว่าเจ้าพ่อป๊อปอาร์ตของโลกกินอยู่ยังไง มีสุขภาพแบบไหน ถึงมีสีปัสสาวะแบบนี้ ก็สนุกแล้ว ว่าไหมคะ
สำหรับใครที่ชื่นชอบงานของคุณซูมิโกะ อิวาโอกะ สามารถเข้าไปดูผลงานของเธอเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย sumikoiwaoka.com