Chill Wave : จัดเพลย์ลิสต์ 3 เพลงสุดชิลล์ส่งตรงจากอเมริกา

ความวุ่นวายของการงานในชีวิตประจำวันบางครั้งก็ทำให้เราไม่เหลือเวลาไปชมคอนเสิร์ตหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นมากนัก
สิ่งเดียวที่เราพอจะหาได้คือใช้เวลาปั่นงานระหว่างวัน หาเพลงใหม่ๆ
มาฟังเพื่อให้เรารู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นบ้าง 3 เพลงชิลล์ๆ ฟังแล้วล่องลอยที่เราเลือกมาให้ฟังคราวนี้มาจากอเมริกา
ดินแดนที่ตอนนี้เด็กๆ มหาวิทยาลัยกำลังไป Work and Travel กันอยู่อย่างคึกคัก ฟังแล้วก็อยากออกเดินทางไปหาธรรมชาติบ้างแม้ว่าตัวเราจะนั่งอยู่ในป่าคอนกรีตนี้ก็ตาม

Whitney – No Woman

มีโอกาสได้ฟังเพลงนี้ของวงดนตรีหน้าใหม่จากชิคาโก้ครั้งแรกตอนต้นปีที่ผ่านมาในชั่วโมงเร่งด่วน
แต่ทันทีที่ดนตรีบรรเลงขึ้น ก็เหมือนเราได้พักผ่อนอยู่คนเดียวท่ามกลางความวุ่นวาย และยิ่งประทับใจไปอีกเมื่อพบว่า
Julian Ehrlich นักร้องนำของวงควบตำแหน่งมือกลองด้วย
และในการแสดงสดเขาก็มักจะมานั่งอยู่ด้านหน้าแล้วเอาฉาบบังเพื่อนคนอื่นในวงได้โดยไม่รู้ร้อนรู้หนาว

เพลง No Woman ทำให้เราอยากใช้เวลาฟังนานๆ
ไม่ต้องรีบร้อน เพราะเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาจนมาถึงท่อนเชื่อมที่ตัดกับเสียงทรัมเป็ตใสๆ
เพลินจนรู้ตัวอีกทีก็ฟังจนจบเพลงเสียแล้ว

Night Moves – Carl Sagan

ชื่อวงก็บอกอยู่แล้วว่าไม่ว่าเราจะฟังตอนไหน
รอบๆ ตัวก็คล้ายจะเป็นเวลาหลังพระอาทิตย์ตกดินไปเสียหมด วงดนตรีที่เราลองเสิร์ชชื่อในกูเกิลแล้วพบแต่ชื่ออัลบั้มเพลงและภาพยนตร์ต่างๆ มากมาย
(แต่ไม่ใช่สิ่งที่เราหาอยู่เลย) แต่พอหาเจอปุ๊บ สไตล์เพลงที่ผสมระหว่างความเป็นร็อกและอิเล็กทรอนิกก็เป็นแนวเพลงที่เรากำลังหามานานเหมือนกัน

ชื่อเพลงที่มาจากชื่อของนักดาราศาสตร์ชาวอเมริกันเพลงนี้
พาเราจินตนาการไปถึงห้วงอวกาศและท้องฟ้ายามค่ำคืนผ่านเสียงซินธ์ที่บรรเลงคลออยู่เบื้องหลังตลอดทั้งเพลง
ความเบาบางของเสียงร้องก็เหมือนแรงดึงดูดที่ค่อยๆ ลดน้อยลงสู่สภาวะไร้แรงโน้มถ่วง ปล่อยตัวเราให้ล่องลอยและหลับใหลไปในที่สุด

Mutual Benefit – Lost Dreamers

ดนตรีคลาสสิกเป็นดนตรีที่มีทฤษฎีตายตัว
และความราบเรียบของดนตรีคลาสสิกก็เป็นสิ่งที่คาดเดาได้เช่นเดียวกันหากเอามาเทียบกับแนวเพลงในปัจจุบัน
แต่ไม่ใช่กับโปรเจกต์ Mutual Benefit นี้แน่ เพราะ
Jordan Lee ได้หยิบมันมานำเสนอผ่านสไตล์เพลงอินดี้โฟล์ก หรือบางเพลงก็อาจจะหนักถึงขั้นบาโรกป๊อปไปเลยก็มี
ฟังแล้วเลยได้บรรยากาศใหม่ๆ ที่เราไม่ค่อยได้พบจากการฟังเพลงคลาสสิกแบบเดิมๆ ขึ้นมา

การหลงทางของเหล่าผู้ไล่ตามความฝันอย่างในเพลง
Lost Dreamers ไม่ได้เป็นเพลงที่ทำให้เรารู้สึกท้อแท้แต่อย่างใด
แต่กลับต้องการให้เราหยุดพักเพื่อจะเดินทางไปต่อบนจังหวะของการบรรเลงเครื่องสายอย่างไวโอลิน
วิโอล่า และเชลโล่ ประกอบกับกลองเพอร์คัสชันและแบนโจ ที่ไม่ว่าจะฟังตอนไหนก็เหมือนได้ชาร์จพลังให้ตัวเองและพร้อมกลับไปลุยงานต่อได้เสมอ

3
เพลงที่เลือกมายังคงผ่อนคลายทุกครั้งที่เปิดฟัง แต่ถ้าลองทิ้งเสียงเพลงไว้ข้างหลังแล้วใช้เวลาออกเดินทาง
ให้หูของเราได้ฟังความเงียบจากธรรมชาติก็ดีเหมือนกัน และจะยิ่งดีขึ้นไปอีกถ้ารวมกลุ่มกับเพื่อนสนิทหรือคนรู้ใจ
เช่าโฮสเทลสักหลังและใช้เวลาว่างที่มีทั้งหมดไปด้วยกัน

AUTHOR