ใครจะไปคิดว่าในซอยนานาที่เรียงรายไปด้วยตึกแถวคลาสสิกอายุนับร้อยปี
บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นสมุนไพรจีน จะเป็นที่ตั้งของ NAHIM
CAFE x HANDCRAFT คาเฟ่น่ารักสีสันสดใสที่ภายในเต็มไปด้วยกิมมิกสนุกๆให้เราได้ดู
ได้ชิม ได้เล่นมากมาย
พิม-ชโลชา
นิลธรรมชาติ เจ้าของร้านสาวอารมณ์ดีบอกเราว่า
นี่คือคาเฟ่ที่เธอตั้งใจสร้างจากความฝัน ปลูกปั้นมันจนกลายเป็นความจริง
หลังจากที่เราได้เข้าไปนั่งชิมขนมอร่อยๆ พร้อมพูดคุยกับเธอ
เราอยากช่วยเสริมเหลือเกินว่า
เรื่องราวการสร้างร้านแห่งนี้นั้นมีรสหวานปนขมที่ช่วยกระตุ้นแรงบันดาลใจได้ดีกว่ากาแฟที่เสิร์ฟในร้านเสียอีก
เริ่มจากสิ่งที่ชอบ
“เราเป็นคนชอบกินขนมมาก
พอเรียนจบปริญญาตรีด้านศิลปกรรมศาสตร์ นาฏศิลป์สากล ที่ มศว เลยเปลี่ยนสายไปทำงานที่
DEAN
& DELUCA ร้านขนมที่ชอบ
ตอนแรกเราเป็นแอดมิน คือทำงานทุกอย่าง ทั้งบัญชี รับและสั่งสินค้า และการตลาด
พอได้ทำหลายหน้าที่ก็ได้รู้ว่าเราชอบทำเรื่องการตลาดมากที่สุด เลยเข้าไปอยู่ในทีมการตลาด แล้วก็ทำงานต่อเนื่องมา
3
ปี
แต่พอถึงจุดนึงที่บริษัทใหญ่ขึ้น เราเริ่มไม่สนุกกับการทำงานเหมือนเดิมเพราะไม่มีเวลาทำอะไรเพื่อตัวเองเลยตั้งแต่ตื่นนอนจนกลับบ้านชีวิตเราให้บริษัทไปหมด
“ตอนแรกที่คิดจะลาออก
เราจะไปเรียนปริญญาโทเพราะมันฮิตกันเหลือเกิน
เพื่อนเราส่วนใหญ่แชร์ภาพเมืองนอกเต็มไทม์ไลน์ ตอนนั้นเราคิดจะไปเรียนการตลาด
แต่พอได้คุยกับแฟน เขาก็ถามว่าเรียนจบกลับมาแล้วจะทำอะไร
เราตอบไปว่าเราไม่คิดจะเป็นพนักงานออฟฟิศอีกแล้ว
แต่จะเปิดคาเฟ่ที่ขายขนมและสินค้าจากเพื่อนๆ ที่เราสนิท
เราอยากสร้างสังคมเล็กๆ ที่เป็นศูนย์กลางของคนที่ชอบอะไรคล้ายๆ กัน
แฟนก็ถามว่าแล้วทำไมตอนนี้ทำไม่ได้ล่ะ การลงมือทำมันได้เรียนรู้ยิ่งกว่าไปเรียนทฤษฎีที่ต่างประเทศอีกนะในที่สุดเราก็ตัดสินใจไปบอกแม่ว่าเงินที่จะใช้สำหรับเรียนต่อ
เราขอกู้มาทำร้านเลยดีกว่า”
คิดและทำด้วยความสนุก
“เรากับน้องเป็นคนที่ชอบตระเวนไปคาเฟ่ใหม่ๆ
เป็นประจำอยู่แล้ว แต่เราไม่ได้แค่เข้าไปกิน เราจะช่วยกันวิเคราะห์
วิจารณ์ ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี ทั้งเมนูอาหารและองค์ประกอบทุกอย่างภายในร้าน พอเราจะมีคาเฟ่เป็นของตัวเอง
เราก็เริ่มจดสิ่งที่เราชอบ ไม่ชอบ ลงในไดอารี่ ตอนนั้นสิ่งที่เราตั้งใจคือคาเฟ่ของเราต้องเป็นคาเฟ่ที่คนมาแล้วจะสนุก
“อย่างเมนูที่ขายในร้าน เราไม่อยากให้มันเป็นแค่ของกิน
เราอยากให้ลูกค้าสนุกไปกับการกินด้วย เช่น เมนูฮอตช็อกโกแลต คนกินก็จะได้เอาช็อกโกแลตมาละลายในนมด้วยตัวเอง
ส่วน เรื่องการตกแต่งร้าน เราเริ่มจากความคิดที่ว่านี่คือที่ทำงานที่เราต้องอยู่กับมันทุกวัน
ทำยังไงให้เราและน้องๆ พนักงานอยากมาทำงานโดยไม่เบื่อ
ก่อนอื่นเลยคือในร้านต้องมีชิงช้า ผนังต้องมีของเล่นแบบมีกลไกติดอยู่ แล้วก็ต้องไม่เป็นสีขาวล้วน
เราซื้อ MT Tape แผ่นใหญ่มาติดเป็นวอลล์เปเปอร์
ผ้าม่านหลากสีที่ผนังฝั่งนี้ก็เป็นผ้าเดียวกับที่เราเอามาใช้เย็บกระเป๋า
อะไรก็ตามที่เราคิดว่ามีแล้วจะเจ๋งมาก เราจะลุยทำทุกอย่างให้มีจนได้
“ที่ตั้งใจกับทุกรายละเอียดของร้านขนาดนี้ เพราะเรารู้เลยว่าบางร้านเจ้าของแค่อยากมีร้านแต่เขาไม่ได้อินกับมันจริงๆ เราไม่อยากให้ร้านตัวเองเป็นแบบนั้น
เราว่าร้านที่ทำโดยไม่ได้คิดอะไรมันไม่ยั่งยืน มันฉาบฉวย
ในขณะที่บางร้านที่ใส่ใจกับทุกอย่างตั้งแต่อย่างผ้ารองแก้ว ยูนิฟอร์มพนักงาน
บรรยากาศเสียงเพลง ถึงเขาชาร์ตแพง
แต่เรารู้สึกว่าแบบนี้เรายอมจ่าย เพราะมันเป็นค่าความคิดของเขา”
ก้าวจากจุดเล็กๆ
“ตอนที่ตัดสินใจทำร้านใหม่ๆ เรามีความกลัวเยอะมาก
เพราะในใจมีสิ่งที่อยากทำเยอะ แต่พอจะเติมอะไรทุกอย่างก็ราคาเป็นหมื่นเป็นแสนไปหมด
อย่างเรื่องการหาสถานที่ เราตั้งใจไม่เลือกโลเคชันในห้างซึ่งต้องจ่ายค่าเช่าต่อเดือนแพงมาก
ไม่เหมาะเพราะร้านเรายังโนเนม มันเสี่ยงเกินไป
เราเลยพยายามเลือกที่ตั้งที่ไม่มีใครสนใจ แล้วเดี๋ยวเราไปทำให้มันน่าสนใจเอง
“ในที่สุดเราก็ได้มาเจอที่นี่
เพราะพี่จากร้านเทพบาร์ชวนมาและอาม่าเราอยู่ซอยตรงข้ามนี้เอง ตอนแรกเราคิดว่าที่นี่ไม่มีอะไรเลย
มีแต่โรงน้ำแข็ง ศาลเจ้า รอบๆ ก็เป็นเยาวราช
นี่คาเฟ่เราต้องเป็นธีมจีนหรอ ไม่เอานะ (หัวเราะ) แต่พอได้มาดูที่ตึกนี้จริงๆ เรากลับชอบบรรยากาศของตึกอายุร้อยกว่าปี
เพดานห้องที่สูงกว่าปกติซึ่งเป็นสิ่งหายากมากในเมือง
และค่าเช่าก็อยู่ในระดับที่เรารับได้
“แต่ข้อเสียของที่นี่คือเราต้องปรับปรุงตึกเยอะมาก
ต้องทุบผนัง ทุบพื้น ฝังระบบส้วมใหม่ อีกอย่างคือที่นี่ค่อนข้างไกล
ลูกค้าอาจจะมาไม่เป็น ตอนนั้นความกลัวมันยังอยู่
แต่เราก็ยังเดินหน้าต่อด้วยการค่อยๆ ทำจากร้านเล็กๆ
ก่อน ถึงลูกค้าน้อยก็ไม่เป็นไร เรามี 3 โต๊ะแป๊บเดียวก็ดูเต็มแล้ว (หัวเราะ)”
ได้ทุ่มเททำสิ่งที่อยากทำก็คุ้มแล้ว
“เราไม่มีหุ้นส่วน ตั้งแต่เปิดร้านมาก็เลยต้องทำหน้าที่ทุกอย่างในร้านคนเดียว
ทั้งการทำบัญชี ซื้อของเข้าร้าน ติดต่อผู้ผลิต รับพนักงาน ฝึกพนักงานใหม่
ถ้าพนักงานขาดก็มาเสิร์ฟเอง งานมันเยอะจริงๆ เราเครียดและเหนื่อยมากแต่ก็มีความสุขนะ
“ตั้งแต่วันแรกเราเป็นคนขอช่างทุบกำแพงที่กั้นห้อง
ตอนก่อสร้างมาคุมคนงานที่นี่ทุกวัน ซื้อเครื่องดื่มบำรุงกำลังไปแจกช่าง
เรารู้สึกตั้งแต่ตอนนั้นเลยว่านี่คืองานประจำแล้ว เงินทั้งชีวิตทุ่มลงไปให้ร้านนี้แล้ว
ถึงตอนนี้มันยังไม่สมบูรณ์แบบด้วยปัจจัยเรื่องเงิน เรื่องเวลา แต่เราได้เต็มที่กับมันจนกิจการเดินหน้าไปได้และทำให้แม่ภูมิใจได้แล้ว
“ถ้าให้ย้อนกลับไปมอง เราคิดถูกสุดๆ
ที่ลาออกมาทำร้านนี้
มันทำให้เรารู้สึกไม่เสียดายที่เกิดมา เพราะได้ทุ่มเททำสิ่งที่อยากทำไปหมดแล้ว”
“ที่ตั้งใจกับทุกรายละเอียดของร้านขนาดนี้ เพราะบางร้านเราจะรู้เลยว่าเจ้าของแค่อยากมีร้านแต่เขาไม่ได้อินกับมันจริงๆ เราไม่อยากให้ร้านตัวเองเป็นแบบนั้น เราว่าร้านที่ทำโดยไม่ได้คิดอะไรมันไม่ยั่งยืน มันฉาบฉวย“
“ที่ตั้งใจกับทุกรายละเอียดของร้านขนาดนี้ เพราะบางร้านเราจะรู้เลยว่าเจ้าของแค่อยากมีร้านแต่เขาไม่ได้อินกับมันจริงๆ เราไม่อยากให้ร้านตัวเองเป็นแบบนั้น เราว่าร้านที่ทำโดยไม่ได้คิดอะไรมันไม่ยั่งยืน มันฉาบฉวย“
NAHIM
CAFE x HANDCRAFT
ประเภทธุรกิจ: คาเฟ่
คอนเซปต์: คาเฟ่ที่สนุกและเป็นกันเองเหมือนห้องนั่งเล่นที่บ้าน
เจ้าของ: พิม-ชโลชา
นิลธรรมชาติ (27
ปี)
เว็บไซต์: facebook.com | NAHIM CAFE