ชื่อหนังสือ Saga Ganbatte! ซะกะ กัมบัตเตะ!
ผู้เขียน ณิชมน หิรัญพฤกษ์
สำนักพิมพ์ a book
ญี่ปุ่นเป็นเรื่องป๊อป งานคราฟต์เป็นเรื่องป๊อป หนังสือหน้าตาสดใสชื่อ Saga Ganbatte! (ซะกะ กัมบัตเตะ!) เล่าเรื่องการเดินทางไปสัมผัสงานคราฟต์ที่ญี่ปุ่น แต่ดันเป็นเรื่องในจังหวัดซะกะ จังหวัดเงียบๆ ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นบางคนยังไม่คุ้นหูสักนิด!
ให้นึกเปรียบเทียบคงประมาณเล่าเรื่องการทอผ้าแพรวาในจังหวัดกาฬสินธุ์ที่คนทั่วไปยังโนไอเดีย แต่ในเมื่อของเจ๋งจริงมันอยู่ตรงนั้น ไฉนเลยจะไม่เล่าให้คนอื่นได้รู้ว่ายังมีอะไรน่าสนใจในจังหวัดนอกสายตา ถึงคนไทยจะเริ่มรู้จักจังหวัดซะกะจากซีรีส์ Stay ซากะ และละครเรื่องกลกิโมโน แต่นอกจากเดินทางตามรอยนักแสดงแล้ว คงจะดีถ้าเราได้รู้จักซะกะแบบที่เป็นจริงๆ โชคดีที่ผู้เขียน ‘แจนนุกิ’ นักเรียนสาวไทยสายลั้ลลาที่ไปใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่นนานนับปีถ่ายทอดซะกะออกมาได้น่ารักกำลังดี ภายใต้มู้ดแอนด์โทน ‘กรุบกริบ’ ที่เธอบัญญัติความหมายไว้เองว่า
กรุบกริบ: ความเก๋ในระดับที่กำลังกลมกล่อม ไม่ล้ำจนกูตูร์ แต่แลดูแล้วเกิดความพึงใจ สร้างความผ่องใสให้จิตวิญญาณ
แจนนุกิท่องเที่ยวแบบมีเรดาห์มองหาความกรุบกริบนำทาง สถานที่ที่ปรากฏในเล่มเลยไม่ได้ยึดหลักตามความดังไม่ดัง แมสไม่แมส ขอแค่มีอะไรน่ารักๆ ให้สาวไทยคนนี้ชุ่มชื่นหัวใจ เธอก็พร้อมจะดั้นด้นไปหา หนังสือเล่มนี้เลยไม่ได้เป็นเหมือนไกด์บุ๊กนำทางไปหาสถานที่สำคัญของเมือง แต่เป็นหนังสือท่องเที่ยวซะกะแบบค่อนข้างรื่นรมย์ ถึงบางอย่างจะฟังดูประหลาด แต่ก็เป็นอะไรที่น่าสนุกจนเราอยากตามรอยไปเห็นของจริงบ้าง ตัวอย่างเช่น การตามไปดูตารูปหัวใจของปลาตีนถึงชายหาด ท่องคาเฟ่โรงหนังเก่าสุดอินดี้ เดินป่าในเมืองไปดูต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อายุ 3,000 ปีของท้องถิ่น เฝ้ามองดวงดาวในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์พร้อมเพลงออร์เคสตร้า ส่องต้นชะครามเปลี่ยนสีริมทะเลวิวงาม ลองทำงานคราฟต์แบบงูๆ ปลาๆ อย่างเป่าแก้ว ทำตุ๊กตา ไปจนถึงแอบมุดเข้าบอลลูนในเทศกาลบอลลูนสุดตระการตา
ความที่แจนเชี่ยวชาญภาษาญี่ปุ่นในระดับไว้ใจได้และคุ้นเคยกับวัฒนธรรมประเทศนี้มานาน เลยให้ข้อมูลได้อย่างคนรู้จริงเรื่องญี่ปุ่น คุยกับผู้คนท้องถิ่นแล้วเม้าท์ให้เราฟังต่อ บางเรื่องพิเศษ บางเรื่องตลก เป็นญี่ปุ่นเวอร์ชันไม่เพอร์เฟกต์เป๊ะ แต่มีชีวิตชีวา สอดแทรกเรื่องความมุ่งมั่นในการพัฒนาเมืองของซะกะผ่านสิ่งที่เธอไปพบ ไม่ว่าจะเป็นร้านเหล้า พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร แหล่งเวิร์กช็อปงานคราฟต์ ชวนให้นึกว่าถ้าเราสามารถถ่ายทอดเรื่องราวบางจังหวัดเหงาๆ ของไทยให้ออกมาสนุกแบบนี้ได้ก็น่าจะดี หรือถ้าแต่ละท้องถิ่นมีพื้นที่ที่เปิดให้คนเข้าไปเรียนรู้เรื่อง ‘ของมีค่า’ ในจังหวัดเหมือนซะกะบ้างก็คงดีไม่น้อยเลย
เหตุผลอีกข้อที่ทำให้หนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่นเล่มนี้ต่างจากเล่มอื่นน่าจะเป็นการเขียนที่ไม่เหมือนชาวบ้านของแจน สำนวนของเธอนั้นแสนครีเอตและอุดมด้วยมุข เช่น ‘ฟังเรื่องราวเก่าๆ โดยลูกหลานของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์โดยตรง นี่มันอัลทิเมตมงกุฎเพชรเวรี่ไฮโซโจฮิงไพรเวตทัวร์ชัดๆ’ ที่สำคัญคือ ไม่คีปลุคคูลจนเกินไป บางทีเม้าท์กับผู้ใหญ่เจ้าของร้านอยู่ก็หยอดในใจว่าคุณลุงมีลูกชายไหม จริงใจมาก อ่านไปก็หัวเราะร่วนอยู่เป็นระยะ
สรุปง่ายๆ คือ หนังสือเล่มนี้เป็นการพาเที่ยวญี่ปุ่นมุมใหม่แบบเข้มข้นกำลังดี เหมาะสำหรับคนที่อยากอ่านอะไรสบายๆ บันเทิงเริงใจแต่ไม่กลวง อ่านจบแล้วอยากจับเครื่องบินไปซะกะ เรียนรู้เรื่องของทำมือในเมืองคราฟต์ที่ผู้คนแสนใจดีในทันใด
ความยากง่ายในการอ่าน: อ่านง่ายและเพลิดเพลินดี เรื่องและภาษาเขียนของแจนเข้าถึงง่ายมาก แต่พอเจอคำอ่านภาษาญี่ปุ่นที่ไม่คุ้นแบบยาวๆ หลายคำก็ทำให้ต้องจูนสมองระหว่างอ่านอยู่บ้าง