ปีก่อน เปิ้ล–ถนอมขวัญ ชุติธนวงศ์ กราฟิกดีไซเนอร์ผู้แพ้น้ำยาล้างจานลุกขึ้นมาใช้สองมือทำ ‘Ringo’ แบรนด์น้ำยาล้างจานของตัวเองที่เป็นมิตรกับมือของนักล้างจานทั่วราชอาณาจักร
นอกจากส่วนผสมหลักที่เป็นสารจากธรรมชาติจะอ่อนโยนต่อมือ กลิ่นมินต์หอมๆ เป็นมิตรต่อจมูก บรรจุภัณฑ์ก็ยังมาในรูปแบบขวดสีขาวโค้งมนเป็นมิตรต่อสายตา เฟรนด์ลี่จนเราและนักล้างจานที่ชอบงานดีไซน์อีกหลายคนต้องกลับมาซื้อ Ringo ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หลังจากน้ำยาล้างจานไปได้สวย (สวยพอๆ กับแพ็กเกจจิ้ง) หลายคนก็ถามหาน้ำยาทำความสะอาดส่วนอื่นๆ ของบ้านบ้าง เปิ้ลเลยชวนเพื่อนๆ มาเปิด Ringo & Friends ร้านของชำดีไซน์ดีในซอยสุขุมวิท 49 ที่ขายน้ำยาทำความสะอาดในบ้านยี่ห้อ Ringo มีโซนรีฟิลแสนสะดวก แถมยังมีของกินของใช้จากเพื่อนๆ ทั่วประเทศวางขายอย่างอบอุ่น
ดีไซเนอร์เปิดร้านของชำทั้งที คำว่าดีไซน์จึงครอบคลุมอยู่ในทุกส่วน สมคอนเซปต์ ‘design-friendly grocery store’ หรือร้านชำดีไซน์ดีที่เป็นมิตรกับทุกคน
ร้านขนาดหนึ่งคูหานี้เป็นมิตรกับใครบ้าง ลองเปิดประตูเข้ามาสำรวจไปด้วยกัน
& Lifestyle
สารภาพตามตรง การล้างจานเป็นงานบ้านที่เราอยากผัดวันประกันพรุ่งเป็นอันดับหนึ่ง แต่เมื่อเอาขวดน่ารักๆ ของ Ringo ไปตั้งที่ซิงก์ ขยี้น้ำยาล้างจานใสๆ ให้เปลี่ยนเป็นฟองขาว ได้กลิ่นมินต์อ่อนๆ ฟุ้งกระจาย ชั่วโมงล้างจานก็พอจะรื่นรมย์ขึ้น
และเป็นตอนที่ได้คุยกับเปิ้ลจริงๆ จังๆ นี่เองที่ทำให้เรารู้ว่าเปิ้ลตั้งใจดีไซน์ให้น้ำยาล้างจานและสารพัดน้ำยาทำความสะอาดเข้ามาอยู่ในไลฟ์สไตล์และชีวิตประจำวันอย่างแนบเนียน
แน่นอนว่าแบรนด์น้ำยาทำความสะอาดออกแบบโดยดีไซเนอร์ต้องไม่ใช่น้ำยาธรรมดา แต่เป็นของที่ออกแบบละเอียดยิบตั้งแต่ตัวสินค้าไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับคนรักงานดีไซน์
“ความคิดที่จะทำโปรดักต์ทั้งหมดเกิดขึ้นตั้งแต่แรก แต่เราเลือกทำน้ำยาล้างจานก่อนเพราะมีประสบการณ์กับมันมากที่สุด พอเราแพ้น้ำยาล้างจานเวลาไปเที่ยวประเทศไหนเราจะซื้อน้ำยาล้างจานกลับมา
“เราไม่ได้มองของพวกนี้เป็นสินค้าใช้ในบ้านแต่เป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ แบรนด์แฟชั่นจ๋าๆ อย่าง COS เขาก็ขายน้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจานในร้าน หรือเวลาเราไปเดินโซนน้ำหอมแบรนด์อินดี้ๆ ที่ญี่ปุ่น เฮ้ย ปรากฏว่าเขาขายน้ำยาซักผ้าด้วย เรื่องพวกนี้อยู่ในหัวเราตลอดเวลา ประกอบกับที่เราเป็นคนซีเรียสเรื่องการใช้ของดีไซน์อยู่แล้วก็เลยศึกษามาเรื่อยๆ ว่ามันน่าจะทำในเมืองไทย ทำไมซิงก์ล้างจาน ขวดน้ำยาล้างห้องน้ำจะสวยไม่ได้ล่ะ ในเมื่อพัฒนาการในแง่ดีไซน์ของบ้านเราก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร”
เริ่มต้นจากน้ำยาล้างจานขวดป้อม ต่อด้วยผลิตภัณฑ์อื่นในขวดสีขาวสะอาดเข้าเซต บางผลิตภัณฑ์ก็บรรจุในถุงใสเรียบเท่ หากอ้างอิงจากดีไซน์น้ำยาชนิดต่างๆ ในซูเปอร์มาร์เก็ตที่เราคุ้นเคย มองเผินๆ อาจดูไม่ออกด้วยซ้ำว่า Ringo ก็คือน้ำยาทำความสะอาดเหมือนกัน
“ที่สำคัญคือเรามีความสุขกับการใช้น้ำยาเหล่านี้มากกว่าเดิม คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมีขวดสวยๆ ในห้องน้ำ แต่เรามีความสุขที่ได้เห็นมัน และเราว่าทุกวันนี้ก็เริ่มมีคนที่คิดแบบนี้เยอะ เด็กๆ เองเริ่มมีความคิดก้าวหน้า สังคมจะไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้
“แต่เราจะไม่พยายามไปเปลี่ยนคนที่ชอบของเดิมๆ นะ เช่น คนรุ่นแก่กว่าเราที่เขาคุ้นกับของใช้ในบ้านแบบเดิมๆ เราก็เข้าใจ หรือเราเคยคุยกับเด็กๆ ว่าทำไมซื้อกาแฟกับขนมรวมกันเกือบ 200 บาทได้แต่ไม่ซื้อน้ำยาล้างจาน เขาบอกว่าใช้อะไรล้างก็สะอาดเหมือนกันแหละ ถ้าเป็นแบบนี้เราก็เข้าใจ เราจึงวางตัวเองอยู่ในโลเคชั่นที่ลึกลับนิดหนึ่ง คนที่จะเข้ามาหาเราคือคนที่พร้อมจะใช้ของแบบนี้ เราเองก็พร้อมอธิบายวิธีคิดของเราให้เขาฟังเหมือนกัน
“อันที่จริงความสวยมันเป็นเรื่องเฉพาะตัวมาก ขึ้นอยู่กับคอนเซปต์ความสวยของแต่ละคน เราก็เป็นแค่อีกทางเลือกหนึ่งที่ตั้งอยู่บนความสวยงามในแบบของเรา แพ็กเกจจิ้งของเราไม่เหมือนกับแพ็กเกจจิ้งน้ำยาในท้องตลาด แต่ก็ไม่เหมือนแพ็กเกจจิ้งแบรนด์ออร์แกนิกอื่นๆ ซึ่งมันเป็นข้อดีนะ เพราะสุดท้ายแล้วมันทำให้ร้านของเราไม่เหมือนกับร้านออร์แกนิกหรือร้านรีฟิลที่ไหนเลย”
& Body
เรื่องราวของ Ringo เริ่มต้นจากอาการแพ้
เพราะเปิ้ลมักแพ้น้ำยาล้างจานที่มีในท้องตลาด เวลาเดินทางไปต่างประเทศ น้ำยาล้างจานแบรนด์ท้องถิ่นจึงเป็นสินค้าที่เธอหอบกลับมาทดลองใช้เสมอ จนวันหนึ่งเจ้าแม่น้ำยาล้างจานก็อยากมีแบรนด์น้ำยาล้างจานของตัวเอง เพราะนอกจากจะใช้ได้สบายมือแล้วยังสบายกระเป๋ากว่าการสั่งน้ำยาจากเมืองนอกเข้ามาเป็นไหนๆ
น้ำยาล้างจานที่เราชอบใจและชอบใช้จึงเกิดขึ้นโดยไม่ใส่สารลดแรงตึงผิว SLS และสารกันเสีย Paraben ซึ่งทำให้หลายคนระคายเคืองแต่เลือกใช้สารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ แทน และเมื่อ Ringo แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาซักผ้า ไปจนถึงสบู่เหลวและแชมพู เปิ้ลก็ยังยึดหลักว่าต้องเป็นมิตรกับผิวของคนขี้แพ้เหมือนเดิม
ถึงอย่างนั้น เธอก็ขอรีบเบรกใครก็ตามที่บอกว่า Ringo เป็นแบรนด์ออร์แกนิกเอาไว้ก่อน
“เราเชื่อในความซื่อตรง เรียบง่าย ไม่โกหก ใช้สารสกัดจากธรรมชาติเท่าไหร่ก็คือเท่านั้น ดังนั้นเราจะไม่บอกว่าร้านของเราเป็นร้านขายสินค้าออร์แกนิกทั้งหมด
“เราให้ความสำคัญกับคุณภาพผลิตภัณฑ์เป็นอันดับหนึ่ง ถ้าเป็นคนใช้ของออร์แกนิกล้วน บางคนเขาจะหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสาร SLES (สารเคมีที่สกัดจากน้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม หรือแอลกอฮอล์ ทำหน้าที่ขจัดน้ำมันจากพื้นผิวและทำให้เกิดฟอง) เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ แต่ผลิตภัณฑ์ของเราประมาณ 2-3 ตัวยังมีสารนี้อยู่เพราะรู้สึกว่ามันยังจำเป็นสำหรับน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาด หรือเรายังทำให้ผลิตภัณฑ์มีฟองบ้างเพราะคนไทยอย่างเราจะยังติดว่าถ้าไม่มีฟองจะไม่สะอาด แต่สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับร่างกายเราแทบจะไม่ใช้สารเหล่านี้เลย”
ถึงจะยังมีสารบางตัวที่คนหลีกเลี่ยง แต่ทุกวันนี้ Ringo ก็ยังไม่หยุดทดลองผสมสูตรน้ำยาต่างๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อหาส่วนผสมที่เสี่ยงต่อการระคายเคืองน้อยที่สุดให้ได้
“คำว่าคุณภาพดีของเราคือเราทดลองใช้และรู้สึกโอเคกับมัน ก่อนหน้านี้เราเอาน้ำยาทุกประเภทของร้านใส่มือแล้วล้าง ซึ่งเราเป็นคนแพ้ง่ายมาก ถ้าเรารอดทุกคนต้องรอด ดังนั้นเราจึงเอามาขายเพราะเราใช้แล้วมันโอเค แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราโอเคที่จะหยุดแค่นี้นะ ทุกวันนี้เรายังพยายามหาผู้ผลิตที่จะช่วยพัฒนาเอาสารที่อาจทำให้แพ้ออกไปอยู่”
& Earth
แม้จะออกตัวไว้ตั้งแต่แรกว่า Ringo ไม่ใช่แบรนด์ที่ใช้ส่วนผสมออร์แกนิกร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแบรนด์ Ringo และ Ringo & Friends จะไม่รักโลกเสียเมื่อไหร่
ที่เห็นได้ชัดคือชั้นผลิตภัณฑ์รีฟิลขนาดใหญ่ทางซ้ายของร้านที่ลูกค้าจะเอาขวดของตัวเองมาเติมก็ได้ (ถ้าอยากแต่งขวดให้สวยขึ้นจะติดสติกเกอร์ของ Ringo ที่ขวดของตัวเองก็ได้) หรือจะซื้อขวดของร้านแล้วเอากลับมาเติมซ้ำๆ ก็ได้ คิดค่าผลิตภัณฑ์ตามน้ำหนักเหมือนร้านรีฟิลทั่วไป
แต่นอกจากระบบรีฟิลรักโลกที่ตาเห็นแล้ว ทีมดีไซเนอร์เบื้องหลังยังออกแบบความรักโลกแบบ Ringo เอาไว้ด้วย
“คนจะมีคำถามว่าทำไมเรายังใช้พลาสติกอยู่เลย” เปิ้ลชี้ไปที่ชั้นวาง
“ในฐานะที่เป็นดีไซเนอร์ เราคิดไว้ตั้งแต่ต้นว่าถ้าเราเปิดร้านรีฟิลมันจะมีบริบทของการดีไซน์ที่แน่นมาก ถ้าเป็นร้านที่ลดการใช้ทรัพยากรแบบสุดๆ เขาจะเขียนรายละเอียดสินค้าไว้บนขวด แต่จะเห็นว่าขวดสินค้าของเรายังแปะสติกเกอร์อยู่เพราะเรารู้สึกว่ามันสวยกว่า ถึงอย่างนั้นเราก็เลือกสติกเกอร์ที่คุณภาพดีที่สุด ฉีกขาดยาก ขวดก็ใช้พลาสติกเบอร์ 1 ที่แข็งแรงมาก สามารถนำมาใช้ซ้ำได้เรื่อยๆ เป็นกระบวนการรีไซเคิลเหมือนกัน ส่วนถุงใส่น้ำยาเราก็เลือกที่พลาสติกคุณภาพดีที่สุดเช่นกัน เอามาใช้ซ้ำที่นี่ได้
“เอาเข้าจริงมันเร้าใจให้คนอยากเอาขวดมาเติมนะ เพราะว่าพอเอาขวดเดิมมาเติมราคามันถูกลง และขวดนั่นเราก็ทำไว้ดีแล้ว สติกเกอร์ก็สวย ใช้ไปเลยยังไงก็ไม่พัง” เปิ้ลเล่าพร้อมเสียงหัวเราะ
พอแพ็กเกจจิ้งของ Ringo รวมถึงแพ็กเกจจิ้งของเพื่อนๆ ที่วางขายในร้านยังมีพลาสติกอยู่ ทีมดีไซเนอร์จึงออกแบบระบบแยกขยะขึ้นมา เพื่อจัดการแยกขยะที่จะเกิดจากแพ็กเกจจิ้งเหล่านี้เสียเลย
“เราบอกลูกค้าว่าสามารถเอาขยะมาทิ้งที่นี่ได้นะเพราะเรามีกระบวนการแยกขยะ แกะสติกเกอร์แยกไปนู่น ขวดแยกไปนี่ แล้วส่งไปยังที่ที่รับบริจาควัสดุประเภทต่างๆ ทั้งหมดเรามองด้วยสายตาของดีไซเนอร์ มันจะมีความเนี้ยบบางอย่างซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดีจริงๆ คนที่มาจะชอบบอกว่ารู้สึกว่าที่นี่ไม่เหมือนร้านรีฟิลหรือร้านขายของธรรมชาติที่อื่น”
ความสนุกยังซุกซ่อนอยู่ในรายละเอียด เปิ้ลยังชี้ชวนให้เราดูส่วนต่างๆ ในร้านแล้วบอกว่าของเหล่านี้ได้มาจากการรีไซเคิลหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นตู้ โต๊ะ กระเบื้องที่เหลือจากการทำคาเฟ่ของเธอหรือตู้เย็นมือสองที่ขอรับช่วงต่อมาจากร้านค้าที่กำลังจะปิดตัว เป็นการมิกซ์แอนด์แมตช์ที่ลงตัว สวยงาม และตอบโจทย์ความอีโค่ของร้านไปในตัว
& Friends
Ringo เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่าแอปเปิล มาจากชื่อของเปิ้ลผู้เป็นเจ้าของไอเดียแบรนด์ไลฟ์สไตล์แบรนด์นี้
ชื่อร้าน Ringo & Friends จึงมีความหมายว่าคราวนี้เปิ้ลไม่ได้ทำร้านอยู่คนเดียว แต่ยังมีเพื่อนๆ มาช่วยกันเติมร้านให้เต็ม เริ่มจากเพื่อนรุ่นน้องอย่าง พลอย–พิมพลอย ตั้งจิตต์วัฒนา Project Co-ordinator ของ Ringo และ หนามเตย–ณัฏฐกฤตา นราพรพิพัฒน์ ที่มาช่วยชักชวนคนอื่นๆ เอาสินค้ามาวางที่นี่
“ตอนเปิดร้าน Ringo มีโปรดักต์น้ำยาล้างจานและน้ำยาทำความสะอาดอื่นๆ อยู่แล้ว แต่เราไม่ได้อยากเป็นแค่ร้านรีฟิล เราอยากขายสินค้าอื่นๆ ด้วยเหมือนเป็นร้านชำ จะขายน้ำปลา ซีอิ๊ว ข้าวสาร สินค้าที่คนใช้และกินในชีวิตประจำวัน เป็นที่มาของการชวนเพื่อนมาขายของ เพราะเราเชื่อในคำสัญญาของเพื่อน การแนะนำกันระหว่างเพื่อน เชื่อใจในคุณภาพของกันและกันว่าทุกคนที่มีของที่ดี และส่วนใหญ่เราก็พิสูจน์เองแล้วรู้สึกว่ามันดีจริงๆ
“อีกอย่างคือเราไม่ได้อยากทำร้านที่ติดต่อกันในเชิงธุรกิจกับคนที่ทำแบรนด์ใหญ่ๆ อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบสินค้าของเขา แต่การเป็นแบรนด์ใหญ่แปลว่าสินค้าของเขาจะวางขายในทุกที่ ร้านของเขาก็จะไม่ใช่พื้นที่ที่พิเศษ”
และนี่คือประเภทสินค้าจากเพื่อนๆ ที่วางขายที่นี่ เราแบ่งหมวดแบบง่ายๆ เหมือนเป็นแค็ตตาล็อกแนะนำใครที่อยากไปช้อปที่นี่ดูสักที
1. Designed by Ringo : ของดีที่เพื่อนแนะนำ ออกแบบแพ็กเกจจิ้งโดย Ringo
นอกจากจะเป็นพื้นที่วางขาย Ringo ยังใช้สกิลดีไซน์มาช่วยออกแบบให้เพื่อนที่มีสินค้าแต่ยังไม่มีแพ็กเกจจิ้ง เราจึงได้เห็นข้าวหอมมะลิออร์แกนิกจากอำนาจเจริญในแพ็กเกจจิ้งมินิมอลแบบญี่ปุ่น เกลือแบ่งขายเป็นกระปุกเล็กๆ เหมาะกับคนเมืองที่อยู่กันเป็นครอบครัวเล็กๆ หรือพริกทอดในกระปุกสุดน่ารัก ที่สนุกคือสินค้าทั้งหมดเป็นของดีจากทั่วประเทศ ไม่ต่างจากการไปเที่ยวงาน OTOP แต่ห่อหุ้มใหม่ด้วยดีไซน์เฉพาะตัว
2. Friends of Ringo : ของดีมีแบรนด์ แปะสติกเกอร์สีแดงรูปแอปเปิล
สำหรับเพื่อนที่มีแบรนด์อยู่แล้วและทีม Ringo เห็นว่าดีจนต้องแนะนำต่อ เช่น ซีอิ๊วและไข่เค็มตราบ้านตลาดน้อยของนักเขียนและนักเต้นสวิง โน๊ต มาลียา หรือปลาทูต้มหวานและเค็มแบรนด์หิวจากชุมพร พวกเขาจะวางขายด้วยแพ็กเกจจิ้งของแบรนด์ พร้อมแปะป้ายรูปแอปเปิลสีแดงเป็นสัญลักษณ์แปลว่า Friends of Ringo นอกจากนี้ แม้หลายแบรนด์จะวางขายสินค้าในที่อื่นๆ ด้วย แต่บางแบรนด์ก็มีสินค้าที่ทำขึ้นมาเพื่อขายที่ Ringo เท่านั้น จะมีอะไรบ้างสามารถถามพนักงานที่ร้านได้เลย
3. No Longer Dead (Stock) : ของค้างสต็อกที่ฟื้นคืนชีพ
ไม่ใช่แค่ของใช้และของกิน แต่ที่นี่ยังมีจานชามและเครื่องครัวขายด้วย โดยทั้งหมดที่เปิ้ลเลือกมาเป็นของค้างสต็อกดีไซน์สวยจากโรงงาน เพื่อให้มันไม่สูญหายกลายเป็นขยะเสียเปล่าๆ หรือใครมีจานชามสวยๆ ที่ใช้จนเบื่อแล้ว จะขายให้ Ringo นำไปขายต่อก็ได้ เพียงลองติดต่อไปถามข้อมูลในเพจเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมของร้านนะ
4. Good Designed Goods : ของใช้ในบ้านมีดีไซน์
เพื่อให้ครบคอนเซปต์ร้านของชำ Ringo จึงมีของใช้ในบ้านดีไซน์สวยมาขาย ไม่ว่าจะเป็นไม้กวาดบ้านบูรณ์ที่สวยจนต้องโชว์ กระเป๋าถักสำหรับใส่ผลไม้ หรือที่รองแก้วละลานตา
& Community
เพื่อนชวนเพื่อน แนะนำเพื่อนได้ไม่นาน Ringo & Friends ก็มีของวางเต็มร้าน แถมทีม Ringo ยังกำลังหาหนทางขยับขยายการใช้ชีวิตแบบดีต่อใจ ดีต่อดีไซน์ และดีต่อโลกออกไปให้ไกล อย่างการค้นหาวิธีส่งสินค้าไปยังต่างจังหวัดให้มีคาร์บอนฟุตปรินต์น้อยที่สุด หรือการโปรโมตให้ลูกค้าพกแพ็กเกจจิ้งไม่ใช้แล้วของ Ringo มาแยกที่นี่
ทำไปทำมา จากเพื่อนไม่กี่คน Ringo ก็กลายเป็นเหมือนชุมชนย่อมๆ ไปแล้ว
“เพื่อนที่มาวางสินค้าที่นี่มีทั้งเพื่อนที่เราติดต่อไปเพราะรู้ว่าเขาทำแบรนด์หรือมีผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว หรืออีกแบบคือเขาเห็นร้านของเราแล้วติดต่อมาเอง อย่างเพื่อนคนหนึ่ง เขานึกสนุกคิดว่าฉันมีเครื่องทำปุ๋ยจากเศษอาหารซื้อมาหลายหมื่นขอเอาปุ๋ยมาขายได้ไหม แล้วก็เล่าแบบอินมากว่าเขาทำเองทุกขั้นตอน มันดีจริงๆ ปลูกต้นไม้ที่บ้านขึ้นดีมากเลย แบบนี้เราสนใจนะ หรือเพื่อนอีกคนทำน้ำยาดับกลิ่นท่อจากเศษอาหาร จะเอามาให้ลองใช้ ถ้าเวิร์กจะให้เราช่วยทำบรรจุภัณฑ์ให้เราก็บอกว่าโอเค”
แล้วเราติดต่อไปได้ไหม เราแอบถาม เผื่อในอนาคตจะมีไอเดียบรรเจิดทำโปรดักต์ที่ดีต่อโลกกับเขาขึ้นมาบ้าง
“ติดต่อมาได้นะ” เปิ้ลตอบทันที
“ลองเอามาคุยกันและพัฒนาโปรดักต์ไปด้วยกันได้เลย เร็วๆ นี้ก็มีคุณแม่ขับรถมาหาเราจากลำลูกกาเพราะเขาชอบน้ำยาล้างจานของ Ringo มากและอยากเอาน้ำเต้าหู้มาขายที่ร้านของเรา เราเองก็ชอบน้ำเต้าหู้ของเขาแต่รู้สึกว่ามันหวานไปนิดหนึ่งเลยมาคุยกันว่าถ้าจะขายที่นี่ เราขอไม่มีน้ำตาลหรือหวานน้อยลงได้ไหม พัฒนาสินค้าไปด้วยกัน ซึ่งสิ่งที่ดีสำหรับเขาคือเขาก็จะได้อีกทาร์เกตหนึ่ง ต่อยอดจากที่เคยทำอยู่แล้ว
“สำหรับเรา คำว่า friends สำคัญมากนั่นคือขบวนการนี้จะไม่สำเร็จหรอกถ้าไม่มีเพื่อน ไม่มีลูกน้องในออฟฟิศที่เขาก็ไปชวนเพื่อนๆ มาเพราะเราอาจจะมีความคิดที่ไม่ได้เหมือนคนอื่นซะทีเดียว พอเราเปิดมาก็เริ่มได้เจอคนที่มีความคิดเหมือนกันคือคนที่รักความสวยงาม รักตัวเอง และรักโลกไปพร้อมๆ กัน เราอยากเป็นแบบนั้นและจะทำให้มันดี
“เพราะมันจะดีกับทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย และก็เพื่อนของเราด้วย”
Ringo & Friends
address: 5, 14 ซอยสุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
hours: 11:30-19:00 น. เปิดวันศุกร์-อาทิตย์
Facebook: Ringo & Friends