ในยุคสมัยหนึ่ง คอนโดหรือที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับความต้องการของคนเมืองที่เพิ่มขึ้น ทั้งในแง่การอยู่อาศัยที่หลายคนอยากมีที่พักที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งในแง่การลงทุนในอสังหาฯ ซึ่งเป็นวิธีการที่ใครหลายคนนิยมใช้เพื่อสร้าง passive income
แต่เมื่อทุกอย่างโตขึ้นเร็วเกินไป สุดท้ายปัญหาก็เกิดขึ้นตามมา
ถ้าเสิร์ชกูเกิลด้วยคำว่า ‘ฟองสบู่อสังหาฯ’ เราจะพบว่าผู้คนเริ่มพูดถึงประเด็นนี้กันอย่างหนาหูในช่วง 2-3 ปีให้หลัง
คาดแตกปีนี้! ฟองสบู่อสังหาฯ
เตือนเปิดตัวอสังหาฯ เยอะ ระวังล้นตลาด สัญญาณฟองสบู่กำลังมา
คอนโดฯ ผวา ฟองสบู่แตก ปี 62 หดตัวแรง 21%
วิเคราะห์ : อสังหาฯ ล้นเกิน ปีนี้อาจสาหัส?
ทั้งหมดล้วนเป็นพาดหัวบทความที่คุณจะได้เจอ และที่สำคัญคือมันเริ่มเป็นที่พูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน
หากลองคลิกอ่านบทความเหล่านั้น เราจะพบว่าสื่อแต่ละเจ้าล้วนหยิบยกทั้งงานวิจัย สถิติ หรือบทสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญหลายคนมายืนยันว่า ฟองสบู่อสังหาฯ คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริง (หรือบางแห่งก็บอกว่ามันเกิดขึ้นแล้วและกำลังวิกฤตหนัก) เมื่อหลายสื่อพูดไปในทางเดียวกันเช่นนี้ หลายคนก็คงจะพอฉุกคิดได้ว่าจะต้องตั้งตัวรับมือกับเรื่องนี้ยังไง
สำหรับคนทั่วไปหรือคนที่ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อหรือลงทุนในอสังหาฯ ผลกระทบของฟองสบู่อสังหาฯ อาจไม่ได้มากมายอะไรตราบใดที่มันไม่กระทบเศรษฐกิจโดยรวม แต่สำหรับนักลงทุนหรือผู้ที่กำลังมองหาที่พัก นี่อาจเป็นปัญหาใหญ่ เพราะราคาที่ปรากฏไม่ตรงตามสิ่งที่ควรจะเป็น แต่เหนืออื่นใดคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นคนที่สร้างอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ออกมาสู่ท้องตลาดเอง
ยกตัวอย่างเช่น AP Thai หนึ่งในแบรนด์ที่อยู่อาศัยที่หลายคนยอมรับว่าเจนจัดในเรื่องที่ทำ ที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ใหญ่นี้ล้วนประสบความสำเร็จมาด้วยดี แต่เมื่อวงการอสังหาริมทรัพย์โดยรวมกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤต แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
ในเมื่อคู่แข่งในตลาดเริ่มปรากฏตัว รวมถึงความต้องการของตลาดที่อาจจะมีจำกัด AP Thai เองจึงต้องปรับตัวกับภาวะที่กำลังจะเกิดขึ้น พวกเขารู้ว่าตอนนี้ทุกอย่างกำลังยากขึ้น แต่เหนืออื่นใดพวกเขาก็ยังเชื่อว่ามันยังมีความต้องการ ‘ที่อยู่อาศัยที่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี’ ในสังคมอยู่เสมอ
นั่นนำไปสู่การที่พวกเขาพยายามกลับไปสู่แก่นแท้ของคำว่า ‘ที่อยู่อาศัย’ ซึ่งเป็นงานหลักของพวกเขา แม้ตลาดกำลังผันผวน แต่ AP Thai ยังคงเชื่อในสิ่งที่ตัวเองทำ โดยเน้นการสร้างที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด เพราะสุดท้ายพวกเขาเชื่อว่า หากคุณภาพดีและราคาเหมาะสม อย่างไรเสียความต้องการก็ต้องเกิดขึ้นแน่
โครงการล่าสุดของพวกเขาอย่าง Life SATHORN SIERRA คือตัวอย่างที่ดี
เป็นเรื่องปกติที่เมื่อการคมนาคมที่สะดวกสบายไปปรากฏขึ้นตรงไหน ที่อยู่อาศัยก็จะตามไปที่นั่น อย่างในขั้นต้นโครงการ Life SATHORN SIERRA ก็เป็นไปตามหลักการนั้นคืออยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS ตลาดพลู แต่พวกเขาก็พยายามทำให้ดีกว่านั้นโดยเลือกให้บริเวณที่ตั้งอยู่ในระยะเดินได้ (ประมาณ 150 เมตร) หรือถ้าลูกบ้านไม่อยากเดิน พวกเขาก็มีบริการรถรับ-ส่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือก
ในแง่การอยู่อาศัย พวกเขาก็เล่นใหญ่โดยการเนรมิตสิ่งอำนวยความสะดวกจัดเต็มพร้อมกับไฮไลต์หลักคือการยกเอา ‘ธรรมชาติจากทั่วโลก’ มาไว้ในโครงการ เช่น สวนลอยฟ้าวิวธรรมชาติจำลองจาก Sierra Nevada จากประเทศสเปน, ทางเดินส่วนกลางที่จำลองมาจาก Paiva Walkways ของประเทศโปรตุเกสหรือสระว่ายน้ำในคอนโด 100 เมตรที่ยาวที่สุดในประเทศไทยที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Valle Verzasca ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น
นอกจากตัวอย่างที่ยกมา จริงๆ แล้วทั้ง Life SATHORN SIERRA และโครงการอื่นๆ ของ AP Thai ต่อจากนี้ก็ล้วนยกจุดแข็งเรื่องนี้มานำเสนอ แต่ละโครงการอาจมีรายละเอียดที่แตกต่างกันบ้าง แต่ทุกโครงการล้วนย้อนกลับไปที่ใจความเดียวกัน นั่นคือการทำงานของตัวเองให้ดีที่สุดก่อน แล้วผลที่ตามมาจะดีเอง
เพราะสุดท้ายเราไม่อาจรู้เลยว่าสถานการณ์ในอนาคตข้างหน้า ตลาดอสังหาฯ จะพลิกออกไปในหน้าไหน ฟองสบู่จะแตกหรือไม่ แต่สิ่งที่ AP Thai เลือกจะทำให้ดีที่สุดในแก่นที่พวกเขายึดถือเสมอมา นั่นคือคุณภาพของการอยู่อาศัยที่ดีและตอบโจทย์ลูกบ้านมากที่สุดนั่นเอง
23-24 พ.ย. นี้ ชมห้องดีไซน์ใหม่ ครั้งแรก One Bed Plus ให้ทุกไลฟ์สไตล์ปรับเปลี่ยนได้ไม่ซ้ำใคร ลดสูงสุด 350,000 บาท ผ่อน 999 บาท/เดือน เริ่ม 2.49 ล้านบาท ลงทะเบียนออนไลน์รับฟรี iPhone 11 Pro* ได้ที่ https://bit.ly/2O0K1Rb พิเศษ! สำหรับแฟนเพจ a day รับส่วนลดเพิ่มอีก 20,000 บาท
