ตัวอักษรแสนวิจิตรจากลายมือของข้าราชการหนุ่ม

เราคุ้นเคยกับตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เป็นตัวเขียนเอียงๆ
สวยๆ บางคนอาจเคยเขียนสมัยเรียนประถม บางคนคุ้นตาจากการ์ดอวยพรสำเร็จรูป
ฟอนต์หน้าตาสวยงามเหล่านั้นมีให้เลือกสรรและดาวน์โหลดมากมายในโปรแกรมคอมพิวเตอร์
แท้จริงแล้วฟอนต์เหล่านั้นเป็นการถอดแบบการเขียนตัวอักษรสุดวิจิตร
เป็นศาสตร์ที่มีประวัติยาวนานหลายร้อยปี เรียกว่า Calligraphy ซึ่ง มด-รพิ ริกุลสุรกาน หนุ่มข้าราชการในสำนักงานศาลยุติธรรม
หลงใหลและฝึกฝนมาร่วมปีกว่าแล้ว

การเขียนตัวอักษรหน้าตาสวยงามประหนึ่งงานศิลปะนี้
เกิดขึ้นในยุคที่อังกฤษเฟื่องฟู
เมื่อติดต่อค้าขายกับต่างชาติจึงคิดรูปแบบตัวอักษรใหม่เพื่อใช้ในหนังสือราชการ
ดูเป็นทางการและสวยงาม พอศาสตร์นี้แพร่หลายไปที่อเมริกาก็มีการคิดรูปแบบตัวอักษรอื่นๆ
ที่เขียนง่ายและไวขึ้น แม้จะเกิดขึ้นเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน
แต่ปัจจุบันมันเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่มีเหล่า Calligrapher (หรือเรียกอีกอย่างว่า Penman) กระจายอยู่ทั่วโลก
มีการรับรองความสามารถระดับปรมาจารย์ที่เรียกว่า Master Penman ศาสตร์นี้ไม่ใช่แค่การเขียนตัวหนังสือ
แต่เป็นการวาดและจัดวางตัวอักษรให้ออกมาสวยงาม ใช้งานได้ในหลายโอกาส
ทั้งที่เขียนเป็นจดหมาย การ์ด เอกสารทางการ หรือวาดเป็นรูปสุดวิจิตร

มดรู้จักและชื่นชอบศาสตร์นี้ตั้งแต่เรียนมัธยมต้น
แต่เพิ่งมาหัดเขียนจริงจังเมื่อปลายปี 2557 จากการค้นรูปการ์ดแต่งงานแล้วเจอภาพการ์ดที่เขียนด้วยลายมือแสนสวยในอินสตาแกรม
ความประทับใจงานทำมือแสนละเมียดทำให้เขากลับมาลุยทำในสิ่งที่รัก เรียนรู้เอง
ค้นคว้าเอง โดยเฉพาะพูดคุยแลกเปลี่ยนกับ Penman ต่างชาติ (เขาบอกว่าเป็นวงการที่น่ารักมากๆ) สั่งซื้อตำราจากต่างประเทศมาฝึกฝนพื้นฐานเองให้แม่นยำ
เพราะตัวอักษรเหล่านี้เกิดจากเส้นหลากรูปแบบที่มาประกอบกัน มีขนบชัดเจน
มีรายละเอียดสุดเป๊ะ แม้แต่องศาการเขียน ท่านั่งท่ายืนในการเขียน
การลงมือทำอย่างสม่ำเสมอเท่านั้นที่จะทำให้เชี่ยวชาญ เขียนได้พลิ้วไหวสวยงามและเขียนตัวอักษรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำเร็จ
ซึ่งพอฝึกฝนไปเรื่อยๆ วันหนึ่งมดก็ได้รับเชิญให้ไปเวิร์กช็อปสอนเขียน
ทำให้เขาจริงจังในการค้นคว้าศึกษาขึ้นไปอีก

คนทั่วไปอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องง่ายที่จะเขียนตัวหนังสือสักตัว
แต่สำหรับมด Calligraphy คือความหลงใหลและเป็นศาสตร์ที่มีคุณค่า
เขาหัดเขียนทุกวันและสั่งทำปากกาสำหรับเขียน (เรียกว่า Oblique Pen) แบบพิเศษมาใช้
เป็นทั้งของขวัญและการทำสัญญากับตัวเองว่าจะไม่เลิกเขียนเด็ดขาด (ออกแบบสำหรับมือมดโดยเฉพาะและมีส่วนประกอบของงาช้างตระกูลแมมมอธในนั้นด้วย!) ที่ผ่านมามดมีโอกาสรับงานเขียนการ์ดแต่งงานให้ลูกค้าหลายคน
ซึ่งคนสำคัญที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักคือ เจนสุดา ปานโต

ปัจจุบันมดสนุกสนานกับการร่วมกิจกรรมในชุมชน Calligrapher จากทั่วโลก
ส่งจดหมายเพื่อแลกงานกันในธีมต่างๆ เช่น จดหมายรัก การ์ดปีใหม่ ออกแบบลายเซ็น (ฝีมือแต่ละคนนี่เห็นแล้วกรี๊ดในความสวยและความเป็นงานทำมือมาก) เป็นคุณครูมีลูกศิษย์หลายคนมาฝากตัว
เราร้องว้าวกับงานฝีมือมดไปหลายรอบ แต่เจ้าตัวยืนยันว่ายังอยู่ระหว่างการฝึกฝน
โดยตั้งใจจะเขียน Script หรือสไตล์ตัวอักษรแบบโบราณให้ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นงานอดิเรกที่เขาจริงจัง
เพราะการเขียนตัวอักษรสวยๆ มอบพลังและความสุขให้เขา

“ด้วยความที่มันเหมือนฟอนต์คอมพิวเตอร์มาก แต่เราใส่ความเป็นมนุษย์ลงไป
มันเลยเป็นงานที่มีเสน่ห์มากสำหรับผม แล้วเวลาเราหลงใหลอะไรเยอะๆ มันก็เป็นพลังให้ตัวเอง
ผมชอบความรู้สึกเวลาที่เราคิด ตั้งใจทำอะไรให้มันดี พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
ซึ่งพอมาทำงานนี้เลยรู้ว่าจริงๆ แล้วชีวิตเรามันหยาบนะ
งานพวกนี้คือความละเอียดจริงๆ เขียนตัวหนังสือ 1 ตัว ขนาด 3 มิลลิเมตร แต่การทำให้คุณภาพเส้นสวยต้องใช้อะไรเยอะมาก
เส้นที่ตวัดแล้วน้ำหนักเบาเหมือนเส้นผม นิ่งและโค้งสวยงามเท่ากันหมด
มันผ่านการฝึกฝนมาเยอะ เป็นศิลปะที่ยิ่งทำก็ยิ่งเห็นตัวเองในแต่ละเส้นที่ลงไป
ทำแล้วก็ได้ฝึกสมาธิ”

ถามว่าอนาคตมดจะทำเป็นงานประจำไหม เขาตอบว่าไม่
แค่อยากคงความสุขในโลกอีกด้านของชีวิตไว้ต่อไปนานๆ

“แรกสุดเลยความจริงผมแค่ชอบตัวหนังสือที่สวย
สมมติเราเขียนอะไรให้เพื่อนแล้วสวย มันก็ดูมีคุณค่านะ เราทำเองตั้งแต่ต้นจนจบ
ผมชอบเขียนการ์ดให้เพื่อน พอมันสวย คนรับก็ยิ่งรู้สึกพิเศษขึ้น แค่นั้นเอง”
เขาปิดท้ายด้วยรอยยิ้ม

ติดตามงาน Calligraphy ของมดได้ทาง Instagram @rapigraphy

ภาพ ดวงสุดา กิตติวัฒนานนท์

AUTHOR