Knuckles & Notch : สตูดิโอ Risograph และจักรวาลของคนรัก ZINE บนเกาะสิงคโปร์

“ไม่รู้ว่าคุณสนใจงานริโซกราฟ (Risograph) ไหมนะ
แต่ถ้าคุณไม่รีบ เราอยากพาไปรู้จักเพื่อนชาวสิงคโปร์ที่รักการทำริโซกราฟ” แจ๊คกี้ถามระหว่างพวกเรามุ่งหน้าสู่ Bali Lane ของสิงคโปร์

ไม่สงวนท่าทีให้มากความ เราร้องเฮอย่างเสียจริต “ไปสิ ไปสิ!”

หลังออกผจญภัยในสตูดิโอ
The Fingersmith Letterpress ของ Jackie-Jacqueline Goh เรากับแจ๊คกี้พากันมาผจญภัยต่อที่สวนสนุกของคนรักริโซกราฟและสรวงสวรรค์อาร์ตบุ๊กขนาดอบอุ่นที่ซ่อนอยู่ในตึกแถวย่าน
Bali lane ที่มีชื่อเรียกว่า
Knuckles
& Notch

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ งานริโซกราฟ (Risograph) เป็นเทคนิคการพิมพ์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนทำหนังสือทำมือ Zine โปสเตอร์ ใบปลิว ตลอดจนผลงานศิลปะ มองภายนอกตัวเครื่องมีลักษณะคล้ายเครื่องถ่ายเอกสารทั่วไป แต่กระบวนการทำงานนั้นมีความน่าสนใจต่างจากอิงก์เจ็ตและเลเซอร์ นั่นคือ หนึ่ง พิมพ์ได้ครั้งละสีเท่านั้น เวลานักออกแบบหรือศิลปินต้องการพิมพ์งานที่มีหลายสี ก็ต้องทำการเปลี่ยนหลอดสีที่ต้องการใช้ใส่เข้าไปใน Color Drum ที่คนไทยเรียกกันว่าลูกโม่ , สอง หลอดสีมีสีสันที่จำกัดทำให้งานมีความเฉพาะตัว , สาม สีของงานริโซกราฟเป็นสีโปร่งแสงและสะท้อนแสงในตัวทำให้สามารถพิมพ์ซ้ำกระดาษแผ่นเดิมบริเวณเดิมโดยสร้างเอฟเฟกต์ใหม่ๆ ที่่น่าสนใจขึ้นมาได้

อ๋อ! และที่สำคัญคือเป็นเครื่องพิมพ์ที่ดีต่อโลกดีต่อใจมาก เพราะทำงานได้รวดเร็ว ราคาถูก ใช้หมึกถั่วเหลือง แถมใช้ไฟน้อย

สตูดิโอ
Knuckles & Notch
มีจุดเริ่มต้นมาจากรักแรกพบของอิลลัสเตรเตอร์หนุ่มสิงคโปร์ Djohan Hanapi ในผลงานซีน (Zine) ที่ถูกพิมพ์ด้วยกระบวนการริโซกราฟ ที่ NYC Art Book Fair เมื่อหลายปีก่อน
บวกกับช่วงเวลานั้นเทคนิคนี้ยังเป็นเรื่องใหม่มากๆ ในสิงคโปร์
เขาเลยพยายามศึกษาเรียนรู้วิธีการทำงานกับเครื่องริโซกราฟของช่างพิมพ์ฝีมือดีในลอนดอน เก็บรวบรวมตัวอย่างงานริโซกราฟ ช่วยกันหาเงินทุนเพื่อก่อตั้งบริษัทและสตูดิโอของตัวเองขึ้นร่วมกับแฟนสาว
Marilyn Yunjin และเพื่อนร่วมอุดมการณ์
Muhammad Izdi ในปี 2003

ในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กๆ
เราพบมาริลีนและเพื่อนศิลปินต่างชาติที่ข้ามน้ำข้ามทะเลเอาผลงานมาพิมพ์ที่สตูดิโอนี้นั่งคุยกันอย่างสนุกสนานถึงความเป็นไปของวงการซีนในประเทศต่างๆ บริเวณโต๊ะไม้ขนาดใหญ่กลางห้องที่ใช้เป็นพื้นที่เวิร์กช็อปบ้าง คุยงานบ้าง รายรอบไปด้วยซีนริโซกราฟกว่าร้อยเล่มจากสตูดิโอของพวกเขาและสตูดิโอจากประเทศต่างๆ
ทั่วโลก

มาริลีนชวนพวกเราร่วมวงคุย ชี้ชวนให้หยิบซีนในห้องมาอ่านได้ตามใจชอบ เราตื่นเต้นไปกับซีนไอเดียการเล่าเรื่องที่สดใหม่ มีสไตล์เฉพาะตัวตามตัวตนของศิลปินคนนั้นๆ
เช่น งานของ kan นักวาดภาพประกอบชาวสิงคโปร์ที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่ความตลกร้าย
หักมุม แต่น่ารักด้วยลายเส้นง่ายๆ พิมพ์ด้วยเทคนิค 1 colored Risograph หรือจะเป็นงานของพ่อหนุ่มนักสเกตบอร์ดที่เปลี่ยนตัวละครในจิตรกรรมจีนให้
SWAG ด้วยการเติมสเกตบอร์ด หมวกแก๊ปดีไซน์แสบซน
หรือรองเท้าสนีกเกอร์คูลๆ เข้าไปแทบจะทุกชิ้นงาน
เรียกว่าเป็นการมาปะทะกันระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้ซนแสบสุดๆ ส่วนเทคนิคการพิมพ์ก็แพรวพราว
ล้อเล่นตั้งแต่ปกที่ทำปั๊มจม DEBOSSING สีทองประกาย ข้างในพิมพ์ด้วยกระบวนการริโซกราฟล้วน

แต่ละงานที่เห็นที่นี่ผลิตในจำนวนจำกัด บางงานผลิตออกมาแค่ 50 ชิ้น บางงานผลิตแค่ 30 ชิ้น แถมทุกชิ้นงานต่างทิ้งริ้วรอยที่ไม่เพอร์เฟกต์แต่โคตรเพอร์เฟกต์ในสายตาเรา ใครโชคดีมาทันเวลาก็ยังซื้อเก็บไว้เปิดดูให้ใจเต้นแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ แต่ถ้าไม่ทันก็ต้องต้องมานั่งอ่านที่นี่เอาเพราะเขาเก็บงานทุกชิ้นไว้บนชั้นหนังสือ

ความสนุกไม่หยุดอยู่แค่นั้น เราเดินสำรวจเข้าไปด้านในสุดของสตูดิโอ เป็นมุมทำงานของทีม ประกอบด้วยเครื่องพิมพ์ริโซกราฟ โต๊ะทำงาน คลังสี (ตอนนี้สตูดิโอมีสี Fluo Pink / Purple / Red / Grey / Yellow / Fluo Orange / Green / Blue / Teal และ Black) คลังกระดาษสารพัดแบบให้ศิลปินท้องถิ่นและดีไซเนอร์ได้เลือกเนื้อกระดาษที่เหมือนกับคอนเซปต์ของเรื่องราวที่เขาวางไว้ ถ้าใครมาใช้บริการพิมพ์หรือจัดทำหนังสือที่นี่ Knuckles & Notch จะเข้าไปดูแลตั้งแต่กระบวนการพูดคุย เลือกสรรวัตถุดิบ สีที่ใช้ ขนาด จำนวน การพิมพ์ ไปจนถึงกระบวนการเข้าเล่ม ยกเว้นขั้นตอนเดียวที่ทางสตูดิโอจะไม่ยุ่งคือการออกแบบต้นฉบับชิ้นงานที่ต้องออกแบบมาให้พร้อมและเตรียมมาเป็นไฟล์ .psd

ระหว่างสำรวจมุมทำงาน ไม่ใกล้ไม่ไกลนั้น Djohan เองก็กำลังทำงานออกแบบสโนว์ไวท์สุดเซ็กซี่ของเขาเพื่อเตรียมพร้อมก่อนพิมพ์ผลงานจริงสำหรับงาน
TOKYO ART BOOK FAIR 2017 ที่กำลังจัดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้

เวลาในสิงคโปร์ใกล้หมดลงทุกที
เราฝืนใจบอกลาจักรวาลซีนและสวนสนุกริโซกราฟตรงหน้า “อย่าเพิ่งไป นั่งรอตรงนี้ก่อน!” มาริลีนบอกก่อนหายลับไปในมุมทำงานแล้วกลับมาพร้อมเครื่อง Button
Maker สีแดงเลือดนก เธอบรรจงกดกระดาษลายการ์ตูนพิมพ์ด้วยเครื่องริโซกราฟลงบนเข็มกลัดสีเงินอย่างตั้งใจ

“ไว้เจอกันอีกนะ” มาริลีนวางเข็มกลัดนั้นลงบนมือเราด้วยรอยยิ้ม

บันทึกส่งท้าย

สตูดิโอเปิดต้อนรับคนที่สนใจให้มาเยี่ยมชม
เรียนรู้ และช้อปงานริโซกราฟที่มีแค่ไม่กี่ชิ้นบนโลกจากนักเรียนศิลปะ ศิลปิน นักออกแบบสายอินดี้ทั่วโลกภายในห้องๆ เดียว เอาเป็นว่าใครใจไม่แข็งพอแนะนำว่าถ้าเผลอหลงเข้ามาที่นี่ กองทัพซีนในสตูดิโอ Knuckles
& Notch
พร้อมยั่วเย้าให้เราเสียท่า
หมดเนื้อหมดตัวกลับเมืองไทยด้วยรอยยิ้มทุกเวลาที่สัมผัส

Knuckles & Notch

hour: วันพุธ – พฤหัสบดี 11.00 – 19.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ 12.00 – 17.00 น.
knucklesandnotch.com

ภาพ กชกร มุสิผล, Knuckles & Notch

AUTHOR