โอ–นันทพร ลีลายนกุล คืออดีตอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ชอบทำอาหารมาตั้งแต่สมัยเรียน จนในที่สุดก็เลือกลาออกจากการเป็นอาจารย์มาคลุกคลีกับการทำอาหารเต็มตัว เรารู้จักโอจาก The Dish Whisperer เพจของเธอที่ลงเมนูอาหารน่าอร่อยในจานสวยๆ ที่โอชอบซื้อมาสะสม และมีโอกาสได้ผูกปิ่นโตชิมอาหารอร่อยที่เชฟคนนี้ทำขายทางเพจส่วนตัวอยู่เป็นระยะ จนไม่นานมานี้ เรารู้มาว่า O-ART-IM HOUSE บ้านหลังใหม่ของโอที่อยู่ร่วมกันกับครอบครัวคือ เชฟอาร์ต–ธีรยุทธ คงดี สามี และน้องอิ่มลูกสาวนั้นสวยแปลกตา และไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่ยังเปิดชั้นล่างเป็นร้านอาหารเล็กๆ ด้วย เราจึงโทรหาโอเพื่อขอแวะไปเยี่ยมบ้านของเธอดูสักครั้ง
O-ART-IM House ตั้งอยู่ในหมู่บ้านศรีนครซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่โออาศัยมาตั้งแต่เด็ก ออกแบบโดยรุจนัมพร เกษเกษมสุข สถาปนิกจาก Sook Architects ที่เป็นเพื่อนน้องชายของโอ บ้านหลังนี้เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างกลมกลืน ตัวบ้านจะค่อนข้างถอยร่นไปด้านหลัง เว้นที่หน้าบ้านไว้เป็นสนามหญ้า (ซึ่งใช้จอดรถได้ด้วย) มีต้นไม้ใหญ่ที่อยู่กับที่ดินมาตั้งแต่แรกยืนแผ่กิ่งก้านร่มเงา เพื่อช่วยให้หมู่บ้านซึ่งถนนค่อนข้างแคบดูไม่แออัด เกิดเป็นสภาพแวดล้อมที่ดี
นอกจากนี้บ้านของโอยังมีสีขาวและหน้าตาเรียบง่ายกลมกลืนกับบ้านหลังอื่นๆ ส่วนรูปทรงสวยแปลกตาที่ดูแล้วเหมือนการวางกล่อง 3 ใบซ้อนกันนั้น เกิดจากการที่บ้านตั้งค่อนข้างชิดมาด้านขวาเหมือนบ้านหลังอื่นๆ ในหมู่บ้านนี้ และเพื่อเว้นที่ด้านซ้ายเผื่อจะต่อเติมให้เชื่อมกับบ้านน้องชายโอที่ตั้งอยู่ด้านหลังในอนาคต (ตอนนี้บริเวณนั้นเป็นแปลงผักให้โอได้เด็ดมาทำอาหาร) การเอียงไปด้านหนึ่งแบบนี้ ถ้าทำบ้านเป็นทรงตรงๆ เพื่อนบ้านฝั่งที่อยู่ชิดกันอาจจะอึดอัด สถาปนิกจึงออกแบบให้บ้านแต่ละชั้นอยู่เหลื่อมกันเพื่อให้อาคารดูโปร่งเบา กลายมาเป็นบ้านทรงน่ารักอย่างที่เห็น ซึ่งโอบอกว่าดูๆ ไปก็เหมือนกระบองเพชรที่เป็นความหมายชื่อร้านอาหารซึ่งเธอและสามีเคยทำงานอยู่ด้วยกัน เรียกว่าทั้งเป็นการออกแบบที่ฉลาดและถูกใจเจ้าของบ้าน
จากตำแหน่งที่ตั้งและรูปทรงภายนอก เมื่อก้าวเข้าสู่ภายใน จะสัมผัสได้ถึงความโล่งโปร่ง เพราะเจ้าของบ้านต้องการให้บ้านหลังนี้โปร่งสบาย บ้านจึงมีเพดานสูง มีกระจกใสหลายด้าน และเพราะตั้งอยู่ในทิศทางแดด ทิศทางลมที่ดี แถมด้านหลังยังมีบ้านหลังอื่นเป็นร่มเงา แค่เปิดประตูหน้าต่างกว้างๆ จึงเย็นสบายแทบไม่ต้องพึ่งแอร์ ส่วนพื้นที่ของบ้านแบ่งออกเป็น
3 ชั้น เราขอเริ่มด้วยชั้นสองและชั้นสามของ O-ART-IM House ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นส่วนที่อยู่อาศัย ชั้นสองซึ่งเป็นที่ที่ครอบครัวของโออยู่ร่วมกันตอนนี้ มีพื้นที่นั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องนอนพร้อม ขณะที่ชั้นสามซึ่งยังว่างโล่งก็ถูกออกแบบไว้แบบเดียวกัน เพราะเผื่อไว้ให้กับลูกสาวที่อาจเติบโตแล้วใช้ชีวิตอยู่ในบ้านนี้ด้วยกัน (ส่วนระเบียงชั้นสามซึ่งแดดดีเหลือเกินตอนนี้ใช้เป็นที่ปลูกผักอยู่)
จากส่วนของที่อยู่กลับลงมาชั้นล่างสุดของบ้าน เรียกได้ว่าชั้นนี้เป็นดินแดนการทำอาหารเต็มความหมาย โอตั้งใจให้ชั้นนี้เป็นที่ตั้งของครัวและพื้นที่สำหรับร้านอาหารเล็กๆ ที่เธออยากเปิด เมื่อหันหน้าเข้าตัวบ้าน ทางด้านซ้ายสุดคือครัวแสตนด์เลสขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวนักทำอาหารได้อย่างดี ทำเสร็จก็นั่งชิมนั่งกินกันได้ที่เคาน์เตอร์กลางห้องครัวนั้นเลย ถัดมาตรงกลางคือโถงบันไดซึ่งกั้นเป็นพื้นที่ห้องนวดแป้ง ทำขนมของโอที่บางครั้งก็ใช้เป็นห้องเรียนสอนทำขนมได้ ข้างๆ บันไดเป็นห้องเก็บของที่ตอนนี้มีจานสวยๆ ของโออยู่เต็ม และทางด้านขวาสุดคือส่วนของร้านอาหารที่มีโต๊ะและเก้าอี้หลายตัววางอยู่ ให้ลูกค้าได้มานั่งลงชิมอาหารอร่อยๆ ฝีมือของโอและอาร์ต
O-ART-IM House จึงเป็นทั้งบ้านที่พักใจพักกายของครอบครัวนักทำอาหาร และเป็นพื้นที่สานความฝันเล็กๆ ของแม่ครัวผู้อยากมีร้านอาหารของตัวเองให้เป็นรูปเป็นร่าง ภายใต้อ้อมกอดของชุมชนที่ผู้คนมีสายสัมพันธ์ดีๆ ต่อกัน โอบอกว่าร้านของเธอน่าจะเปิดในเดือนธันวาคม เป็นร้านเล็กๆ ที่ขายอาหารอร่อยให้ลูกค้าที่คุ้นเคย “เรามีความสุขที่จำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของลูกค้าขาประจำได้ ชอบทำอาหารให้คนรู้จัก เราอยากทำร้านอาหารที่เป็นร้านของผู้คนที่อยู่แถวนี้ เป็นร้านที่มากินกันได้ทั้งเด็กและคนแก่ ทำอาหารเหมือนทำให้พ่อแม่ คุณตาคุณยาย ลูกหลานเรากิน” โอเล่าความฝันของเธอ
หากมีโอกาส อยากให้คุณได้ลองแวะเวียนมาที่บ้านสีขาวหลังนี้ซักครั้ง รับรองว่าจะได้สัมผัสทั้งความอบอุ่นจากครอบครัวนักทำอาหาร และความอบอุ่นจากอาหารดีๆ ในจานที่เหมือนทำให้คนคุ้นเคยกินเลยล่ะ
Instagram l the_dish_whisperer
ภาพ SpaceshiftStudio, Sook Architects