จากหมูเด้งถึงเอวา ด้วยรักและมิตรภาพจากสัตว์เลี้ยงที่ช่วยเยียวยาจิตใจมนุษย์บนโลกแห่งความเครียด

ช่วงที่ผ่านมา หนึ่งในภาพถ่ายที่เราชาวไทยจะได้เห็นเวลาไถฟีดโซเชียลแน่ๆ คือ เสือโคร่งขาวตัวใหญ่สายตาบ้องแบ๊ว ราวกับเป็นแมวขนาดยักษ์ และทำให้หลายคนโดนตกไปเต็มๆ เมื่อได้เห็นภาพ ‘เอวา’ สัตว์ขวัญใจตัวใหม่จากเชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี จนต้องกดติดตามเพจสวนสัตว์เพื่อตามดูภาพอัปเดตแต่ละวัน หรือถึงขั้นจองตั๋วเพื่อมาเห็นน้องเอวาตัวเป็นๆ กันเลย

หรือย้อนไปก่อนหน้าน้องเอวาไม่นาน ก็เจ้าฮิปโป ‘หมูเด้ง’ ที่ทำให้ทั่วโลกต้องตกหลุมรัก สื่อต่างชาติบางสำนักถึงขั้นพาดหัวว่า ประเทศไทยวินในฐานะที่มี ‘สัตว์น่ารักที่สุด’

น่าสนใจไม่น้อยที่ไม่ว่าใครก็ตาม เมื่อได้เห็นสัตว์ทั้งหลาย โดยเฉพาะตัวที่อาจมีบุคลิกน่ารักน่าเอ็นดู ไม่ว่าจากตัวจริงหรือภาพถ่าย ก็มักรู้สึกคลายเครียดและตกหลุมรัก นั่นคือความมหัศจรรย์ของ ‘สัตว์โลก’ ที่มีต่อ ‘มนุษย์โลก’ เคยมีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยลีดส์ที่ระบุว่า การดูวิดีโอหรือภาพสัตว์น่ารักสามารถช่วยลดระดับความเครียดได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

แม้ในชีวิตจริงเราจะไม่สามารถเลี้ยงเสือโคร่งหรือฮิปโปได้ แต่ยังมีสัตว์อีกหลายชนิดที่ผู้คนนิยมเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนหรือเป็นลูก นอกจากการ ‘แก้เหงา’ ความจริงแล้วการมีสัตว์เลี้ยงข้างกายยังส่งผลดีต่อชีวิตได้อีกหลายด้าน

แล้วสิ่งเหล่านั้นคืออะไรบ้าง?

ลดความเครียด

หลายคนมีความเครียดในชีวิตมากมาย รู้ไหมว่าเพียงแค่การ ‘สัมผัส’ หรือ ‘ตบ’ สัตว์เลี้ยงเบาๆ จะช่วยเพิ่มระดับออกซิโทซินและลดคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด ซึ่งจะสามารถช่วยให้เราผ่อนคลายและรับมือได้ดีขึ้น เมื่อต้องอยู่ภายใต้ความกดดัน รวมถึงในเวลาและสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน

ด้วยรักและมิตรภาพ

ไม่แปลกใจเลยที่บางคนจะติดสัตว์เลี้ยงตนเองมาก ราวกับพวกมันเป็นลูกในไส้ นั่นเพราะสัตว์สามารถแสดงความรักใคร่และความจงรักภักดีได้โดยไม่มีเงื่อนไข นอกจากนี้ สัตว์ยังสามารถให้ความรู้สึกมั่นคงแก่สังคมใกล้ตัวเรา และกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดหรือเพื่อนรักของเราได้ เพราะมันช่วยให้เราได้ตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์จากการสัมผัส ที่สำคัญ ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับสัตว์เลี้ยงจะช่วยลดความเหงาหรือความรู้สึกโดดเดี่ยวได้อีกด้วย

สร้างความรู้สึกในการมีเป้าหมาย

แน่นอนว่าสัตว์ส่วนใหญ่ต้องการอาหาร อาบน้ำ ตัดขน หรือเดินวิ่งออกกำลังกาย การมีความรับผิดชอบต่อสิ่งเหล่านั้นสามารถให้แรงบันดาลใจและเป็นวัตถุประสงค์บางอย่างของชีวิตได้ เช่น เราจะรู้ว่าทำไมต้องตื่นเช้า ก็เพื่อมาให้อาหารหรือพาพวกมันออกไปเดินเล่น ซึ่งในอีกด้านหนึ่ง มันก็ช่วยให้เราได้สร้าง ‘กิจวัตร’ บางอย่างขึ้นมา อันจะส่งผลต่อสุขภาพหรือการดูแลตัวเองได้ นอกจากนี้ การได้ดูแลพวกมันจะช่วยให้เรามีความภาคภูมิใจในตนเอง รวมถึงช่วยให้อาการซึมเศร้าและวิตกกังวลดีขึ้นได้

เพิ่มโอกาสในการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม

นอกจากเจ้าสัตว์ข้างกายจะคลายเหงาให้เรา พวกมันยังสร้างโอกาสในการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมให้กับเราด้วย เช่น ช่วยให้เรารู้จักเพื่อนบ้าน (ถ้าน้องหรือลูกของเราไม่เกเรหรือดุร้ายจนเกินไปนะ) เปิดโอกาสให้เราได้พามันไปพื้นที่สาธารณะต่างๆ เช่น ชายหาดหรือสวนสาธารณะ สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มวงสังคมและลดความรู้สึกเหงาโดดเดี่ยวให้กับเราได้ หรือแม้เราอาจไม่มั่นใจในการเข้าสังคม เจ้าสัตว์ข้างกายก็สามารถเป็นสะพานเชื่อมให้รู้สึกสบายใจมากขึ้นในการพบปะกับคนอื่นๆ ได้เช่นกัน

Run Animal Run

อย่างที่บอกว่า สัตว์ข้างกายสามารถช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้จากกิจวัตรบางอย่างที่เราทำกับมัน นั่นเพราะผู้ที่มีสัตว์ข้างกายมีแนวโน้มจะออกกำลังกายมากกว่าผู้ที่ไม่มี เช่น การเลี้ยงเจ้าหมา ก็ทำให้เราต้องพามันออกไปเดินเล่นมากขึ้น นอกจากเป็นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีแล้ว ยังเป็นการจัดการภาวะซึมเศร้าที่ดีได้ เพราะสำหรับบางคน ภาวะซึมเศร้าหรือโดดเดี่ยวมักบังคับให้อยากอยู่แต่ในบ้าน แต่การรับรู้ว่าเจ้าหมาที่เลี้ยงไว้ต้องออกไปข้างนอก ทำให้เราได้ลุกออกจากห้อง และแม้เพียงไม่กี่นาทีข้างนอก ก็สามารถทำให้อารมณ์ของเราดีขึ้น และทำให้รู้สึกว่าเราสามารถทำอะไรบางอย่างที่มีประโยชน์หรือมีประสิทธิภาพได้

เห็นไหมว่า ภายใต้ความน่ารักน่าเอ็นดูของสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าเราจะได้เห็นพวกมันจากที่ไหน หรือพวกมันอยู่ข้างกาย ก็สามารถช่วยให้เรากลายเป็นคนที่ดีขึ้นได้ หรืออย่างน้อยก็ช่วยปรับอารมณ์ความรู้สึก ที่จะส่งผลต่อความคิดและการกระทำของเราได้

ว่าแล้วก็ลองไถฟีดไปดูคลิปประจำวันของเอวากับหมูเด้งต่อดีกว่า

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

banana blah blah

นักวาดภาพประกอบ ที่ชอบกินอาหารสุกๆดิบๆ เป็นชีวิตจิตใจ ส่วนชีวิตนั้นก็สุกๆดิบๆไม่ต่างกัน