A BRIGHTER SUMMER DAY : วัยเยาว์ที่ผลิบานและแหลกสลายบนหน้าประวัติศาสตร์ไต้หวันร่วมสมัย

Director: Edward Yang
Region: Taiwan
Genre: Drama

ในเมฆหมอกของความไม่แน่นอนแห่งยุคสมัย เด็กหนุ่มคนหนึ่งเติบโตขึ้นเพื่อค้นหาที่ทางของตนท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างแก๊งนักเรียนในไทเป ครอบทับอีกชั้นด้วยโลกของผู้ใหญ่ที่สับสนหวาดกลัวกับปัจจุบันอันมืดมนและวันพรุ่งนี้ที่อาจจะมืดมนยิ่งกว่า – การผลิบานและแหลกสลายของจิตวิญญาณแห่งวัยเยาว์บนหน้าประวัติศาสตร์การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองครั้งสำคัญที่สุดของไต้หวัน ถูกถ่ายทอดอย่างละเอียดลออและเต็มเปี่ยมไปด้วยหัวจิตหัวใจโดย เอ็ดเวิร์ด หยาง ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่อง
A Brighter Summer Day (1991) กลายเป็นตำนานสำคัญไม่เพียงแค่ในวงการภาพยนตร์ไต้หวัน แต่ในวงการภาพยนตร์โลกด้วย นี่คือหนังเรื่องแรกของจางเจิ้น (Chang Chen) ในวัย 15 ปี ก่อนที่เขาจะกลายเป็นนักแสดงเบอร์ต้นๆ ของไต้หวันในเวลาต่อมาจวบจนปัจจุบัน

เด็กหนุ่มบนท้องถนน
ศูนย์กลางของหนังไต้หวันความยาว 4 ชั่วโมงเรื่องนี้อยู่ที่ตัวละครชื่อ เสี่ยวซื่อ (เจ้าสี่น้อย – เนื่องจากเป็นลูกคนที่สี่ในพี่น้องห้าคน) เด็กหนุ่มวัยละอ่อนที่รับบทโดยจางเจิ้น ครอบครัวของเขาอพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ หลังจากที่ก๊กมินตั๋งพ่ายสงครามกลางเมืองให้กับพรรคคอมมิวนิสต์จนต้องถอยร่นมาไต้หวัน สถานที่และช่วงเวลาในหนังคือไทเปต้นยุค 60s

เซ่อร์ (ชื่อเรียกสั้นๆ ของเสี่ยวซื่อตามที่ตัวละครอื่นเรียกเขา) เรียนโรงเรียนภาคค่ำที่เต็มไปด้วยนักเลงหัวไม้ที่นำพาเขาเข้าไปอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งของสองแก๊งคู่อริ เขาเกิดความรักต่อ หมิง เด็กสาวที่เป็นคนรักของหัวหน้าแก๊งที่เขาเข้าไปคลุกคลีอยู่ ชีวิตในโรงเรียนและบนท้องถนนของเซ่อร์ดูสุ่มเสี่ยงและทวีอันตรายขึ้นเรื่อยๆ พ่อของเขา (รับบทโดยจางกั๋วจู้ พ่อแท้ๆ ของจางเจิ้น) พยายามติดต่อเส้นสายที่พอมีเพื่อให้เขาได้เข้าเรียนในภาคกลางวันที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่า

ผู้ใหญ่บนแผ่นดินใหม่
ชีวิตในโรงเรียนและแก๊งของเซ่อร์สะท้อนภาพชีวิตเด็กหนุ่มที่ดิ้นรนหาที่ทางของตนในสภาพสังคมที่เปราะบางของไต้หวัน ในยุคสมัยที่บ้านเมืองคลุมเครือไปด้วยความไม่แน่นอนของอนาคต เซ่อร์เป็นคนรุ่นลูกของคนจากแผ่นดินใหญ่ที่อพยพมา คนรุ่นพ่อแม่เคยหวังและอาจจะยังหวังกลับคืนแผ่นดินเกิด การตั้งรกรากบนแผ่นดินใหม่จึงเต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อน

ในช่วงกลางของหนัง ภาพการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนฉายชัดเมื่อพ่อของเซ่อร์ถูกรัฐบาลก๊กมินตั๋งจับไปสอบสวนถึงความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงคนรู้จักในอดีตที่ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ เป็นเวลาหลายวันหลายคืนที่พ่อของเซ่อร์ถูกบีบบังคับให้เขียนอธิบายความสัมพันธ์ต่อผู้คนเหล่านั้นบนหน้ากระดาษความยาวไม่รู้จบ เรื่องในอดีตจากแผ่นดินเดิมพร่างพรูเจ็บปวด เพียงเพื่อจะถูกตะคอกว่าไม่ครบถ้วนพอและต้องเขียนใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า

เพลงรักของเอลวิส
หลังจากยุคอาณานิคมญี่ปุ่นนานครึ่งศตวรรษเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองยุติ สหรัฐอเมริกาเข้ามามีบทบาทในไต้หวันอย่างมากทั้งในทางการเมืองและวัฒนธรรม (สหรัฐอเมริกาสนับสนุนรัฐบาลก๊กมินตั๋งจวบจนยุค 70s จึงเปลี่ยนไปรับรองจีนแผ่นดินใหญ่แทน) บ้านของประชาชน (รวมถึงบ้านของเซ่อร์เอง) ยังเป็นบ้านแบบญี่ปุ่น ข้างนอกบ้านถูกครอบทับโดยการปกครองภายใต้กฎอัยการศึกของรัฐบาลก๊กมินตั๋ง แต่ในบ้านปิดข้างฝาด้วยโปสเตอร์เอลวิส เพรสลีย์และอวลเสียงเพลงรักของเขา

เพื่อนคู่หูของเซ่อร์เป็นเด็กตัวเล็กที่รักการร้องเพลง เขาร้องเพลงฝรั่งในคาเฟ่ที่หนุ่มสาวชอบไปและกำลังเตรียมตัวขึ้นร้องในคอนเสิร์ต เขาขอให้พี่สาวคนโตของเซ่อร์ที่รู้ภาษาอังกฤษช่วยแกะเนื้อเพลง Are You Lonesome Tonight ของเอลวิสให้ พี่สาวกับพี่ชายของเซ่อร์เถียงกันว่าเอลวิสร้องว่า bright หรือ brighter กันแน่ในท่อน ‘Does your memory stray to a bright summer day’ – การต้อนรับวัฒนธรรมอเมริกันของคนหนุ่มสาวงอกเงยขึ้นบนความหวังที่จะกลับแผ่นดินใหญ่ที่ริบหรี่ลงเรื่อยๆ ของคนรุ่นพ่อแม่ที่อพยพมา คนสองรุ่นใช้ชีวิตกันเช่นนี้ วาดหวังด้วยความหวังที่ไม่เท่ากันถึงวันในฤดูร้อนที่สดใสกว่า

เด็กสาวผู้เป็นรักแรก
หมิงกับเซ่อร์ชอบพอกันในรูปแบบความสัมพันธ์ที่ยากจะจำกัดความชัดเจน ตลอดครึ่งแรกของหนัง หมิงยังคงสถานะคนรักของหัวหน้าแก๊งที่ชื่อ Honey อยู่ (ธรรมเนียมปฏิบัติหนึ่งของหนังไต้หวันคือการนิยมแปลงชื่อตัวละครบางตัวเป็นคำภาษาอังกฤษในซับไตเติ้ลหากมีความหมายหรือเสียงพ้อง) ถึงแม้ว่า Honey จะอยู่ในระหว่างหลบหนีไปต่างจังหวัดเพื่อหนีคดีและไม่ปรากฏตัวในหนังจนกว่าจะกลางเรื่องเลยก็ตาม

สำหรับเซ่อร์ หมิงคือรักแรก แต่เขามอบให้เธอได้ก็แต่เพียงมิตรภาพซื่อๆ แม้ภายในจะรู้สึกมากมายกว่านั้น ด้วยความสวยอ่อนหวาน หมิงจึงมีผู้ชายหลายคนเข้ามาติดพัน เธอเพียงเป็นของเธอเช่นนั้น อ่อนโยนและโอภาปราศรัยรับไมตรี ไม่หวั่นไหวไปกับคำติฉินนินทา เซ่อร์รู้สึกร้อนรนด้วยคาดหวังให้หมิงบริสุทธิ์ผุดผ่องจากคำครหา ประสมปนเปกับรักแรกที่ไม่ประสา เลือดร้อนของเด็กหนุ่ม และความโอหังแบบผู้ชาย – หนังถ่ายทอดเรื่องรักแรกนี้ออกมาได้ครบถ้วนในความซับซ้อนทางอารมณ์และความรู้สึก ตัวละครมีมิติ โดยเฉพาะกับหมิง ที่หนังทิ้งช่องว่างให้คนดูได้ทำความเข้าใจเธอผ่านสายตาของเซ่อร์ หวนระลึกถึงการพยายามทำความเข้าใจความซับซ้อนของเด็กสาวที่เด็กหนุ่มเพิ่งเผชิญเป็นครั้งแรก

มาสเตอร์พีซของเอ็ดเวิร์ด หยาง ของภาพยนตร์ไต้หวัน และของภาพยนตร์โลก
นอกจากเรื่องเล่าของคนตัวเล็กตัวน้อยบนฉากหลังการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมืองในไต้หวันอันทรงพลังดังที่ได้กล่าวไปแล้ว A Brighter Summer Day ยังมีความงดงามทางศิลปะภาพยนตร์ที่น่าชื่นชม งานกำกับภาพในหลายฉากเข้าขั้นยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการวางเฟรม การเคลื่อนกล้อง ตลอดจนการเลือกที่จะให้คนดูเห็นหรือไม่เห็นอะไรโดยการกำกับแสงหรือหันไปจับภาพของสิ่งอื่นในฉาก มีหลายฉากที่ใช้การถ่ายทำแบบลองเทค อีกทั้งนักแสดงก็เป็นหน้าใหม่และไม่มีประสบการณ์ทางการแสดงมาก่อน แต่ก็ถ่ายทอดเลือดเนื้อของตัวละครมาขึ้นจอได้อย่างเป็นธรรมชาติ

เอ็ดเวิร์ด หยาง เป็นหนึ่งในคนทำหนังแถวหน้าของไต้หวันที่สร้างผลงานจำนวนไม่มากเนื่องจากเสียชีวิตลงก่อนวัยอันควร แต่ผลงานของเขาทุกเรื่องล้วนได้รับคำยกย่อง เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในหัวหอกผู้กำกับหนังไต้หวันยุคนิวเวฟ (ยุคที่ภาพยนตร์ไต้หวันเปลี่ยนจากหนังกำลังภายในและเมโลดราม่าไปเป็นหนังที่เล่าเรื่องชีวิตผู้คนธรรมดาสามัญที่สมจริงและสะท้อนสังคม)
A Brighter Summer Day ออกฉายในปี 1991 และคว้ารางวัลได้มากมายหลายเวที (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรางวัลม้าทองคำและเทศกาลภาพยนตร์เอเชียแปซิฟิก – ซ้ำยังติดลิสต์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมตลอดกาลหลายสำนักทั้งในและนอกประเทศในเวลาต่อมา) ก่อนที่ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายในชีวิตของเขา Yi Yi: A One and a Two จะส่งชื่อเขาให้โดดเด่นในสปอตไลต์ของวงการภาพยนตร์โลกอีกครั้งด้วยการชนะรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ในปี 2000 นับได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์ไม่กี่คนที่มีผลงานเข้าขั้นมาสเตอร์พีซถึงสองเรื่อง


A Brighter Summer Day
เพิ่งได้รับการบูรณะใหม่ในระบบ 4K เมื่อปลายปี 2015 หลังจากที่นักดูหนังทั่วโลกหาชมเวอร์ชั่นคุณภาพดีของหนังเรื่องนี้ไม่ได้เลยมาหลายทศวรรษ นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่หนังเรื่องนี้จะมาฉายบนจอใหญ่ในเทศกาลภาพยนตร์ไต้หวันในกรุงเทพฯ เป็นจำนวน 2 รอบ ในวันที่ 18 และ 22 มกราคม 2561 ณ โรงภาพยนตร์ ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์


หมายเหตุ:
ไม่ควรถามหาคำแปลชื่อหนังภาษาจีนของหนังเรื่องนี้ก่อนชม เพราะอาจถูกสปอยล์ได้

รายละเอียดเทศกาลภาพยนตร์ไต้หวัน: V.active

AUTHOR