The Hunting Ground : ความอื้อฉาวในรั้วปัญญาชน

Director: Kirby
Dick
Region: USA
Genre: Documentary

โลกความจริงบอกเราว่าเวลาเจอเรื่องไม่ยุติธรรมมากๆ
ทางเลือกที่เราทำได้ คือหนึ่ง, ยอมรับมันและก่นด่าโชคชะตาตัวเอง หรือสอง, สู้จนกว่าคำว่า ‘ไม่’ จะหายไปในที่สุด!

ผลตอบรับเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำดูเป็นใบเบิกทางให้วาดหวังถึงสังคมเปี่ยมคุณภาพ
แต่ไม่ใช่กับเหล่านักศึกษาสาวที่ตกเป็น ‘เหยื่อ’ ของการล่วงละเมิดทางเพศที่ปรากฏในภาพยนตร์สารคดีสุดอื้อฉาวซึ่งเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งล่าสุดเรื่องนี้
ที่แย่กว่าคือพวกเธอคล้ายถูกข่มขืนซ้ำเมื่ออาจารย์และผู้บริหารมหาวิทยาลัยไม่แยแสใส่ใจ
แถมยังซุกเรื่องนี้ไว้ใต้พรมเพราะกลัวเสียภาพลักษณ์และรายได้บริจาคมากกว่าสวัสดิภาพของนักศึกษาเอง

สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดเลยไม่ใช่การรับรู้ว่าการข่มขืนในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องปกติ
(ซึ่งนี่ก็สลดแล้วนะ) แต่คือการจำนนต่อความจริงที่ว่าสถาบันการศึกษาไม่ต่างอะไรจากนายทุนหน้าเลือดหรือนักการเมืองจอมปลิ้นปล้อน
เทคนิคที่หนังตัดสลับระหว่างคำให้การของนักศึกษาหญิงที่เป็นเหยื่อกับปาฐกถาสวยหรูในวันปฐมนิเทศ
เลยกลายเป็นความย้อนแย้งจนน่าอดสูที่เราดูแล้วยิ่งเจ็บใจ

มุขตลกร้าย (แต่เราขำแรง) ที่สุดคือทุกมหาวิทยาลัยออกมาแถลงต่อสื่อมวลชนเหมือนกันหมดว่าพร้อมจัดการปัญหานี้อย่าง
‘จริงจัง’ แต่มันก็เป็นคำพูดลอยๆ ที่ไม่มีการลงมือปฏิบัติใดๆ
นอกจากการไล่นักศึกษาชายที่มีความผิดหลังจบการศึกษา — ใช่ ไล่ออกหลังจบการศึกษา!

ส่วนตัวไม่ใช่คอสารคดีเท่าไหร่
เพราะเป็นหนังประเภทที่ชวนหลับได้ง่ายหากวิธีการเล่าเรื่องมีแค่ตั้งกล้องสัมภาษณ์บุคคล
The Hunting Ground ก็ใช้วิธีนี้ในช่วงแรกๆ
คือสลับฟุตเทจสัมภาษณ์หญิงสาวหลายๆ เคสจนเลิกใส่ใจชื่อและมหาวิทยาลัยที่เกิดเหตุ
แล้วหันมาจับเส้นเรื่องหลักของ Andrea Pino กับ Annie Clark สองสาวจาก University of North Carolina ที่เป็นตัวตั้งตัวตีลุกขึ้นมาต่อสู้กับมหาวิทยาลัยตัวเอง
แถมยังสร้างเครือข่ายรวมพลังหญิงสาวที่เป็นเหยื่อจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ซีนโร้ดมูฟวี่เล็กๆ ที่สองสาวขับรถข้ามรัฐไปพูดคุยกับเหล่าเพื่อนหญิงพลังหญิงเลยเป็นซีนที่เราประทับใจและตื่นเต้นไปกับพลังเล็กๆ
จนจ้องหน้าจอแทบไม่กะพริบตา

ประเด็นว่าสาเหตุของการถูกข่มขืนเกิดจากความมึนเมา
ไม่ระมัดระวังตัวเอง หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์คงเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกันให้แจ่มชัดอีกที แต่สิ่งที่ The Hunting Ground เน้นคือผู้หญิงเหล่านี้สมควรได้รับความชอบธรรมในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง
ให้สมกับที่พวกเธอพยายามอย่างหนักเพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดัง

จบหลักสูตรนี้ไป พวกเธอไม่ได้แค่ใบปริญญา
แต่ยังเก็บสกิลเอาตัวรอดในสังคมที่โหดร้ายออกมาด้วย

ความอยุติธรรมมันไม่ได้จบลงแค่ในรั้วมหาวิทยาลัยหรอก

AUTHOR