Harmonium : เพราะทุกคนมีความเจ็บปวดที่ยังไม่ได้รับการสะสาง

Director:
Koji Fukada
Region:
Japan
Genre:
Drama

ครอบครัวของ โทชิโอะ (Kanji Furutachi) พ่อบ้านผู้เงียบขรึม
อาคิเอะ (Mariko Tsutsui) แม่บ้าน
ผู้อยู่กับสามีที่ไม่เคยสนใจสิ่งใดนอกจากการทำงานง่วนกับเครื่องจักรในโรงรถทั้งวัน
และ โฮตารุ ลูกสาวที่ไม่เคยไยดีต่อผู้เป็นแม่

ความเฉยชา ความเคร่งเครียดของคนในครอบครัวเป็นสภาพสามัญของสมาชิกในบ้านหลังนี้
และน่าจะเป็นภาพตัวแทนของคนในสังคมเอเชียอีกหลายครอบครัว ที่มีพ่อเป็นใหญ่
แม่ทำงานบ้านไปตามหน้าที่ และลูกอยู่ใต้คำสั่งของพ่อแม่อย่างเคร่งครัด
ทุกอย่างดูปกติสุขดี จนกระทั่ง ยาซากะ (Tadanobu Asano) เพื่อนเก่าแก่ของโทชิโอะปรากฏตัวขึ้น
พร้อมคำขอเข้าทำงานและอาศัยร่วมชายคากับครอบครัวของโยชิโอะด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

โทชิโอะประกาศกลางโต๊ะอาหารว่ายาซากะจะมาอาศัยอยู่ด้วยชั่วคราว
เขาตัดสินใจกะทันหัน ไม่ได้ถามความเห็นภรรยา
จึงมีความขุ่นเคืองในสีหน้าและน้ำเสียงเชิงตำหนิจากภรรยาโต้กลับ

มิหนำซ้ำโทชิโอะไม่ได้บอกอาคิเอะ ว่าเพื่อนเก่าของเขาคนนี้เคยฆ่าคนจนติดคุกมาแล้ว
ความไม่ชอบมาพากลบางอย่างเริ่มคุกรุ่น
ประตูของความสัมพันธ์ปริศนาเริ่มแง้มเปิดทีละบาน ก้าวขึ้นบันไดของบาดแผลทีละระดับ
กระตุ้นให้เกิดความสนใจใคร่รู้ และความกดดันในตัวคนดูเพิ่มขึ้นทีละน้อย

เมื่อจับจ้องความสัมพันธ์ของโทชิโอะ และ ยาซากะ
ผมพบว่ามันไม่ได้ราบรื่นหมดจดเหมือนเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ยาซากะสวมใส่อยู่ตลอดเวลา
แต่เป็นดังน้ำนิ่งไหลลึกเกินหยั่งถึง ซ่อนเร้นไปด้วยความเจ็บปวด ร้าวราน
และคลั่งแค้น ช่างน่ากลัวเหมือนการได้รู้จักบุคคลเงียบเชียบ
ไม่ค่อยแสดงความคิดเห็น นั่นทำให้เราทำนายใจตัวละครอย่างยาซากะไม่ได้แม้แต่น้อย

แต่แล้วกำแพงก็เริ่มพังทลายลง เมื่อเวลาพิสูจน์ให้คนในบ้านเห็นว่าถึงยาซากะจะเป็นคนเงียบขรึม แต่ก็เป็นคนดี
ทำให้ทั้งภรรยาและลูกสาวของโทชิโอะเปิดใจยอมรับเพื่อนของพ่อ ถึงแม้เขาเคยมีประวัติดำมืดเป็นปริศนาค้ำคอ
ตรงกันข้าม ขณะที่แม่กับลูกวางใจ คนเป็นพ่ออย่างโทชิโอะกลับหวาดระแวงเพื่อนคนนี้
จนเริ่มกัดกินความรู้สึกของตัวเอง ภรรยาจึงทำตัวแปลกแยก
หนักข้อกับสามีที่ดูไม่เอาไหนของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ

หนังเรื่องนี้ไม่ได้สอนสั่งคนดู แต่ทำหน้าที่สะท้อนระบบความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว
และมิตรภาพที่มีปัญหา ซึ่งมักถูกละเลยไม่ให้สำคัญ ไม่ได้รับการแก้ไขบาดแผล
จนความรู้สึกอันละเอียดอ่อนนั้นถูกทับถมเรื้อรัง กระทั่งสายเกินแก้ไข
สิ่งที่บอกเล่า ฉายภาพทะเลสงบนิ่งในจินตนาการของผม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทะเลนั้นจะไม่มีพายุเกิดขึ้น
ไม่ได้หมายความว่าเขตในแดนป่าที่เคยทิ้งกับระเบิดเอาไว้เมื่อหลายสิบที่แล้วจะไม่มีวันระเบิด

Harmonium
แสดงให้เราเห็นว่าคลื่นใต้น้ำที่กำลังร่นถอยลงไปในทะเลช้าๆ
อาจดูไม่มีพิษภัย แต่ถ้ามันถึงจังหวะพุ่งตัวกลับมาก็จะรุนแรงเพียงพอต่อการระเบิดเป็นคลื่นยักษ์สึนามิถล่มเมืองให้ราบเป็นหน้ากลอง
และบางครั้งคนที่คุณเห็นว่าเขานิ่ง เงียบงัน ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร
จะแน่ใจได้ยังไงว่าภาพที่เห็นคือสิ่งที่ตัวเขาเป็น
ทำไมคุณถึงไว้ใจในความคิดตัวเองได้มากขนาดนั้น
นี่คือข้อความสำคัญของหนังที่จะพาผู้ชมไปสำรวจจิตใจมนุษย์
ดำดิ่งลงน้ำจนสำลักความเจ็บปวดจากผลของการกระทำ

ถ้าพูดถึงฟอร์มการกำกับของ โคจิ ฟูคะดะ
หนึ่งในผู้กำกับเจ้าของไอเดียใหม่ๆ แห่งแดนปลาดิบ Harmonium ถือเป็นการคืนกลับมาของเขาอย่างท็อปฟอร์ม
หลังเคยมีผลงานมาสเตอร์พีชอย่าง Hospitalité (2011), Au revoir l’été (2013) และ Sayonara (2015)

Harmonium
การันตีคุณภาพด้วยรางวัล Jury Award จาก
เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2016
และเสียงวิจารณ์แง่บวกของผู้ชมชาวต่างชาติ ผู้กำกับฝีมือน่าจับตาคนนี้
ลงมือกรีดแทงแสดงภาพความสูญเสียของชีวิตและจิตใจผ่านตัวละคร เมื่อประกอบกับการแสดงที่แข็งแรงของนักแสดงทุกคน
โดยเฉพาะ ทาดาโนบุ อาซาโน เขาสวมบทบาทชายผู้เย็นเยือกได้อย่างเฉียบขาด รุนแรง
และน่าขนลุกในทุกซีนที่โผล่เข้ามาบนจอ บทที่ซับซ้อนของหนังผูกปมได้แน่นหนา กลมกลึง
กระหวัดรัดเกี่ยวพาคนดูเดินทางไปสู่จุดไคลแมกซ์บนยอดเขาที่เปล่าเปลี่ยว
ก่อนกระชากความรู้สึกของคนดูจนขาดผึง ตกลงมาสู่กระแสน้ำที่เชี่ยวกราก
หลอกล่อด้วยจังหวะที่บีบรัดกดดัน จนเราหวาดระแวงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า
แล้วกระชากคุณกดลงน้ำในตอนท้าย
เพื่อดิ้นให้หลุดจากพันธนาการความแค้นด้วยแรงเฮือกสุดท้ายที่มีอยู่ของตัวเอง

Harmonium ลงโรงฉายวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ในโรงภาพยนตร์เครือ SF Cinema, Bangkok Screening Room และ House RCA

Facebook l HAL

AUTHOR