Jackie : การแสดงทรงพลังของ นาตาลี พอร์ตแมน ในบทสุภาพสุตรีหมายเลขหนึ่งที่โลกจะไม่ลืม

Director: Pablo Larraín
Region: USA
Genre: Drama / Biography

“เรามีเครื่องเล่นแผ่นเสียงเก่าอยู่เครื่องหนึ่ง ทุกคืนก่อนนอน แจ็กจะชอบฟังเพลงจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงตัวเดิม
แต่คืนนั้นแจ็กปวดหลัง และพื้นก็ช่างเย็นเยียบเสียเหลือเกิน
ฉันจึงลุกขึ้นจากเตียงเพื่อเล่นแผ่นเสียงเพลงที่แจ็กชอบในแทร็กสุดท้ายให้เขาฟัง”

“Don’t let it be
forgot, that once there was a spot, for one brief shining moment, that was
known as Camelot.”


Jacqueline Kennedy

หลังจากฉากสุดท้ายในภาพยนตร์เรื่อง
Jackie จบลง เราถึงกับต้องค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวิตและการทำงานของ JFK กับ Jackie ทันที ความจริง เราเคยรู้จัก John F. Kennedy และ Jacqueline
Kennedy ในฐานะประธานาธิบดี และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกามาบ้างแล้ว
เราคิดว่าใครที่ชอบดูหนังเกี่ยวกับชีวประวัติไม่ควรพลาดจริงๆ

ภาพยนตร์เรื่อง
Jackie เป็นภาพยนตร์ภาษาอังกฤษเรื่องแรกของผู้กำกับชาวชิลี
พาโบล ลาร์เรน (Pablo Larraín) เรื่องราวของ Jackie (รับบทโดย นาตาลี พอร์ตแมน) ได้ถูกถ่ายทอดผ่านการสัมภาษณ์ของ
Theodore H. White (รับบทโดย บิลลี่ ครูดัพ) นักข่าวนิตยสาร
LIFE ภายหลัง 1 สัปดาห์จากเหตุการณ์ลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคเนดี ซึ่งเผยให้เห็นความโศกเศร้า
และชีวิตหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวงของเธอที่สูญเสียสามีอันเป็นที่รักไปอย่างกะทันหัน

ถึงแม้ว่าชื่อหนังจะโฟกัสถึงตัวแจ็กกี้ แต่ว่าเรื่องก็ไม่ได้เล่าถึงชีวประวัติของเธอตั้งแต่เด็กจนแก่
หนังฉายให้เห็นถึง 3 ส่วน ส่วนแรกคือ ช่วงปี 1961
ที่เธอออกรายการโทรทัศน์เพื่อนำชมทำเนียบขาว (White House) ส่วนที่สองคือเหตุการณ์ลอบสังหารประธานาธิบดีที่จัตุรัสดีลลีย์ เมืองดัลลัส ในปี 1963
และส่วนสุดท้ายคือส่วนที่เธอให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของนิตยสาร
LIFE ที่บ้านของเธอใน Hyannis Port รัฐแมสซาชูเซตส์

สิ่งที่เราประทับใจมากที่สุดคือการแสดงเหนือชั้นของนาตาลี
พอร์ตแมน เรารู้สึกว่าเธอเอาอยู่กับบทบาทนี้จริงๆ นาตาลีทำได้ดีและเป็นธรรมชาติมากๆ กับบทบาทที่ภายนอกดูเป็นผู้หญิงเข้มแข็ง สง่างาม คอยสนับสนุนสามี แต่ในขณะเดียวกันก็มีความโศกเศร้าลึกอยู่ภายใน เมื่อสามีของเธอถูกยิงต่อหน้าต่อตาและกำลังจะสูญเสียสถานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งไป

ฉากที่เธอประคองร่าง
JFK ไปโรงพยาบาล
และฉากที่ต้องออกมาเป็นสักขีพยานในการรับตำแหน่งประธานาธิบดีของ ลินดอน บี. จอห์นสัน (Lyndon B. Johnson) นั้นทำเราสะเทือนใจมากจริงๆ เพราะหลังจากการสูญเสียสามีไปไม่กี่ชั่วโมง
ก็ต้องมาเช็ดเลือดของสามี และคราบน้ำตาบนใบหน้าตัวเองให้พร้อมออกมาปรากฏตัวในสภาพปกติ
เราว่ายังไงมันก็ยากลำบากจิตใจอยู่แล้ว สำหรับการต้องสูญเสียสิ่งที่สำคัญไป แถมเธอต้องเป็นพยานในการเห็นคนอื่นก้าวขึ้นแทนที่ตำแหน่งของสามีตัวเองด้วย

ความพยายามของแจ็กกี้ในการจะจัดงานศพให้ JFK อย่างสมเกียรติ และการฝังศพที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน แทนที่จะฝังศพในสุสานประจำตระกูล
ทั้งๆ ที่ Bobby (รับบทโดย ปีเตอร์ ซาร์สการ์ด) น้องชายของ JFK
ไม่เห็นด้วย เนื่องจากยุ่งยากในการรักษาความปลอดภัย เรามองว่าแจ็กกี้ไม่ได้ทำเพื่อ JFK เท่าไหร่นัก
แต่เป็นเหตุผลจากความพยายามที่เธอเคยผลักดันให้สามีได้เป็นถึงประธานาธิบดี ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองยังมีตัวตนอยู่ในฐานะ ‘หม้ายอันดับหนึ่ง’ ซึ่งลึกๆ เธอคงรู้สึกไม่มั่นคงต่อสถานะของตัวเองเท่าไหร่นัก มิหนำซ้ำหลังจากนั้น เธอกับลูกๆ ยังต้องย้ายออกจาก
White House อีกด้วย

ในส่วนของฉากและองค์ประกอบศิลป์ เราว่าตัวหนังทำออกมาได้สมจริง จากการลองค้นคว้าข้อมูล
พบว่าฉากที่รองประธานาธิบดีสาบานตนขึ้นเป็นประธานาธิบดีบนเครื่องบิน Air Force One นั้น
ตำแหน่งที่ทุกคนยืนในรูปภาพกับในหนังเท่ากันเป๊ะ ต้องยกย่องการทำการบ้านของคนเขียนบท
เสื้อผ้า เครื่องประดับ จริงๆ ฉากต่างๆ ทำออกมาได้ดีจนเรารู้สึกว่าเข้าไปอยู่ในยุคนั้นเวลานั้นจริงๆ

ถ้าใครชอบการแสดงของนาตาลี
พอร์ตแมน จากในเรื่อง
Black Swan อยู่แล้ว เราแนะนำให้ไปดูเรื่องนี้นะ เพราะเราว่าบทบาทที่เธอแสดงเป็นแจ็กกี้ ทำได้ดีไม่แพ้กันเลยในแง่ของอารมณ์และความรู้สึกที่บีบคั้นคนดูได้มากทีเดียว เอาเป็นว่าตัวหนัง Jackie อาจจะไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ถ้าไม่มีนาตาลี พอร์ตแมน
พาเรื่องให้ไปตลอดรอดฝั่งได้

AUTHOR